14 สิ่งที่ควรรู้ก่อนลงประกาศที่พักกับ ‘Airbnb’ เปลี่ยนที่อยู่อาศัยของคุณให้เป็นรายได้

14 สิ่งที่ควรรู้ก่อนลงประกาศที่พักกับ ‘Airbnb’ เปลี่ยนที่อยู่อาศัยของคุณให้เป็นรายได้

14 สิ่งที่ควรรู้ก่อนลงประกาศที่พักกับ ‘Airbnb’ เปลี่ยนที่อยู่อาศัยของคุณให้เป็นรายได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายคนคงรู้จักสตาร์ทอัพ Airbnb มาบ้างแล้ว แต่สำหรับคนที่ยังไม่คุ้นหูวันนี้เราจะมาอธิบายให้ฟังค่ะ Airbnb คือเว็บไซต์สื่อกลางที่ให้คนทั่วไปได้มาลงประกาศเปิดเช่าห้องพักหรือบ้านพักของตัวเองให้กับนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ เป็นสื่อที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีห้องว่าง ไม่ได้ใช้งาน และต้องการหารายได้เสริม

เอาล่ะค่ะ เมื่อเรารู้จักกับ Airbnb กันแล้ว วันนี้ในบ้าน จะพาทุกคนไปศึกษา 14 สิ่งที่ควรรู้ก่อนลงประกาศที่พักผ่าน Airbnb ใครที่กำลังคิดจะทำธุรกิจทางด้านนี้ เราอยากให้ลองทำความรู้จักกับมันให้มากก่อน เพื่อป้องกันการเกิดข้อผิดพลาดและอาจสูญเสียประโชยน์ได้นะคะ

 1. ตัวเลือกพื้นเช่าตลาดอื่นๆ 

ถึงแม้ Airbnb จะเป็นหนึ่งในตลาดที่พักที่นิยมมากที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคู่แข่งอย่าง HomeAway, FlipKey, และ VRBO ที่ได้รับความนิยมไม่ต่างกัน ซึ่งมีบางแห่งก็เจาะตลาดเฉพาะบางกลุ่มลูกค้า เช่น ลูกค้ากลุ่มเพศที่สาม เป็นต้น

2. กฎหมายที่ควรรู้

บางเว็บไซต์อาจจะไม่มีการแจ้งว่าพื้นที่ไหนมีกฎอย่างไรบ้าง ซึ่งนั่นก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ตัวอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้คือ โฮสต์คนหนึ่งในเมืองนิวยอร์กถูกปรับเงินกว่าพันดอลล่าร์เนื่องจากปล่อยบ้านให้เช่าต่อในระบบของ Airbnb ซึ่งถือว่าทำผิดกฎของเมือง ดังนั้นก่อนที่จะลงประกาศให้เช่าที่พักในประเทศไหน ควรศึกษากฎหมายของบ้านเมืองนั้นให้ดีก่อนทุกครั้ง เพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง

3. จ่ายภาษี

ค่าภาษีขึ้นอยู่กับรายได้ที่เราได้รับจากการปล่อยห้องเช่า ในบางเว็บไซต์จะมีแบบฟอร์มเสียภาษีส่งมาให้กับเรา แต่บางเว็บไซต์ก็อาจจะไม่มี ซึ่งนั่นก็เป็นความรับผิดชอบที่เราจะต้องรายงานรายได้ของเราในขั้นตอนการยื่นเรื่องขอคืนภาษี และเพื่อให้ไม่โดนหักค่าภาษีหนัก ควรคำนวนค่าเช่าให้สมดุลกับภาษีที่เราจะต้องจ่าย ก่อนเริ่มลงประกาศผ่านเว็บไซต์ต่างๆ

4. เตรียมตัวก่อนเปิดให้เช่า

มีหลายสิ่งที่เราควรทำก่อนประกาศเช่า เช่น การตั้งกฎภายในบ้าน การศึกษาเส้นทางท่องเที่ยวระแวกใกล้บ้าน ตั้งรหัส Wi-Fi ให้ข้อมูลที่นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเราได้ จัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน ให้เบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินและเบอร์สถานีตำรวจ และรายละเอียดสำคัญอีกมากมายที่เราควรจัดเตรียมไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่มาพักอาศัยจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากบ้านของเรา

5. ใช้บริการจากในหลายๆ เว็บไซต์

ไม่ใช่เฉพาะใน Airbnb เท่านั้นที่เราจะใช้บริการ ยังมีเว็บไซต์อื่นๆ อีกมากมายที่เราสามารถนำข้อมูลไปลง เพื่อเปิดโอกาlให้นักท่องเที่ยวเข้ามาจองห้องพักของเราได้มากขึ้น ทั้งนี้ แต่ละเว็บไซต์ก็จะมีกฎและเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าทำเนียม หรือค่าประกันที่ต้องชำระ ฉะนั้น ควรศึกษารายละเอียดต่างๆ ให้ดีและเลือกเว็บไซต์ที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเรามากที่สุด

6. พิจารณาค่าใช้จ่ายทั้งหมด

จริงๆ แล้วค่าใช้จ่ายหลักในการปล่อยให้เช่าห้องคือ ค่าใช้จ่ายพวกของใช้จิปาถะ เช่น สบู่ อุปกรณ์ทำความสะอาด และกระดาษทิชชู่ ดังนั้น ทุกครั้งที่เราจะต้องซื้อข้าวของเครื่องใช้เข้าบ้าน ควรซื้อเอาไว้เป็นจำนวนมาก และเพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายและประหยัดเวลา (บางคนบวกค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไว้ในค่าเช่าด้วยค่ะ)

7. เวลา

ในกรณีที่เราไม่มีเวลามากพอที่จะกลับไปทำความสะอาดห้องหลังจากแขกเข้าพักเสร็จแล้ว เราสามารถเลือกใช้บริกาบริษัทำความสะอาดที่อยู่ใกล้ๆ ได้ แต่ก็อาจจะเปลืองงบไปสักนิด การเลือกใช้ของที่เป็น DIY จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาทำความสะอาดและอยากประหยัดค่าใช้จ่าย แต่อาจจะต้องคอยตอบคำถามแขกที่มาเข้าพักอยู่บ้างนะคะ

8. เป็นเจ้าบ้านที่ดี

แขกส่วนใหญ่ที่มาใช้บริการผ่านระบบเช่าพักแบบ Airbnb มักจะคาดหวังให้เจ้าของบ้านมีอัธยาศัยดี เป็นกันเอง ให้ความรู้สึกเหมือนได้มาพักผ่อนในบ้านเพื่อน ดังนั้น หลักจากที่เราได้พบกับแขกและจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกให้เรียบร้อยแล้ว เราควรให้พื้นที่พักผ่อนส่วนตัวกับพวกเขา ไม่จำเป็นต้องอยู่เฝ้าตลอดเวลา ถ้าหากว่าเขาต้องการอะไรเพิ่มเติม เดี๋ยวเขาจะติดต่อคุณมาเองค่ะ

9. สร้างผลกำไรจากการปล่อยเช่าในระยะเวลาอันสั้น

ถึงแม้ว่าการปล่อยให้เช่าห้องระยะยาวจะง่ายต่อการบริหารจัดการมากกว่า แต่สำหรับบางคนมันกลับทำเงินได้น้อยกว่าการที่แขกมาเข้าพักในระยะเวลาสั้นๆ เพราะเราสามารถบวกค่าใช้จ่ายต่างๆ เข้าไปได้ เช่น ค่าทำความสะอาด หรือค่าข้าวของเครื่องใช้ที่คิดเป็นราคาต่อหัว ซึ่งนี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางทำเงินที่ดีเลยทีเดียว

10. ตั้งราคาให้เหมาะสม

ก่อนจะตั้งราคาค่าเช่า ควรตรวจสอบเรทราคาของคู่แข่งอย่างโรงแรมหรือโฮสเทลให้ดีก่อน หากใครที่มีทำเลบ้านพักอยู่ใกล้กับแหล่งทองเที่ยว สถานศึกษา หรือสนามบิน การตั้งราคาขั้นต่ำอาจจะทำให้เราสูญเสียผลประโยชน์จากพื้นที่ตรงนั้นไปได้

11. เพิ่มราคาจากสิ่งของที่สร้างมูลค่าได้

เริ่มแรกเราต้องรู้จักสร้างมูลค่าให้กับพื้นที่ของเราก่อน ตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีบ้านพักติดริมทะเล ที่เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ดำน้ำ กระดานโต้คลื่น หรือบรรยากาศริมทะเลสบายๆ เราอาจจะเพิ่มค่าใช้จ่ายขึ้นอีกเล็กน้อย ซึ่งถ้าบ้านของเราอยู่ในทำเลที่ดีมากพอ รับรองว่าแขกที่มาพักจะต้องเต็มใจเสียค่าใช้จ่ายเหล่านั้นอย่างแน่นอนค่ะ

12. เขียนรีวิว

ในฐานะเจ้าบ้าน การเขียนรีิวิวบ้านพักลงในพื้นที่ที่เว็บไซต์จัดเตรียมไว้ให้ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อสร้างความสนใจให้แขกอยากเข้ามาพักให้บ้านของเรา และตลอดเวลาที่แขกมาเช่าอาศัย หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น เราต้องมีสติและรู้จักรับมือกับเหตุการณ์เหล่านั้นให้ได้ และในวันที่เราพบกับแขกครั้งแรก เพียงจัดเตรียมน้ำเย็นๆ หรือชุดของว่างเพียงเล็กน้อย แค่นี้ก็จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับพวกเขา ส่วนตัวเราเองก็จะได้รับรีิวิวดีๆ กลับมาด้วยนะคะ

13. ตรวจสอบแขกที่มาเข้าพัก

ก่อนรับใครมาเข้าพักในบ้านของเรา ควรตรวจสอบให้ดีก่อนทุกครั้ง เพราะผู้เช่าอาจจะพัวพันกับคดีผิดกฎหมาย หรืออาจเป็นบุคคลที่ไม่น่าไว้ใจ โดยเจ้าของห้องพักคนหนึ่งในนิวยอร์กได้บอกไว้ว่า ถ้าเขาเจออะไรที่ไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับแขกที่จะมาเช่าห้องพัก เขาจะไม่ปล่อยห้องให้คนเหล่านั้นเช่าโดยเด็ดขาด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระในภายหลัง

14. จ้างผู้จัดการดูแลห้องเช่า

การจ้างผู้จัดการหรือผู้ดูแลสักคนหนึ่ง เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะมาดูแลห้องเช่าด้วยตัวเอง ซึ่งมันก็ครอบคลุมทุกภาระหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลความเรียบร้อย การทำความสะอาด และการจัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้ให้แขก เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เพิ่มความสะดวกให้กับเรา แต่ก็ต้องยอมแลกกับการเสียค่าใช้จ่ายอีกเพียงเล็กน้อย

หากเพื่อนๆ ชาวเว็บมีห้องพักที่ไม่ได้ใช้ หรือบ้านที่ไม่ได้อยู่ อาจจะลองเอาไปลงประกาศเช่าทางเว็บไซต์ต่างๆ ก็ได้นะคะ นับว่าเป็นอีกหนึ่งหนทางในการสร้างรายได้เสริมที่กำลังมาแรงทีเดียวล่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook