ตึกแถวหน้าปลวก Botox ให้กลายเป็นบ้าน Hipster
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/wo/0/ud/40/200729/200729-thumbnail.jpgตึกแถวหน้าปลวก Botox ให้กลายเป็นบ้าน Hipster

    ตึกแถวหน้าปลวก Botox ให้กลายเป็นบ้าน Hipster

    2015-04-29T17:07:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    ต้องนับว่านี่เป็นการรีโนเวท เปลี่ยนแปลงสภาพตึกแถวเก่าๆ ออกมาได้สวยงามที่สุดชิ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้ แบบนี้ต้องยกนิ้วให้คุณ asahi dry จากเว็บไซต์พันทิป ที่ใช้ความสามารถและพรสวรรค์ด้านการออกแบบ มาปรับปรุงบ้านซะจนคิดว่าเป็นที่พักในต่างประเทศ รับรองแฟนคลับงานรีโนเวทของ Sanook! Home ต้องชอบใจแน่ๆ

    ต้องออกตัวก่อนเลยว่านี่เป็นรีวิวแรกครับเกี่ยวกับการรีโนเวทตึกแถวซึ่งก็คือบ้านหรือเรือนหอของผมและภรรยานั่นเอง
    ที่จริงอยากทำนานแล้วแต่เพิ่งมีเวลามานั่งถ่ายรูปจัดบ้านใหม่ให้สวยงามเพราะทำบ้านเสร็จมา 2 ปีแล้ว
    แต่ช่วงนี้ออกจากงานประจำแล้วรับฟรีแลนซ์เลยมีเวลามากขึ้นเพราะงานน้อยลง 555
    ตัวผมเองมีอาชีพเป็นมัณฑนากรอยู่แล้วหรือInterior designer นั่นเอง
    เพราะฉะนั้นเรื่องออกแบบตกแต่งภายในนั้นเป็นงานถนัดอยู่แล้วเพราะทำอยู่ทุกวัน
    ตัวอาคารเดิมค่อนข้างเก่าน่าจะ 30-40 ปีมาแล้ว
    เป็นรูปที่ถ่ายในซอยเนื่องจากหารูปก่อนรีโนเวทไม่เจอแต่ตึกแถวในซอยก็หน้าตาเหมือนๆ กันหมด  

    เนื่องจากตึกเก่ามากหน้าบ้านกว้างแค่ 3.4 ม.(ซึ่งปกติเดี๋ยวนี้ตึกแถวหน้ากว้าง 4 ม.ขึ้นไป)สูง 4 ชั้น รวมชั้นลอยจะเป็น 5 ชั้น
    และระบบน้ำ ไฟฟ้า เก่ามากจึงต้องการรื้อใหม่ทั้งหมด

    ส่วนคอนเซ็ปต์ดีไซน์ที่อยากได้ก็คือแบบ Contemporary ดูอบอุ่นๆ แบบห้องรกๆก็ยังสวยได้ ไม่เอาแบบโมเดิร์นเรียบจ๋อง อารมณ์บ้านยุโรปนิดๆ ประมาณนี้(ภาพจาก Pinterest)

    ส่วนภายนอกก็อยากให้มีระแนงมาปิดด้านนอกเพื่อบังสายตาจากตึกฝั่งตรงข้ามและลดความร้อนจากแสงแดดในตัว ประมาณนี้ (ภาพจาก Pinterest)

    จึงเริ่มต้นออกแบบภายนอกใหม่ให้มีระแนงครอบ และกันสาดที่ดูโมเดิร์น ประตูหน้าบ้านออกแบบให้เป็นประตูไม้เพราะไม่ต้องจอดรถในบ้าน และอยากได้อารมณ์เหมือนบ้านยุโรปนิดๆ ประมาณนี้

    หน้าต่างเดิมก็เจาะช่องใหม่ให้ลงถึงพื้นเพื่อให้ดูโปร่งขึ้น
    ของเดิม

    ของใหม่ขยายเต็มช่อง

    ทำกันสาดใหม่ด้วยโครงเหล็กดีไซน์เรียบกรุแผ่นโพลีสีเทาดำ

    หน้าบ้านเดิมที่เป็นประตูเหล็กแบบตึกแถวทั่วไป

    ก็เปลี่ยนเป็นประตูไม้บานคู่มีซุ้มปูนและไฟสไตล์ยุโรปแบบนี้ตามที่ออกแบบไว้

    โดยรวมออกมาเป็นแบบนี้ครับ

    แตกต่างจากบ้านข้างๆ อย่างสิ้นเชิง เหอๆ

    ระหว่างทำแบบด้านนอกก็มีการเปลี่ยนแบบไปเรื่อยๆ สุดท้ายจึงมีกระจกมาแทรกระแนงอลูมิเนียมบางส่วนให้ดูมีลูกเล่นมากขึ้น
    ค่าระแนงอลูมิเนียมชุดนี้ไม่รวมกันสาดประมาณ 50,000 บาท เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว เดี๋ยวนี้คงเกือบแสนละมั๊ง
    ตอนกลางคืนเปิดไฟบ้าง

    มาดูภายในกันบ้าง
    ชั้น 1 โถงทางเข้า/ห้องนั่งเล่น/ห้องน้ำ
    การเปลี่ยนแปลงหลักๆ คือ
    -เปลี่ยนประตูทางเข้า
    -กั้นห้องติดแอร์เนื่องจากเข้ามาจะเป็นโถงสูง 2 ชั้น
    -ขยายห้องน้ำด้านหลังบ้าน
    -กรุผนังบางส่วนให้หนาขึ้นด้วยยิปซั่มเพื่อซ่อนสายไฟและท่อแอร์

    โถงทางเข้าชั้น 1 เดิมตึกนี้ถูกใช้เป็นโกดังมาก่อน

    หลังรีโนเวท

    พื้นทั้งหมดปูกระเบื้องใหม่หมดฝ้าบางส่วนก็กรุยิปซั่มทำฝ้าเรียบ กั้นห้องเพื่อติดแอร์
    เข้ามาในบ้านซ้ายมือก็เป็นผนังตกแต่งมีเตาผิงปลอมที่ออกแบบให้เป็นตู้เก็บพวกถุงเท้า

    และบรรดาของตกแต่งที่ผมชอบเปลี่ยนไปตามเทศกาลต่างๆ
    *ดอกไม้แห้งพวกยิปซี ยิปโซ เป็นเคล็ดลับที่ทำให้บ้านดูดีขึ้นได้ในราคาไม่แพงและอยู่ได้นาน

    มุมจากชั้นลอยมองลงไปโถงทางเข้าเดิม

    ผ่าง ผนังที่กรุเพิ่มเพื่อซ่อนสายไฟต่างๆ และตกแต่งด้วยกรอบรูปแบบวินเทจ และหัวกวางที่ไปหิ้วมาจากจีน

    หัวกวางเป็นไอเทมที่เจ้าของกระทู้ชื่นชอบเป็นการส่วนตัว

    การให้แสงสว่างไม่ต้องมาจากดาวน์ไลท์เสมอไป Chandelier และไฟติดผนัง เป็นตัวช่วยให้บรรยากาศบ้านดีขึ้น

    ฝั่งขวามือจากทางเข้าก็เป็นตู้รองเท้าและที่แขวนกุญแจ

    ประตูหน้าบ้านและเหล็กดัดสั่งทำตามแบบให้ดูเข้ากับส่วนอื่นๆ ของบ้าน การเลือกมือจับก็เป็นสิ่งสำคัญ

    มองย้อนกลับไปที่ประตูเหล็กเดิม

    หลังรีโนเวท ผ่าง !!!
    กลายเป็นห้องนั่งเล่นและรับแขกและมีการเสริมพื้นชั้นลอยให้ยื่นออกมาเยอะขึ้นเพื่อใช้เป็นพื้นที่ทานอาหาร

    ฝ้าห้องนี้จะเตี้ยเป็นพิเศษเนื่องจากโครงสร้างเดิมตึกเก่าๆ จะเตี้ยและแคบมาก

    ตกแต่งด้วยการแขวนกระจกเงาให้ห้องดูกว้างขึ้นอีกนิดนึง
    และเพิ่มหมอนบนโซฟาให้ดูน่านั่งๆ นอนๆ มากขึ้นแต่ต้องเลือกสีให้เข้ากันนะ

    ของตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ จะเป็นตัวช่วยให้ห้องน่าอยู่ยิ่งขึ้น

    หมอนบางใบก็เลือกให้มี Texture บ้างแต่คุมโทนสีให้เข้ากัน

    ชั้น Built-in เพื่อให้ลงล็อกกับ space พอดีถ้ากลัวจะรกให้หากล่องมาใส่ของเอา

    โคมไฟหน้าตาเก๋ๆ อีกจุด

    กรอบรูปหลายๆ ขนาดเอามาวางพิงกำแพงไว้ก็ได้ไม่ต้องแขวนเสมอไป
    *เคล็ดลับ รูปสวยๆ ที่จะใส่กรอบบางทีรูปอาจจะเป็นแค่ตัวหนังสือนิ่งๆ ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้รูปวิวมาใส่กรอบเสมอไปเพราะทำให้เชยได้

    เดี๋ยวมาต่อกันที่ชั้นลอยนะครับ

    ชั้นลอย ห้องทานอาหาร/Pantry/ครัว
    -ขยายพื้นชั้นลอยให้กว้างขึ้น
    -ทุบผนังกั้นห้องด้านหลังทำสเต็บขึ้นเนื่องจากความสูงต่างกัน 37 ซม.
    -เจาะช่องหน้าต่างด้านหลัง

    ชั้นลอยเดิมที่กั้นห้องส่วนที่ต่อเติมเอาไว้ซึ่งความสูงของพื้นต่างกันถึง 37 ซม.

    หลังรีโนเวท ผ่าง ทลายผนังออกและเปลี่ยนเป็นครัวที่รับแสงยามเช้า

    มุมมองจากโต๊ะกินข้าวไปส่วน Pantry

    ด้านหลังโต๊ะกินข้าวมีตู้ไว้เก็บของต่างๆ ที่รกๆได้ มีไรยัดใส่ตู้ไว้ก่อน

    นั่งกินข้าวก็มองลงไปที่โถงทางเข้าชั้น 1 ได้

    มุมแพนทรีจัดของให้เป็นระเบียบของที่ไม่ค่อยสวยก็จับใส่ตู้หรือโหลให้เรียบร้อย

    ตู้ไม้ข้างไมโครเวฟนั่นก็ถูกดัดแปลงเป็นตู้ยาสามัญ

    ที่เก็บขนมปังก็ถูกดัดแปลงเป็นที่เก็บช้อนส้อมให้เรียบร้อย
    *ของกระจุ๊กกระจิ๊กพวกนี้ เจ้าของกระทู้ค่อยๆ สะสมไปเรื่อยๆ ไม่ได้ซื้อมาในทีเดียวกันบางชิ้นก็ไปเจอที่ร้านขายของแต่งบ้านที่ญี่ปุ่นก็อุตส่าห์ไปหิ้วมาเพราะราคาไม่แพง เห็นแล้วบางทีอยากจะยกมาทั้งร้านอย่างตู้เก็บขนมปังนี่ราคาไม่น่าเกิน700บาทถ้าจำไม่ผิดครับ

    จิบชาหน่อยไหม

    ส่วนครัวก็เก็บของใส่ตู้เป็นหมวดหมู่ให้เรียบร้อย
    *เคล็ดลับถ้าทำบ้านใหม่ควรเลือกชุดจานชามให้เป็นแบบเดียวกันให้หมดเพื่อความสวยงาม
    ถ้ากลัวเลือกไม่ถูกก็เอาขาวล้วนหรือดำล้วนไว้ก่อนเพราะอยู่ได้กับทุกสี ดีกว่าไปเลือกลายมิกกี้เม้าท์ไม่เข้ากับอะไรเลยนะครับ

    ก่อนจะมาเป็นครัวแบบนี้

    ส่วนเตาแก๊สและเตาอบเล็กๆ ใต้เตาแก๊สใช้เป็นผ้ารูดเพื่อซ่อนถังแก๊สแต่ต้องเลือกผ้าที่ลายเข้ากันกับห้อง
    รวมถึงผ้าเช็ดมือด้วย ในเคสนี้คือเลือกสีเขียวเข้ากับสีกระเบื้อง

    อุปกรณ์ครัวก็ควรเลือกให้เข้าชุดกันทั้งหมด

    ดอกไม้แห้งช่วยคุณได้

    ครัวเป็นครัวที่ทำจากปูนตามสไตล์ครัวไทยที่ต้องการความแข็งแรง แล้วกรุด้วยกระเบื้อง ส่วนหน้าบานแบบนี้เลือกซื้อสำเร็จได้ตามโฮมโปรราคาไม่แพงครับ

    ชั้น 2 ห้องนอน/ห้องแต่งตัว/ห้องน้ำ
    -ขยายห้องน้ำ / ย้ายตำแหน่งสุขภัณฑ์ แบ่งเป็นส่วนเปียกส่วนแห้ง
    -ปรับทิศทางบันไดเนื่องจากการขยายห้องน้ำทำให้ทางเดินแคบลง
    -กั้นห้องนอนและห้องแต่งตัว
    -ขยายชุดหน้าต่างหน้าบ้าน
    -กรุผนังบางส่วนให้หนาขึ้นด้วยยิปซั่มเพื่อซ่อนสายไฟและท่อแอร์

    ห้องน้ำรูหนูและบันไดเดิมๆ แบบตึกแถวสแตนดาร์ด

    พอขยายห้องน้ำจึงต้องปรับทิศทางบันไดใหม่แบบนี้

    ราวกันตกก็เปลี่ยนใหม่หมดเป็นราวเหล็กนิ่งๆ เรียบๆ ทาสีดำและเจาะช่องหน้าต่างใหม่เป็นทรงยาวๆ แสงเข้าตอนเช้าๆ สวยงาม

    เปิดประตูเข้าห้องนอน ใช้ประตูไม้กรุกระจกฝ้า พื้นในส่วนนอนเปลี่ยนเป็นพื้นไม้จริงเพื่อให้ได้สัมผัสที่สบายเท้า

    ส่วนแต่งตัวเน้นลิ้นชักเพื่อเก็บของเยอะๆ และหน้าบานตู้เสื้อผ้ากรุด้วยกระจกเงาเพื่อใช้ส่องไปในตัวเนื่องจากที่แคบมาก

    ชุดหน้าต่างเดิมในห้องนอน

    ขยายหน้าต่างให้เต็มที่เพื่อความโปร่งโล่งสบาย ผ่าง

    การเลือกผ้าปูสำคัญมาก ควรเป็นโทนสีที่เข้ากันแต่มีโทนเข้มอ่อนต่างกัน

    ตกแต่งหัวเตียงด้วยกระจกเงา หรือจะเป็นกรอบรูปก็ได้และเน้นผนังด้วยสีเข้ม

    ข้างเตียงเสริมผนังเพิ่มขึ้นมาด้วยยิปซั่มบอร์ดเพื่อซ่อนสายไฟและติดโคมไฟหัวเตียง
    การที่ไม่เห็นสายไฟเดินยั๊วะเยี๊ยตามผนังเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้บ้านสไตล์นี้ดูสวยขึ้น

    ม่านห้องนอนควรมีม่านโปร่งและม่านทึบ

    เตียง โต๊ะหัวเตียง ตู้วางทีวี เข้าเซตกันทั้งหมดและราคาไม่แพงจาก Ikea อยู่ที่การจัดการกับสิ่งรอบข้างให้เข้ากันทั้งหมดก็ทำให้ห้องดูดีได้ด้วยของที่ราคาไม่แพง

    ห้องน้ำเน้นเรียบๆแบ่งส่วนแห้ง/เปียกชัดเจน กระจกเงาเป็นตู้เก็บของต่างๆได้และมีชั้นวางหนังสือ
    เจ้าของกระทู้ชอบอ่านการ์ตูนตอนนั่งส้วม 55

    ชั้น 3 ห้องทำงาน/ห้องน้ำ
    -กั้นห้องใหม่ด้วยชุดอลูมิเนียมสีดำและประตูกระจกใสให้ดูโปร่งสบาย
    -ขยายห้องน้ำและเปลี่ยนทิศทางบันได
    -ขยายชุดหน้าต่างหน้าบ้าน

    เปิดประตูเข้าห้องทำงานก็จะเจอส่วนนั่งเล่นก่อน

    ห้องทำงาน เจ้าของกระทู้ตั้งใจจะประหยัดงบจึงเปลี่ยนแนวออกแบบให้ดูโมเดิร์นเรียบๆ มากกว่าและดูดิบๆ อย่างสายไฟก็เดินในท่อโชว์ให้เห็นไปเลย ฝ้าเพดานก็เปิดหมดเห็นท้องพื้นชั้นบนเพื่อเพิ่มความสูงของห้อง

    เหล่าบรรดากรอบรูปและหัวกวางที่ค่อยๆ หาซื้อมาเติมเรื่อยๆ

    หน้าต่างใหม่เต็มบานทำให้ห้องดูโปร่งน่านั่งทำงานมากขึ้น
    เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดในห้องใช้ของ Ikea รุ่นที่ราคาไม่แพงทั้งสิ้นเช่นโซฟา 2,900 บาทแถมกางออกเป็นเตียงได้
    ตู้ไม้พันกว่าบาทถ้าจำไม่ผิด ขาโต๊ะ 800 บาท 2 ขา Topโต๊ะสั่งทำพิเศษไซส์ใหญ่ 3,000 บาท โต๊ะกลางตรงโซฟา 300 บาท ชั้นสังกะสีวางอุปกรณ์โมเดล 700 บาท สรุปราคาเฟอร์นิเจอร์ทั้งห้องถูกกว่ากีต้าร์ 1 ตัวอีกครับ555

    ห้องนี้ไม่ได้ติดดาวไลท์เลยครับใช้ไฟจากโคมห้อยเพดาน 2 ดวงเท่านั้นและถ้าเป็นโต๊ะทำงานและมุมนั่งเล่นอ่านหนังสือก็จะมีโคมไฟตามจุดที่จะต้องใช้งาน

    โต๊ะทำงานปกติไม่เรียบร้อยขนาดนี้นะครับ นี่จัดเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ 555 ปกติต้องมี Com อย่างน้อย 2 เครื่อง

    มุมกิจกรรมยามว่าง กีต้าร์และอุปกรณ์ต่อโมเดล

    ชั้นวางของก็หากล่องหรือลิ้นชักเสริมมาจัดเก็บของให้เป็นหมวดหมู่เพื่อทำให้ห้องไม่รก

    แสงยามบ่ายในห้องทำงาน

    ส่วนห้องน้ำที่อยู่ติดบันไดก็อยากเปลี่ยนแนวให้เป็นสไตล์ Toscana ที่ดูอิฐๆ หยาบๆ หน่อยเลยออกมาเป็นแบบนี้ ผนังปูนนี่ช่างฉาบไว้ไม่ดีอยู่แล้วเลยเข้ากับแนวซะงั้นต้องดูหยาบๆ หน่อย 555

    ส่วนชั้น 4 นั้นใช้เป็นห้องเก็บของจึงไม่ได้ตกแต่งอะไรแค่กันห้องใหม่และทาสีเท่านั้น

    รวมๆแล้วงบประมาณทั้งหมดน่าจะประมาณ 1.5 ล้านบาท ถ้าจำไม่ผิด
    คร่าวๆคือ
    -ค่าเดินระบบน้ำและไฟฟ้าใหม่ทั้งหมด
    -ทาสีทั้งภายในภายนอก
    -ทุบรื้อและก่อผนังใหม่+ผนังเบายิปซั่มบอร์ด
    -ประตูหน้าต่างอลูมิเนียม+ชุดเหล็กดัดมุ้งลวดใหม่
    -ระแนงหน้าบ้าน+กันสาด
    -ฝ้าเพดานฉาบเรียบ
    -ปูกระเบื้องทั้งหลัง พื้น+ผนัง
    -เฟอร์นิเจอร์ Built-in และ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวทั้งหมด
    -สุขภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด
    ซึ่ง 1.5ล้านนั้นเป็นการจ้างช่างแต่ละส่วนแยกๆมาไม่ได้จ้างเป็นผู้รับเหมา เราจึงต้องเป็นคนคุมงานเองและคอยซื้อของเองซึ่งจะเหนื่อยมาก และที่สำคัญไม่เสียค่าออกแบบเนื่องจากออกแบบเองทั้งหมด ซึ่งถ้าเป็นกรณีคนปกติที่ต้องจ้างผู้รับเหมาและคนออกแบบก็ตีไปว่าน่าจะอยู่ที่ 2 ล้านกว่าบาทซึ่งเป็นราคาเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วครับ

    สุดท้ายบ้านจะน่าอยู่ได้ก็ขึ้นอยู่กับคนที่เราอยู่ด้วยนะครับ เจ้าของกระทู้ก็ขอให้ทุกคนมีความสุขกับบ้านที่ตัวเองอยู่นะครับ

    เจ้าตัวนี้นอนเฝ้าหน้าบ้านทุกวัน

    สามารถติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ที่

    https://www.facebook.com/kirindesignandliving
    www.kirindl.com

     

    อัลบั้มภาพ 22 ภาพ

    อัลบั้มภาพ 22 ภาพ ของ ตึกแถวหน้าปลวก Botox ให้กลายเป็นบ้าน Hipster