“บ้าน” ที่ปรับเปลี่ยนไปหลังได้รับบทเรียนจาก “โควิด-19”

“บ้าน” ที่ปรับเปลี่ยนไปหลังได้รับบทเรียนจาก “โควิด-19”

“บ้าน” ที่ปรับเปลี่ยนไปหลังได้รับบทเรียนจาก “โควิด-19”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นี่เป็นช่วงเวลาที่เราคงต้องให้ความสำคัญกับ “บ้าน” จริงๆ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 (COVID-19) ทำให้เราได้อยู่บ้านมากขึ้น รวมทั้งหลายๆ กิจกรรมต้องเปลี่ยนจากทำนอกบ้านมาทำภายในบ้าน นอกจากนี้ “บ้าน” ยังจะต้องปรับเปลี่ยนอะไรอีกบ้างลองมาดูกัน

1.โถงทางเข้าบ้านต้องกลับมา

พื้นที่ตรงก่อนเข้าสู่ตัวบ้านจะถูกใช้งานจากการวางรองเท้าไว้ด้านนอก ไม่ต้องนำรองเท้าเข้าบ้าน นอกจากนั้นยังอาจต้องมีการหาตู้สำหรับเก็บข้าวของต่างๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในบ้าน แต่เป็นข้าวของที่สามารถเก็บไว้เพื่อเตรียมออกนอกบ้านและหลังจากกลับมาจากนอกบ้านเช่น ร่ม เสื้อกันฝน รองเท้า เป็นต้น

2.ตั้งอ่างล้างมือไว้หน้าบ้าน หรือกลางบ้าน

ในช่วงที่เราต้องใส่ใจกับเรื่องการทำความสะอาด สุขอนามัย และการล้างมือเป็นเรื่องสำคัญ ในต่างประเทศมีนักออกแบบที่ออกแบบบ้านให้กับกลุ่มแพทย์ ซึ่งใส่ใจเรื่องการทำความสะอาดมากยิ่งขึ้น จึงไม่ต้องแปลกใจหากจะมีอ่างล้างมือมาอยู่บริเวณโถงหน้าบ้าน

3.ครัวแบบปิดต้องกลับมา

เวลานี้เด็กๆ อยู่บ้านกันมากขึ้น ถ้าหากเป็นอย่างในอดีตที่ผ่านมา เด็กๆ หรือสมาชิกในบ้านคนอื่นๆ อาจจะมารวมกันอยู่ในห้องครัว เพื่อนั่งทานอาหาร พูดคุย หรือทำอาหารร่วมกัน ซึ่งจะทำให้เกิดการสัมผัสกับพื้นผิวส่วนต่างๆ ในห้องครัวและเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นหลังจากนี้ครัวอาจจะต้องเป็นสถานที่ที่เราต้องใส่ใจเรื่องสุขอนามัยมากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องการจัดพื้นที่ การทำความสะอาด การจัดข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ และควรเป็นสถานที่เพื่อการทำอาหารแต่ไม่ใช่ศูนย์รวมของสมาชิกในบ้าน

4.ดูแลใส่ใจกับเรื่องระบบระบายอากาศ

ระบบการระบายอากาศในบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่นอกจากจะช่วยให้บ้านมีความปลอดโปร่งขึ้นแล้ว การถ่ายเทอากาศภายในบ้านอย่างสะดวกยังช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโรคต่างๆ อีกด้วย ดังนั้นควรเช็กว่าระบบระบายอากาศส่วนต่างๆ ของบ้านนั้นดีหรือเปล่า หรือท่อระบายอากาศในห้องต่างๆ นั้นยังทำงานได้ดีอยู่ไหม

5.กำจัดสิ่งของที่ไม่จำเป็น เข้าสู่บ้านแบบมินิมัล

ยิ่งของเยอะยิ่งเป็นจุดพักของเชื้อโรค ดังนั้นการที่บ้านมีข้าวของน้อยที่สุดจะทำให้ลดการสะสมของเชื้อโรคภายในบ้าน ดังนั้นการกำจัดของที่ไม่จำเป็นออกไป ให้เหลือไว้แต่ของที่มีความจำเป็นต่อชีวิต นอกจากจะช่วยให้เราไม่ต้องเหนื่อยในการดูแลรักษา ทำความสะอาดแล้ว ยังประหยัดมากยิ่งขึ้น

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook