พาชม "บ้านเดี่ยวริมคลอง" ในกรุงเทพฯ สร้างด้วยเงินเก็บ หลังใหญ่เกินฝัน
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/wo/0/ud/40/201925/201925-thumbnail.jpgพาชม "บ้านเดี่ยวริมคลอง" ในกรุงเทพฯ สร้างด้วยเงินเก็บ หลังใหญ่เกินฝัน

    พาชม "บ้านเดี่ยวริมคลอง" ในกรุงเทพฯ สร้างด้วยเงินเก็บ หลังใหญ่เกินฝัน

    แชร์เรื่องนี้

    ความฝันเรื่องการมีบ้านให้กับครอบครัวเริ่มต้นขึ้นเมื่อลูกสาว 2 คนโตเป็นสาว พื้นที่ห้องที่เคยแชร์ร่วมกับครอบครัวภรรยาเริ่มคับแคบ คุณตูนและภรรยาจึงตัดสินใจสร้างบ้านของตัวเอง โดยใช้เงินเก็บ (เงินสด) ของครอบครัวมาสร้างบ้านในฝัน

    เริ่มต้นตั้งแต่ขุดเสา 

     

    หนึ่งในพิธียกเสาเอกบ้าน

    ขั้นตอนการก่อสร้างเริ่มต้น

    เมื่อมีความคิดอยากสร้างบ้านเจ้าของบ้านอย่างคุณตูนจึงตระเวนหาผู้รับเหมาเพื่อสอบถามราคาจ้างทั้งจากละแวกบ้านซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ และผู้รับเหมาจากต่างจังหวัด ราคาของผู้รับเหมาในกรุงเทพฯ คิดค่าจ้างตารางเมตรละ 12,000 บาท (รวมซื้อของให้ทั้งหมด เรียกได้ว่าหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย) แต่คุณตูนคิดดูแล้วอยากเป็นคนเลือกซื้อของเองเพราะช่วยประหยัดเงินไปได้เยอะ จึงเดินทางกลับไปบ้านเกิดที่จังหวัดอ่างทองเพื่อหาผู้รับเหมาแถวบ้านตัวเอง และก็ได้ช่างมาสร้างบ้านด้วยการเหมาค่าแรงก่อสร้าง บ้านใหม่ ทั้งหมด 4.6 แสนบาท

     

    โครงสร้างบ้านชั้นแรกที่แข็งแรง

     

    แผ่นสำเร็จปูพื้นแทนการผสมปูนเทแบบเดิมๆ

    หลังแปลนบ้านผ่านการอนุมัติจากสำนักงานเขต การก่อสร้างก็เริ่มต้นขึ้น คุณตูนตั้งใจสร้างบ้านแบบเต็มพื้นที่ ด้านหน้าติดคลองเล็กๆ ด้านหลังและข้างบ้านติดกับบ้านของญาติภรรยา

    เนื่องจากคุณตูนตัดสินใจที่จะเป็นผู้ซื้อของที่ใช้สร้างบ้านเองทั้งหมด จึงยอมเสียเวลางานส่วนตัวนานกว่า 2 เดือนวิ่งรถซื้อของทุกอย่างตั้งแต่กาวยันแทงก์น้ำ วิ่งไล่ตั้งแต่กรุงเทพฯ สุพรรณบุรี กาญจนบุรี จนกว่าจะได้ของที่ถูกใจ

     

    งานก่อสร้างชั้นสองเริ่มต้นขึ้น ใช้รถยกทุ่นแรง และอำนวยความสะดวก

    บ้านในฝันคร่าวๆ เริ่มเป็นรูป เป็นร่างแล้ว

    ช่างจากจังหวัดอ่างทองเดินทางมาตั้งแคมป์ก่อสร้างเล็กๆ ใกล้ไซต์งาน การสร้างบ้านดำเนินไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ตอกเสาเจ้าของเลือกใช้เหล็ก 6 เส้นสำหรับผูกเป็นเสาบ้านจากปกติบ้านหลังอื่นอาจเลือกใช้เหล็ก 4 เส้น รวมถึงพื้นก็ใช้แผ่นสำเร็จเพื่อความรวดเร็วในการก่อสร้าง ส่วนคานเลือกใช้แบบมาตรฐานทั้งหมด

     

    งานก่อสร้างภายในเริ่มต้นขึ้น

    พื้นบ้านเจ้าของต้องการยกพื้นให้สูงจากพื้นดินเดิมประมาณ 1.5 เมตร เพราะต้องการหนีปัญหาน้ำท่วมบทเรียนจากปี 2554 เมื่อขึ้นโครงสร้างชั้นสอง เจ้าของบ้านเริ่มรู้สึกว่าแบบบ้านในฝันของตัวเองเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพราะเคยคิดว่ามันจะเป็นแค่บ้านหลังย่อมๆ แต่เมื่อทำแล้วกลับพบว่าบ้านของตัวเองมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มตกใจ (แต่จริงๆ ก็ดีใจ)

    อีกหนึ่งจุดเด่นของบ้าน เจาะเพดานเป็นรูป 8 เหลี่ยมตามความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ย

    การก่อสร้างบ้านชั้นสองนั้นเจ้าของเพิ่มความสะดวกให้กับช่างด้วยการใช้รถยกแผ่นสำเร็จรูปวางปูพื้นแทนการใช้แรงช่างยก ซึ่งจะกินเวลาและทำให้ช่างเหนื่อยจนเกินไป แม้จะเสียเงินเพิ่มแต่ก็ซื้อเวลาที่รวดเร็วขึ้นได้ หลังจากขึ้นโครงสร้างชั้นสองแล้ว เจ้าของบ้านอย่างคุณตูนเริ่มไม่ค่อยได้เก็บภาพไว้มากนัก เพราะต้องวิ่งวุ่นซื้อของตลอดเวลา มาเห็นอีกครั้งบ้านเริ่มเป็นรูปเป็นร่างจนรู้สึกหายเหนื่อย

     

    ประตูทางเข้าด้านหน้าบ้าน

    ครัวแบบเปิดที่ก่อแท่นปูนเป็นเคาน์เตอร์ และใช้กระเบื้องที่เหลือจากพื้นบ้านมาทำเป็นท็อปด้านบน มุมโปรดของภรรยา

    การแบ่งพื้นที่ภายในบ้าน ชั้นล่างตั้งแต่ประตูทางเข้าบ้านซึ่งมีขนาดความกว้าง 1 เมตร เจ้าของบ้านเลือกซื้อบานประตูไม้จากต่างจังหวัดซึ่งมีไซส์ใหญ่เกินปกติ (เพราะปกติประตูจะมีขนาดมาตรฐานที่ความกว้าง 80 ซม. ) แต่ประตูหน้าบ้านกลับใหญ่ถึง 1 เมตร แถมได้ไม้สักพร้อมวงกบประตูแถมมาด้วย

     

    ชุดรับแขกไม้ เจ้าของวิ่งซื้อเองจากต่างจังหวัด

    ห้องน้ำด้านล่างที่แบ่งโซนเปียก - แห้ง 

    ถัดจากประตูหน้าบ้านทางด้านขวามือเป็นพื้นที่ครัวแบบเปิดที่แบ่งไว้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากภรรยาคุณตูนใช้พื้นที่สำหรับเตรียมอาหารแบบไม่เน้นทำอาหารจริงจัง มีอุ่น ทอด ทำอาหารง่ายๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนทางด้านซ้ายมือเป็นพื้นที่โล่ง ที่ตอนนี้ตั้งโต๊ะทานข้าว และชุดรับแขกที่คุณตูนเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้มาจากต่างจังหวัด พื้นที่ติดกับห้องครัวเป็นห้องน้ำที่ด้านในเลือกใช้กระเบื้องและแบ่งโซนพื้นแห้งกับเปียกออกจากกันอย่างชัดเจน จุดเด่นที่ชอบคงเป็นประตูห้องน้ำที่มีการกรุกระจกขุ่นสลักลายปลาสวยงาม

     

    บันไดขึ้นบ้านที่เลือกไม้แดง เข้าคู่กับราวสแตนเลส

    เหนือเพดานบริเวณโถงบันได

    ด้านหลังบ้านมีพื้นที่ของระเบียงที่ยื่นไปติดคลอง (ส่วนนี้ช่างทำแถมให้แบบไม่คิดค่าแรง) เนื่องจากระเบียงด้านหลังบ้านตั้งอยู่ทางทิศใต้ เวลาลมพัดจึงทำให้พื้นที่นี้น่านั่งเล่นชิลๆ ได้ตลอดทั้งวัน
    ระหว่างเดินขึ้นไปชั้นสองของตัวบ้าน ตรงบันไดบ้านคุณตูนเลือกใช้ไม้แดงแบบไม่ต้องตัดให้เสียเนื้อไม้ จึงทำให้บันไดมีรูปร่างแปลกไปจากบ้านอื่น แถมยังเลือกใช้ราวสแตนเลสแทนราวบันไดไม้แบบเดิม บริเวณนี้เว้นพื้นที่ไว้เป็นโถงบันได บนเพดานโถงบันไดห้อยโคมไฟ พร้อมติดบล็อกแก้วตรงผนังเพื่อเพิ่มแสงสว่างให้กับตัวบ้าน

     

    ห้องนอนลูกสาวคนโต อยู่ด้านหลังบ้าน มีระเบียงติดริมคลอง บรรยากาศดี

    ห้องนอนหลัก ใช้หน้าต่างแบบผลักออกและปิดด้วยปากนกแก้ว

    ชั้นสองของบ้านแบ่งพื้นที่เป็นห้องนอน 3 ห้อง และห้องน้ำอีก 1 ห้อง ห้องนอนของคุณตูนและภรรยาเป็นห้องแรก พื้นที่ในห้องนี้มีสัดส่วนที่ยื่นเนื้อที่ส่วนหนึ่งไปตรงบริเวณโถงบันได ตอนแรกคุณตูนตั้งใจใช้พื้นที่บริเวณนี้ทำเป็นห้องพระตามความต้องการของภรรยาแต่เนื่องจากถ้าเลื่อนเตียงนอนมาอีกที่หนึ่งจะตรงกับที่ตั้งของศาลพระภูมิซึ่งอยู่ด้านล่าง ทำให้ต้องเปลี่ยนใจเลื่อนเตียงนอนไปแทนห้องพระ และเปลี่ยนเป็นประดับหิ้งพระติดผนังแทน

    สำหรับอีก 2 ห้องนอนเป็นห้องของลูกสาวทั้งสองคนที่เลือกทาห้องด้วยสีชมพู ห้องนอนของลูกสาวคนโตมีระเบียงยื่นออกไปรับกับระเบียงบ้านด้านหลัง ซึ่งตอนนี้ลูกสาวคนเล็กยังคงย้ายมานอนห้องเดียวกับลูกสาวคนโตเพราะยังคงติดพี่สาว แต่คุณตูนก็ไม่ลืมแบ่งห้องไว้ให้เผื่อตอนลูกสาวคนเล็กโตและต้องการความเป็นส่วนตัว

    ห้องน้ำชั้นสองออกแบบและตกแต่งเอาใจลูกสาวทั้งสองด้วยกระเบื้องลายมิคกี้เมาส์ แต่ไม่ได้แบ่งพื้นที่โซนแห้งและเปียกเอาไว้ เนื่องจากห้องน้ำด้านบนมีพื้นที่ค่อนข้างแคบ

     

    ประตูบ้านด้านหลังแบบเลื่อน ใช้ไม้สักทอง

     

    ความโดดเด่นของบ้านกับเพดานเจาะรูป 8 เหลี่ยม และพัดลมสวยราคาเบาๆ

    แผ่นระบายอากาศติดไว้ใต้หลังคาบริเวณชั้นสองของบ้านช่วยลดความร้อนในตัวบ้าน

    จุดเด่นๆ ของบ้านหลังนี้ที่ทำให้แตกต่างจากบ้านหลังอื่นในละแวกเดียวกันคือการเลือกใช้บานประตูและหน้าต่างเป็นแบบเลื่อนแทนการเปิดเข้าออกเพราะต้องการประหยัดพื้นที่ นอกจากนั้นบริเวณเพดานชั้นล่างของบ้านยังกรุด้วยไม้และเจาะช่องเพดานเป็นรูป 8 เหลี่ยมสอดคล้องหลักฮวงจุ้ยตามความเชื่อของภรรยาที่มั่นใจว่ารูปทรง 8 เหลี่ยมจะนำมาซึ่งทรัพย์สิน นั่นรวมไปถึงการเลือกสีทาบ้าน โดยใช้สีด้านนอกเป็นสีเขียว ส่วนภายในเลือกเป็นสีฟ้าเพื่อความสบายตา
    นอกจากนี้บริเวณใต้ฝ้าหลังคาบริเวณชั้นสอง คุณตูนยังกรุแผ่นระบายอากาศไว้ใต้หลังคาเพื่อช่วยระบายความร้อน จึงทำให้ตอนกลางคืนอากาศเย็นนอนหลับสบาย

    ก่อนและหลังก่อสร้าง

    เมื่อบ้านในฝันหลังงามของคุณตูนเสร็จเรียบร้อย คุณตูนค่อยๆ มารื้อดูบัญชีรายจ่ายซื้อของปรากฏว่าหมดเงินค่าของไปประมาณ 1 ล้านบาท จนทำให้ได้บ้านหลังนี้มา ตอนนี้ก็เหลือเพียงเติมผ้าม่านกั้นแสงและของตกแต่งอีกเล็กๆ น้อยๆ ตามแต่ว่าต้องการอะไร

    บ้านในฝันของคุณตูนและครอบครัวจึงเป็นบ้านริมคลอง บรรยากาศบ้านสวนที่ใช้เงินก่อสร้างเพียง 1 ล้านกว่าๆ หากเทียบแล้วแทบจะหาไม่ได้แล้วสำหรับบ้านขนาดนี้แต่ราคาไม่น่ากลัว


    อัลบั้มภาพ 63 ภาพ

    อัลบั้มภาพ 63 ภาพ ของ พาชม "บ้านเดี่ยวริมคลอง" ในกรุงเทพฯ สร้างด้วยเงินเก็บ หลังใหญ่เกินฝัน