พัดลมไม่หมุน หมุนช้า หรือหมุนๆ ไปแล้วหยุด เราซ่อมได้ มาดูวิธีการกันครับ
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/hm/0/ud/2/10449/main_fan.jpgพัดลมไม่หมุน หมุนช้า หรือหมุนๆ ไปแล้วหยุด เราซ่อมได้ มาดูวิธีการกันครับ

    พัดลมไม่หมุน หมุนช้า หรือหมุนๆ ไปแล้วหยุด เราซ่อมได้ มาดูวิธีการกันครับ

    2016-08-01T15:53:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    แม้ช่วงนี้ฝนจะตกบ่อยๆ แต่บางครั้งก่อนฝนตกอากาศก็ร้อนอบอ้าวซะไม่มี คุณ Control.A จากเว็บไซต์พันทิป ดอทคอมที่คงทนร้อนไม่ไหว แต่ก็ไม่อยากซ่อมอาการใบพัดลมหมุนช้าโดยเสียเงินจ่ายให้ช่าง จึงอาศัยทักษะงานช่างที่ตัวเองมีซ่อมพัดลมเอง ใช้เงินไปแค่ 20 บาทเอง อุ้ยเลิศอ่ะ

    ช่วงนั้นอากาศร้อนมากๆ ทำไมพัดลมมันหมุนช้าจังอ่ะ  เพิ่งสังเกตได้ก็ตอนอากาศร้อนจัดๆ นี่แหละครับ เมื่อก่อนหน้าฝน หน้าหนาวแทบไม่ค่อยสนใจ นั่งถึงก็กดเปิดพัดลมเอาแค่ลมเบาๆ ก็พอ แต่พออากาศร้อนจัดๆ เพิ่งจะมาสังเกตว่าพัดลมเราหมุนช้ามากๆ ที่บ้านพัดลมตั้งโต๊ะที่บ้าน ซื้อมา 4  ปีแล้ว มีอาการหมุนช้ามากๆ กดไปเบอร์ 3 แล้วยังหมุนเหมือนเบอร์ 1 อยู่เลย แกะมาทำความสะอาดก็แล้ว ตรวจเช็คแกนหมุนก็ปกติไม่ได้ฝืดอะไรเป็นเจ้าตัวนี้ครับ ยี่ห้อ MIRA พัดลมอิเล็กทรอนิกส์

    อาการเสียที่ว่าเกิดจากตัว Capacitor ที่ทำงานร่วมกับ Motor ของพัดลมครับ Capacitor หรือที่เรียกว่าตัว C  หรือบางคนเรียกตัว CAP ครับ  

    จริงๆ อาการพัดลมหมุนช้า ไม่หมุน    โดยมากเกิดได้จาก 2 สาเหตุ  ก็คือ Motor เสีย  และตัว Capacitor ค่ามันเสื่อมหรือเสียนั่นแหละครับ    ซึ่งโอกาสที่จะเสียมากที่สุดก็เป็นเจ้าตัว C นี่แหละครับ

    ส่วนอาการอื่นๆ ที่อาจจะเกิดตัว C เสียได้อีกก็คือ  พัดลมไม่หมุน   หรือ ต้อง Start ด้วยมือก่อนถึงจะทำงาน หรือ ทำงานไปซักพักก็ค่อยๆ หยุด  จับตัว C เปลี่ยนได้เลยเช่นกัน

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรจะตรวจเช็คดูก่อนนะครับว่าแกนหมุนไม่ได้ฝืดมาก   อันนั้นเกิดจากไม่ค่อยได้ถอดมาล้างทำความสะอาด เป่า ปัด ฝุ่นบริเวณมอเตอร์เลย  ซึ่งควรทำเป็นประจำครับ 2-3 เดือนซักครั้งนึงหากเราใช้งานทุกวัน

    เครื่องมือที่ใช้ก็มี

    1. ไขควงแฉก

    2. คีมตัดหรือ Cutter ก็ได้

    3. หัวแร้ง

    4. ตะกั่วบัดกลี

    5. ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือตัว C หรือตัว CAP นั่นแหละครับ

    6. ส่วน Meter วัดไฟจะมีหรือไม่มีก็ได้ครับ  ไม่ค่อยจำเป็นผมเอามาเช็คเพื่อให้เห็นว่าตัวที่เสียเกิดจากตัว C  ครับ

    นี่ครับตัว C  ราคา 20 บาท  ซื้อได้ที่ร้านอมร  หากใครมีโอกาสไปเดินบ้านหม้อก็อาจจะหาได้ในราคา 10-15 บาท   หรือร้านที่ขายอะไหล่เครื่องใช้ไฟฟ้า แล้วแต่สะดวกครับ

    ส่วนจะรู้ได้อย่างไรว่าใช้ค่าแบบไหนสำหรับตัวที่เราจะซ่อม ก็ต้องถอดพัดลมมาดูก่อนครับ  ซึ่งโดยทั่วๆ ไป (เกือบทุกยี่ห้อทุกรุ่น)  ก็จะใช้ค่า  1.5uF(Micro Farad)  400V  

    แต่เพื่อชัวร์ก็ควรจะถอดรื้อดูก่อนครับ  หรือเอาตัวอย่างไปถามที่ร้านขายได้เลย  บอกคนขายว่า C พัดลมครับ

    ขั้นตอนแรกก็ถอด ๆ ครับ

    ก่อนที่จะถอดอย่าลืมดึงปลั๊กก่อนนะครับ  อันนี้สำคัญมากๆ

    ทุกยี่ห้อของพัดลมเจ้าตัว C จะอยู่ติดกับ Motor ครับ  เพราะหากลากสายยาวไป  สายที่เพิ่มขึ้นก็อาจจะทำให้ค่า C เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้  เพราะฉะนั้นบริษัทผู้ผลิตก็จะเอาไว้ติดกับ Motor ครับ

    โดยจะมีน๊อต 2 ตัว   ต้องถอดน๊อตตัวบนก่อน  จากนั้นก็ถอดตัวที่ท้ายครับ

    หลังจากนั้นก็จะได้หน้าตาแบบนี้ครับ

    ตัว C ก็คือที่ลูกศรชี้ไว้นั่นแหละครับ   ขันน๊อตตัดสายออกมาได้เลย  ไม่มีขั้วครับ  ตอนต่อกลับต่อยังไงก็ได้

    เอามาตรวจวัดให้ดูครับ  ค่าที่ได้ของตัวนี้คือ 0.444 uF ซึ่งค่าปกติจะเป็น 1.5 uF เสียแน่นอน ซึ่งถ้าค่าน้อยกว่านี้อาจจะทำให้พัดลมไม่หมุนเลยก็ได้ *** ค่าที่โชว์ในรูปคือ  444.2 nF  (Nano Farad)  ซึ่งก็เท่ากับ   0.4442 uF  (Micro Farad)   ซึ่งก็คล้ายๆ กับ  1000 มิลลิกรัม  เท่ากับ 1 ครับ  1000 เท่ากับ 1 กิโลกรัม นั่นแหละครับ ซึ่งจริงๆ ค่าพวกนี้มันแบ่งย่อยได้ลงไปอีก มิลลิ ---> ไมโคร ---> นาโน ---> พิโก้   ใครเรียนมาทางสายวิทย์อาจจะคุ้นเคย ****

    มาดูพระเอกของเราครับ ค่าที่วัดได้คือ ....1.543 uF ครับ

    จากนั้นก็ปอกสายไฟตรงปลายเพื่อบัดกลีครับ  ต้องระมัดระวังไม่ไปทำให้ส่วนอื่นๆ ของพัดลมเสียหายนะครับ  เพราะขดลวด motor จะเล็กมากๆ ขาดเอาได้ง่าย จริงๆ ขั้นตอนนี้ใครไม่มี หัวแร้ง ตะกั่ว ก็สามารถใช้วิธีการพันสายไฟได้ครับ  เพียงแต่ต้องพันเข้ากันให้แน่นหนาที่สุด  และหลังจากนั้นต้องพันด้วยเทปพันสายไฟอีกครั้ง อันนี้จำเป็นมากๆ นะครับไม่งั้นไฟช๊อตเอาได้

    เสร็จแล้วก็จัดเก็บตำแหน่งครับ  ขันน็อตยึดตัว C  หรือหากตัวใหม่ที่ซื้อมาไม่มีขาสำหรับยึดน็อต เหมือนที่ผมซื้อมาก็ใช้กาวสองหน้าได้ครับ จากนั้นก็ใส่ฝาครอบคืนตำแหน่ง ใส่ขาที่สำหรับดึงให้พัดลมส่าย คืนตำแหน่งครับ

    จากนั้นเป็นอันเรียบร้อยครับ ซ่อมพัดลมด้วยงบประมาณ 20 บาท หากยกไปหาช่างก็ประมาณ 100-150 บาท สำหรับใครที่เปลี่ยนตัว C ไปแล้วพัดลมยังไม่หมุน (ส่วนคนที่หมุนช้านี่กลับมาปกติแน่นอน) อาการเสียเป็นที่ Motor ค่อนข้างแน่ (ควรแกะฝาล่างดูว่าสายไฟขาดหรือเปล่าก่อนนะ  ต้องระมัดระวังหน่อยนะครับ) อาการ Motor เสียค่าซ่อมประมาณ 200-300 บาท ซึ่งดูเหมือนจะไม่ค่อยคุ้มสำหรับคนที่มีพัดลมตัวเล็ก ๆ ราคา 300-500 บาท ลองซ่อมดูได้ครับ สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องพัดลม อากาศร้อนๆ ได้รับลมเย็นๆ จะได้ใจเย็นๆ อารมณ์ดีๆ กันครับ

    อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

    อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ พัดลมไม่หมุน หมุนช้า หรือหมุนๆ ไปแล้วหยุด เราซ่อมได้ มาดูวิธีการกันครับ