12 ขั้นตอน ซื้อคอนโดราคาถูก มือสอง จากผู้ซื้อจริง

12 ขั้นตอน ซื้อคอนโดราคาถูก มือสอง จากผู้ซื้อจริง

12 ขั้นตอน ซื้อคอนโดราคาถูก มือสอง จากผู้ซื้อจริง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากจะซื้อคอนโดมือสองที่มีราคาถูก นอกจากเรื่องงบประมาณที่ต้องพิจารณาแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่ต้องหาข้อมูลและตัดสินใจให้ดี... วันนี้ Sanook! Home ได้รวบรวมข้อมูลและขั้นตอนการซื้อคอนโดมิเนียมมือสองอย่างละเอียด ทั้ง 12 ขั้นตอน มาจากคุณ thehmmonly ของเว็บไซต์ พันทิป ดอทคอม ที่เป็นประสบการณ์จริง หวังว่าลูกบ้าน Sanook! Home คงได้ประโยชน์กันไม่มากก็น้อยคะ

ผมเพิ่งได้มีโอกาสซื้อขายคอนโดกับเขาเป็นครั้งแรกเมื่อไม่นานมานี้ เลยอยากรวบรวมข้อแนะนำต่างๆให้กับหลายๆท่านที่กำลังดูๆ หรือกำลังจะซื้อคอนโดมือสองครับของผมในกรณีต่างฝ่ายต่างก็กู้แบงค์นะครับ



1. เมื่อสนใจคอนโด นัดแนะผู้ขาย ตกลงใจซื้อ ให้ร่างสัญญาจะซื้อจะขายไว้เลย ถ้าผู้ซื้อกู้แบงค์ ก็ต้องขอสำเนาโฉนดที่ดินจากผู้ขายมาด้วย รวมทั้งสำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย จะได้รวดเร็ว
(ในสัญญาต้องระบุด้วยว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าอันไหนให้ ไม่ให้ เฟอร์นิเจอร์อันไหนให้ไม่ให้ จะได้ไม่มีปัญหา)

2. อย่าลืมถามเรื่องค่าโอนว่าใครจ่ายส่วนไหน หารอะไรบ้าง เพราะค่าใช้จ่ายโดยปกติจะมี ค่าธรรมเนียมโอน (2% ของราคาประเมินจากกรมที่ดินหรือราคาขาย), ค่าอากรแสตมป์ (0.5% ของราคาประเมินกรมที่ดิน), ค่าภาษีเงินได้, ค่าเอกสาร (ไม่กี่บาท), ค่าธรรมเนียมจำนอง (1% ของวงเงินกู้ของผู้ซื้อ), ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ (3.3% ของราคาประเมินจากกรมที่ดินหรือราคาขาย)
(ต้องตกลงกันก่อนเซ็นสัญญาจะซื้อจะขายให้เคลียร์ เพราะค่าภาษีเงินได้+ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ เป็นของผู้ขายที่ต้องรับผิดชอบเต็มจำนวน, ค่าธรรมเนียมจำนอง เป็นของผู้ซื้อที่ต้องรับผิดชอบเต็มจำนวน, ส่วนค่าธรรมเนียมโอน+ค่าอากรแสตมป์+ค่าเอกสาร มักจะหารครึ่ง หรือ ผู้ขายรับผิดชอบเต็ม)

  • ส่วนใหญ่จะสับสนกันในเรื่องค่าภาษีเงินได้ ซึ่งสำนักงานที่ดิน จะพิมพ์ใบเสร็จมาให้รวมๆกัน ทำให้เข้าใจผิด และหารกันคนละครึ่ง ต้องตกลงกันให้ดี
  • Link ไปดูราคาประเมินที่ดิน http://property.treasury.go.th/pvmwebsite/index.asp
  • เตรียมเป็นเงินสด หรือบัตรเครดิต เขาก็รับ แต่ไม่รู้ชาร์ตไหมนะครับ เพราะผมจ่ายเงินสด คำนวณดีๆ เผื่อขาดเผื่อเหลือไว้ด้วยสักหน่อยนะครับ


3. เมื่อกู้แบงค์ผ่าน ถึงวันโอน นัดไปกันเช้าๆทั้ง 2 ฝ่าย เตรียมเอกสารให้พร้อม ทะเบียนบ้านตัวจริง บัตรปชช.ตัวจริง พร้อมสำเนา  copy ไปเยอะๆไว้ก่อนสัก 5-6 ใบ ถ้าทั้ง 2 ฝ่ายพร้อม (ผู้ซื้อ+ผู้ขาย+แบงค์ทั้ง 2 ฝ่าย) ก็รีบไปเอาคิวซะ ไม่งั้นยาว ติดเที่ยง (ของผมยื่นขอคิว 10 โมง ได้ทำสัญญาซื้อขายบ่ายโมงกว่า)

4. ทำเรื่องเสร็จ เขาจะให้ไปจ่ายเงินค่าธรรมเนียมตามข้อ 2 ถ้าให้เร็วก็ให้ใครก็ได้จ่ายไปก่อน แล้วค่อยมานั่งจิ้มเครื่องคิดเลขกันทีหลัง เพราะต้องรอเอาโฉนดที่ดินอยู่ดี จ่ายเสร็จก็เอาใบเสร็จให้กับเจ้าหน้าที่คนเดิม



5. หลังจากรอสักพัก เจ้าหน้าที่จะเรียกไปรับโฉนด ถ้ากู้แบงค์ แบงค์จะไปเอาให้ ให้ไปขอมาถ่ายเอกสารไว้เลย เพราะตัวจริงแบงค์จะเก็บกลับ แนะนำถ่ายไว้สักสองสามชุดไปเลยครับ เพราะเดี๋ยวต้องใช้ตอนทำทะเบียนบ้านอีก

  • ค่าถ่ายเอกสารที่ผมไปถ่ายอยู่ในบริเวณตึกสำนักงานเขต ค่าถ่ายแพงเหมือนกัน A4 ครั้งละ 2 บาท


6. เมื่อเสร็จแล้วถ้าทันบ่าย 3 ครึ่ง ให้ไปที่สำนักงานเขต แจ้งชื่อย้ายชื่อทำทะเบียนบ้าน ไปกันทั้งผู้ซื้อผู้ขายเลยก็ได้ (ของผมโอนออกจากบ้านพ่อแม่มาเป็นเจ้าบ้านที่คอนโด ส่วนผู้ขายเดิมก็โอนย้ายออกไปก่อน อาจค่อยไปโอนย้ายเข้าเองวันหลังได้ครับ)

  • ส่วนใหญ่ที่สำนักงานเขตจะไม่นาน (มั้ง)


7. เช่นกัน ถ้าทันบ่าย 3 ครึ่ง ให้ไปการไฟฟ้าเลย ทำเรื่องเปลี่ยนชื่อมิเตอร์ไฟ ถ้ามียอดค้าง ต้องไปก่อนบ่าย 3 โมง ไม่งั้นเคาน์เตอร์ไม่รับทำเรื่องให้ ของผมโชคดี ไม่มีค้างจ่าย ไปตอน 3 โมงนิดๆ ให้ผู้ขายเอาใบเสร็จค่ามัดจำมิเตอร์มาด้วยก็ดี จะได้เร็ว ถ้าไม่มีจะยุ่งยากเสียเวลามากขึ้น (ค่ามัดจำมิเตอร์ไฟ 2,000 บาท โอนจากผู้ขายเป็นผู้ซื้อได้เลยไม่เสียเงินถ้ามีใบเสร็จเดิม ส่วนผู้ขายจะเก็บกับผู้ซื้ออีกหรือเปล่าก็อีกเรื่องนึง คุยกันก่อนก็ดีครับ)

  • แนะนำไปการไฟฟ้าหลังสุดครับ เพราะต้องใช้ทะเบียนบ้านใหม่ที่เราเป็นเจ้าบ้านเพื่อไปเปลี่ยนชื่อมิเตอร์


8. ค่าน้ำ ของผมนิติเก็บทุก 3 เดือน เลยไม่ต้องทำอะไร

9. หลังจากเสร็จสิ้น ก็กล่าวอำลา farewell กันไป แล้วผู้ซื้อก็ต้องไปแจ้งนิติบุคคลของคอนโด เอาเอกสารทะเบียนบ้านใหม่ไปด้วย เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ ได้มีที่อยู่เป็นของตัวเองแล้วววว!!! (พร้อมหนี้ )

10. วันทำสัญญาซื้อขาย แนะนำให้ลางานไปเลยครับเต็มวัน จะได้ไม่ต้องพะวงเรื่องรีบกลับ ถ้าจะไปทำทุกอย่างตามที่บอก เสร็จเอาบ่ายๆ เย็นๆ ล่ะครับ (ของผมไปตั้งแต่ 9 โมง เสร็จที่นิติประมาณ 5 โมงเย็น)

11. กินข้าวเช้าไปให้อิ่ม เตรียมน้ำ นม ขนม ไปด้วย เผื่อตอนเที่ยงอาจจะไม่ได้กินข้าวนะครับ

12. ตอนไปสำนักงานเขต กับการไฟฟ้า แนะนำไปด้วยกันเลยก็ดีครับ จะได้ไว ไม่เสียเวลา ใครชินทาง ก็ไปคันเดียวกัน (ของผม ผมขับรถไป ผู้ขายไม่เอารถมา ก็สะดวกดี เร็วดี ไม่ต้องรอกัน แล้วแต่สะดวกใจนะครับ)

การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ

การขายอสังหาริมทรัพย์กรณีดังต่อไปนี้ ไม่อยู่ในข่ายต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ

  • การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ใด ๆ ที่ไม่เข้าลักษณะเห็นการจัดสรรที่ดิน หรือการขายอาคารชุด หรือสร้างอาคารเพื่อขาย หรือมีการแบ่งขายในลักษณะคล้ายคลึงกับการจัดสรรที่ดิน หรือขายอาคารชุด หรือการแบ่งขายอาคาร หรือแม้ไม่มีการแบ่งขาย แต่มีพฤติการณ์ของผู้ขายแสดงให้เห็นชัดแจ้งว่าจะมีการแบ่งแยกภายหลังการขาย หรืออสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ขายมีไว้ในการประกอบกิจการ ได้แก่ การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ขายมีไว้ในการประกอบการเกษตรกรรม อสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย เป็นต้น 
  • การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับมาโดยทางมรดก 
  • การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยอันเป็นแหล่งสำคัญ ที่ผู้ขายมีชื่อในทะเบียนบ้าน และได้อาศัยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปีนับแต่วันที่ได้มา
  • ถ้าไม่มีชื่อเจ้าบ้านในทะเบียนบ้าน แต่ซื้อมาเกินกว่า 5 ปี อันนี้ก็ไม่เสียครับ


Credit : http://www.lawyerthai.com/articles/people/012.php
Credit : คุณ Mashi_Naz ครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก : คุณ thehmmonly จาก http://pantip.com/topic/32804197

ภาพจาก : www.istockphoto.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook