ร้อยแปดเคล็ดลับกำจัด 4 ปัญหาพื้นฐานเรื่อง "ผ้า" จะกี่ครั้งหายห่วง

ร้อยแปดเคล็ดลับกำจัด 4 ปัญหาพื้นฐานเรื่อง "ผ้า" จะกี่ครั้งหายห่วง

ร้อยแปดเคล็ดลับกำจัด 4 ปัญหาพื้นฐานเรื่อง "ผ้า" จะกี่ครั้งหายห่วง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มาดามป้าเข้าใจอารมณ์คุณแม่บ้านทั้งหลาย ที่ต้องเจอกับสารพัดสารพันปัญหาเรื่อง "ผ้า" ทั้งผ้าขาวที่ใส่ไม่กี่ครั้งก็ดูจำเหลืองเก่าอำลาเราไปก่อนเวลาอันควร หรือแม้แต่ในช่วงหน้าฝนแบบนี้เสื้อผ้าชื้นเกิดคราบเชื้อราเห็นแล้วไม่สบายตา ไหนจะคราบโคลนที่ไม่ว่าเราหรือลูกๆ เผลอไปทำเปื้อน เห็นแล้วชวนปวดหัว  Sanook! Home เลยรวบรวม 4 ปัญหาเบสิคเรื่องผ้าที่แก้ได้ด้วยนานาเคล็ดลับ



วิธีดูแลเสื้อขาวให้ขาวยาวนาน

1. ซักหลังจากใส่ไม่เกินครั้งหรือสองครั้ง

2. หากพบว่ามีคราบสกปรกติดอยู่ให้รีบกำจัดออกให้เร็วที่สุด โดยใช้น้ำยาขจัดคราบสกปรกชนิดน้ำ หรือน้ำยาซักผ้า ทาบริเวณที่เปื้อน ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วจึงนำไปซักตามขั้นตอนปกติ

3.ควรแยกผ้าขาวออกจากผ้าสีอื่นในเวลาซักเสมอ

4.เลือกผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยฟอกสีให้ขาว

5.ผงซักฟอก หรือน้ำยาซักผ้าที่เก็บไว้นานเกินไป หรือหมดอายุแล้วไม่ควรนำมาใช้ เพราะมันจะทำให้ผ้าเปลี่ยนเป็นสีเทา หรือดูหมองลงได้

6.อย่าใส่ผ้าลงไปในเครื่องจนหนักเกินไป เพราะการนำผ้าลงไปซักในปริมาณที่มากเกินไปนั้น จะทำให้ไม่มีเนื้อที่มากพอ

7.ซักด้วยน้ำร้อน ถ้าสามารถตั้งอุณหภูมิได้ เพราะน้ำร้อน จะช่วยฆ่าเชื้อโรค และขจัดคราบฝุ่นผงต่าง ๆ ในผ้าได้ดีกว่าน้ำเย็น

8.การอบผ้าให้แห้ง ควรทำตามคำแนะนำ ผ้าแต่ละอย่าง ก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน

9.ลองใช้ผ้าที่ระบุว่าเป็น “no-stain” ผ้าชนิดนี้ ทำความสะอาดง่าย

เทคนิคการซักผ้าขาวข้างต้นนี้ไม่ได้ใช้เฉพาะกับเสื้อผ้าเท่านั้น แต่เรายังสามารถนำมาใช้กับการซัก และดูแลผ้าปูที่นอนสีขาว หรือผ้าเช็ดตัวสีขาวได้อีกด้วย

วิธีทำให้ผ้าขนหนูกลับมานุ่มน่าใช้

1.เขย่า ให้นำผ้าขนหนูมาเขย่าก่อนที่จะนำลงไปซักในเครื่องซักผ้า การเขย่าจะช่วยให้เส้นใยของผ้าเปิดออก ทำให้น้ำยาซักผ้า สามารถผ่านเข้าไปข้างในเนื้อผ้าได้ดียิ่งขึ้น

2.เลือกน้ำยาซักผ้าที่เหมาะสม ถ้าเครื่องซักผ้าที่ใช้อยู่มีความแรง ก็ให้เลือกน้ำยาซักผ้าที่เข้มข้นน้อยหน่อย เพื่อรักษาพื้นผิวของผ้า ไม่ให้ถูกทำลายมากเกินไปในขณะซัก

3.ไม่ต้องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มให้มากเกินความจำเป็น เพราะสารหล่อลื่นไปจับที่เส้นใยผ้า และผ้าก็จะสูญเสียความสามารถในการซึมซับ ดังนั้นควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ

4.อบแห้งด้วยความระมัดระวัง ถ้าหากเป็นไปได้ ควรใช้วิธีตากให้แห้ง ดีกว่านำไปเข้าตู้อบ

5.ใส่ลูกเทนนิสลงไปตอนอบ แม้จะฟังดูแปลก ๆ แต่มันช่วยได้ ใส่ลูกเทนนิสลงไปลูกหรือสองลูก จะทำให้ผ้ากลับมาปุกปุยได้

วิธีกำจัดคราบราบนผ้า

1.มะนาว ใช้มะนาวถูบริเวณคราบราจากนั้นโรยเกลือลงไปอีกรอบ ก่อนจะนำผ้าไปซักให้สะอาดและตากให้แห้ง

2.น้ำส้มสายชู แช่ผ้าที่มีคราบราลงในน้ำผสมน้ำส้มสายชูประมาณ 20 นาที ก่อนจะนำไปซักและตากตามปกติ

3.ปูนขาว เป็นวิธีกำจัดคราบราที่ทำแบบเดียวกับการใช้น้ำส้มสายชู โดยนำปูนขาวผสมกับน้ำแล้วนำผ้าเจ้าปัญหาลงไปแช่และขัดคราบราด้วยแปรงจนคราบนั้นหายไป แล้วนำไปซักตามปกติ

4.โยเกิร์ต ป้ายโยเกิร์ตลงบนคราบราโดยตรง ทิ้งไว้ 1 คืนก่อนจะสังเกตว่าคราบรานั้นยังอยู่หรือไม่ ถ้าคราบรายังอยู่ให้บีบน้ำมะนาวใส่ซ้ำก่อนนำไปซักเช่นเคย

5.น้ำมันเบนซิน ใช้แปรงชุบน้ำมันเบนซินก่อนนำไปขัดที่คราบรา ก่อนจะเช็ดด้วยผ้าขนหนูและนำไปตากแดด

6.นมเปรี้ยว ซึ่งน่าจะสรรพคุณเช่นเดียวกับโยเกิร์ต นำผ้าที่มีคราบราแช่ในนมเปรี้ยวทิ้งไว้ 1 คืนก่อนจะนำมะนาวถูที่บริเวณคราบก่อนจะโรยด้วยผงชอล์กและนำไปซักทำความสะอาด

7.น้ำยาฆ่าเชื้อโรค แช่ผ้าที่มีคราบราลงในน้ำยาฆ่าเชื้อโรคจากนั้นทิ้งไว้ 1 คืนก่อนจะซักด้วยผงซักฟอกตามปกติ

วิธีกำจัดคราบโคลนบนเสื้อผ้า

1. ปล่อยให้โคลนแห้ง : เมื่อโคลนแห้งแข็ง ก็ปัดเศษผงนั้นออกไป การซักทันทีจะทำให้โคลนขยายตัวออกไปและฝังติดลงไปในเนื้อผ้ามากยิ่งขึ้น

2. ใช้น้ำยาขจัดคราบ : เมื่อขูดโคลนออกไปแล้ว ให้นำน้ำยาซักผ้า หรือน้ำยาขจัดคราบชนิดน้ำ ทาลงไปในบริเวณที่เปื้อน ทิ้งไว้สัก 15 นาที จากนั้นใช้แปรงซักผ้าที่เปียกน้ำ มาขัดบริเวณที่เปื้อน แต่สิ่งที่สำคัญคือ ในขั้นตอนนี้ ไม่ควรให้ผ้าเปียกน้ำมาก เพราะจะทำให้น้ำยาละลาย หรือเจือจางไปกับน้ำ ทำให้ขจัดคราบได้น้อยลง

3. นำไปซักตามปกติ : เมื่อขจัดคราบเฉพาะจุดออกแล้วให้นำผ้าไปซักตามปกติ หากเครื่องซักผ้าสามารถเลือกอุณหภูมิน้ำได้ควรใช้น้ำอุ่น เพราะจะทำความสะอาดคราบสกปรกจากโคลนได้ดีกว่าน้ำเย็น และควรแยกผ้าที่เปื้อนโคลน ออกจากผ้าอื่น ๆ ด้วย ไม่ควรนำมาซักรวมกัน

ภาพจาก www.istockphoto.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook