รีวิว Samsung F300

รีวิว Samsung F300

รีวิว Samsung F300
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
แรกเห็น ครั้งแรกที่เห็นเครื่อง Samsung F300 เครื่องนี้ก็นึกว่าเป็นเครื่องเล่นเพลง MP3 แต่เมื่อลองพลิกกลับมาอีกด้านหนึ่งก็กลายเป็นโทรศัพท์มือถือที่มีหน้าจอขนาดเล็กไม่เหมือนโทรศัพท์มือถือทั่วๆ ไป ซึ่งนับเป็นการพัฒนาอีกก้าวหนึ่งของวงการโทรศัพท์มือถือที่ดีไซน์โดยแยกฟังก์ชันมัลติมีเดียและฟังก์ชันโทรศัพท์ออกมาสำหรับใช้งานเฉพาะโดยยังอยู่ในเครื่องเดียวกันได้อย่างลงตัวดี รูปทรงของ Samsung F300 เป็นแบบ Bar Type ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดและบางคล้ายเครื่องเล่น MP3 โดยดีไซน์แบบ Multi Faced ด้านหน้าใช้งานโทรศัพท์ ด้านหลังใช้งานมัลติมีเดีย รูปลักษณ์ทั่วไป เริ่มจากด้านใช้งานโทรศัพท์ตั้งแต่ด้านบนลงมามีเลนส์ของกล้องดิจิทัลอยู่ตรงมุมด้านซ้าย ตรงกลางเป็นช่องลำโพง ถัดลงมาเป็นหน้าจอแสดงผลแบบ TFT LCD 65,536 สี ความละเอียด 176x65 พิกเซล ใต้หน้าจอมีปุ่มควบคุมการใช้งานต่างๆ และแผงปุ่มกดตัวเลข พลิกมาด้านหลังเป็นด้านใช้งานมัลติมีเดียประกอบด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ TFT LCD 262,144 สี ความละเอียด 176x220 พิกเซล กับปุ่มควบคุมเครื่องเล่นมัลติมีเดียแบบสัมผัส (Touch Sensor) นอกจากนี้ที่บริเวณด้านข้างเครื่องก็ยังมีปุ่มสำหรับใช้งาน พร้อมช่องต่างๆ โดยด้านซ้ายมีปุ่มเลื่อนล็อคปุ่มกด ปุ่มสลับใช้งานโทรศัพท์/เครื่องเล่น MP3 ช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก และช่องสำหรับเสียบชุดหูฟัง สายชาร์จไฟแบตเตอรี่ และสาย Sync ในช่องเดียวกันพร้อมฝาปิดกันฝุ่นเข้า ส่วนด้านขวามีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง ช่องสำหรับ Reset และช่องใส่ SIM Card ทดลองใช้งาน การใส่ SIM Card วิธีใส่ SIM Card เข้าไปในเครื่อง Samsung F300 จะไม่เหมือนกับโทรศัพท์มือถือทั่วไปที่ต้องทำการถอดฝาหลังและแบตเตอรี่ออกจากเครื่องก่อน เพราะช่องใส่ SIM Card ของเครื่องรุ่นนี้อยู่ด้านนอก โดยอยู่ที่บริเวณด้านขวาข้างเครื่อง (เมื่อหันหน้าจอด้านโทรศัพท์) มีฝาปิดอยู่บนฝามีตัวอักษร SIM Card ให้เปิดฝาขึ้นมาแล้วนำ SIM Card ใส่เข้าไปในช่องตามรูปสัญลักษณ์ที่อยู่ด้านข้างของช่องและดันเข้าไปจนสุด เมื่อใส่เสร็จเรียบร้อยแล้วให้ปิดฝาลงไป และทำการเปิดเครื่องเพื่อใช้งานต่อไป การเปิด-ปิดเครื่อง ปุ่มเปิด-ปิดของเครื่องใช้ปุ่มเดียวกันกับปุ่มวางสายรูปหูโทรศัพท์สีแดงพร้อมสัญลักษณ์วงกลมขีดกลาง ให้กดค้างไว้ประมาณ 1-2 วินาที เครื่องก็จะเปิดขึ้นมาพร้อมชื่อรุ่นและเว็บไซต์ www.samsungmobile.com ตามด้วยภาพโลโก้ Samsung Fun Club จากนั้นเครื่องจะทำการค้นหาสัญญาณเครือข่าย ก่อนที่จะเข้าสู่หน้าจอหลักพร้อมใช้งาน สำหรับหน้าจอหลักในส่วนของการใช้งานโทรศัพท์ประกอบสัญลักษณ์แสดงระดับสัญญาณเครือข่ายอยู่ตรงบริเวณด้านขวาบนสุด ถัดลงมามีสัญลักษณ์แสดงระดับแบตเตอรี่ ส่วนตรงกลางหน้าจอมีวันที่ เวลา และชื่อเครือข่ายที่ใช้งาน ส่วนแถบที่อยู่ด้านล่างสุดของหน้าจอจะเป็นชื่อของเมนู Soft Key ซ้าย/ขวา ซ้ายจะเป็น Menu และด้านขวาเป็น Contacts สามารถเลือกเปลี่ยนสีพื้นหลังได้โดยเข้าไปที่เมนู Settings>Display setting> Skin ปุ่มกดและความเหมาะมือ ปุ่มกดการใช้งานแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักด้วยกันคือ ส่วนของปุ่มที่อยู่ด้านใช้งานโทรศัพท์ประกอบด้วยปุ่ม Navigator Key แบบ 5 ทิศทาง, ปุ่ม Soft Key ซ้าย/ขวา, ปุ่มใช้งานกล้องดิจิทัล, ปุ่ม C, ปุ่มโทรออก/รับสาย, ปุ่มวางสาย/เปิด-ปิดเครื่อง และแผงปุ่มกดตัวเลข อีกส่วนอยู่ด้านหลังซึ่งเป็นด้านใช้งานมัลติมีเดียโดยเป็นปุ่มแบบสัมผัส Touch Sensor สำหรับควบคุมเครื่องเล่นมัลติมีเดียต่างๆ นอกจากนี้ยังมีปุ่มที่อยู่ด้านข้างเครื่อง เริ่มจากด้านซ้ายมีปุ่มเลื่อนล็อคปุ่มกดกับปุ่มสลับใช้งานโทรศัพท์/เครื่องเล่นเพลง MP3 ส่วนด้านขวามีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง ด้านความเหมาะมือนั้นถือว่ามีความเหมาะมือเลยทีเดียวทั้งมือของผู้ชายและผู้หญิง เพราะตัวเครื่องมีขนาดเล็กกะทัดรัด รวมทั้งขนาดที่บาง และน้ำหนักที่เบา ทำให้ถือจับใช้งานได้สบายมือ ไม่มีปัญหาอะไร เมนูใช้งาน วิธีเข้าเมนูของเครื่อง Samsung F300 ทำได้โดยกดที่ปุ่ม Soft Key ด้านซ้ายมือ ซึ่งหน้าตาของเมนูการใช้งานเลือกแสดงผลแบบไอคอนพร้อมชื่อเมนูใต้ไอคอน มีทั้งหมด 9 เมนูด้วยกัน สำหรับรายละเอียดของเมนูหลักๆ ที่แสดงทั้งหมดมีดังนี้ Call Log เมนูสำหรับดูประวัติการใช้งานโทรศัพท์ทั้งเบอร์ที่โทรออก เบอร์ที่ไม่ได้รับสาย และเบอร์ที่รับสาย Phonebook หรือสมุดโทรศัพท์ สำหรับดูหมายเลขโทรศัพท์พร้อมทั้งเพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อใหม่ Applications เมนูที่รวมแอบพลิเคชันสำหรับใช้งานต่างๆ ได้แก่ บันทึกเสียง นาฬิกาทั่วโลก นาฬิกาปลุก ตั้งค่าเวลา นาฬิกาจับเวลา บันทึก และ Key Management Browser เมนูสำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วย WAP Browser เมื่อใช้เมนูนี้หน้าจอจะเปลี่ยนมาให้ใช้งานอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นด้านใช้งานมัลติมีเดีย Messages เมนูสำหรับรับส่งข้อความแบบ SMS และ MMS My Files เมนูสำหรับจัดการไฟล์มัลติมีเดียต่างๆ ได้แก่ รูปภาพ ไฟล์วิดีโอคลิป ไฟล์เพลง ไฟล์เสียง ไฟล์อื่นๆ และเช็คดูหน่วยความจำที่ใช้และเหลืออยู่ได้ Camera เมนูใช้งานกล้องดิจิทัล Settings เป็นเมนูสำหรับตั้งค่าการใช้งานของเครื่องประกอบด้วย คุณสมบัติการใช้งาน เริ่มที่เมนู Phonebook หรือสมุดโทรศัพท์ เก็บบันทึกข้อมูลของผู้ติดต่อไว้ในเครื่องได้ถึง 1,000 ตำแหน่ง โดยใส่รายละเอียดต่างๆ ได้ตั้งแต่ ชื่อ-นามสกุล, หมายเลขโทรศัพท์ทั้งเบอร์มือถือ บ้าน ที่ทำงาน และเบอร์แฟกซ์, Email Address นอกจากนี้ยังเลือกภาพประกอบรายชื่อเพื่อแสดงเป็นภาพคนโทรเข้าหรือโทรออกได้ (Picture CLI), เสียงเรียกเข้าเฉพาะ กลุ่มผู้โทร และบันทึกย่อได้อีกด้วย พร้อมฟังก์ชัน Switch Screens สำหรับสลับหน้าจอไปหน้าจอด้านมัลติมีเดียที่มีขนาดใหญ่เพื่อสะดวกในการค้นหารายชื่อผู้ติดต่อ ส่วนการเช็คดูประวัติการใช้งานโทรต่างๆ ดูได้ในเมนู Call log ประกอบด้วยเบอร์โทรล่าสุด (Recent contacts), เบอร์ที่ไม่ได้รับสาย (Missed calls), เบอร์ที่โทรออก (Dialled calls) และเบอร์ที่รับสาย (Received calls) โดยแสดงรายละเอียดวันที่ เวลา ชื่อผู้ติดต่อ และเบอร์โทร รวมถึงสามารถเช็คดูค่าโทร (Call costs) และเวลาที่ใช้สายทั้งหมด (Call time) ได้ ด้านการรับ-ส่งข้อความ การรับ-ส่งข้อความต่างๆ เข้าไปใช้งานได้ที่เมนู Messages ซึ่งรองรับการใช้งานทั้งแบบ SMS และ MMS สำหรับ SMS เก็บข้อความได้สูงสุด 200 ข้อความ พร้อมด้วย Templates หรือข้อความสำเร็จรูป ถ้าเป็น MMS หรือ Email ก็ได้ประมาณ 28 MB (ขึ้นอยู่กับหน่วยความจำที่มี) และยังมีฟังก์ชัน Switch Screens สำหรับสลับหน้าจอไปหน้าจอด้านมัลติมีเดียเพื่อดูข้อความที่ได้รับอย่างเต็มจอไม่ต้องเลื่อนขึ้นลงเหมือนหน้าจอด้านโทรศัพท์ ด้านออร์แกไนเซอร์ ในส่วนของออร์แกไนเซอร์นั้นมีปฏิทินสำหรับบันทึกนัดหมายต่างๆ โดยแสดงผลแบบรายวัน ซึ่งการสร้างบันทึกนัดหมายใหม่ สามารถเลือกตั้งเตือนนัดหมาย วันครบรอบ และสิ่งที่ต้องทำได้ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการใช้งานต่างๆ ได้แก่ เครื่องบันทึกเสียง โดยบันทึกเสียงได้นานสูงสุด 1 ชั่วโมง นาฬิกาสำหรับดูเวลาของเมืองต่างๆ ทั่วโลก นาฬิกาปลุก นาฬิกาจับเวลา และบันทึกย่อ ด้านมัลติมีเดีย สำหรับคุณสมบัติด้านมัลติมีเดียการใช้งานจะอยู่ในส่วนของหน้าจอด้านมัลติมีเดียเริ่มที่ฟังก์ชัน Music Player หรือเครื่องเล่นเพลง ซึ่งรองรับไฟล์เพลงในรูปแบบ MP3, AAC, AAC+, eAAC+ และ WMA ด้วยระบบเล่นเพลงซ้ำ เพลงแบบสุ่ม พร้อมรองรับระบบเสียง 3D Sound Technology ตั้งค่าปรับแต่งเสียง Equalizer ได้ 10 แบบ ตั้งเป็นเสียงเรียกเข้าสามารถฟังเพลงผ่านชุดหูฟัง Stereo Bluetooth และใส่รูปอัลบั้มประกอบได้ ส่วนของการถ่ายภาพมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 2.0 ล้านพิกเซล ถ่ายได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1600x1200 พิกเซล ซูมดิจิทัล เลือกโหมดในการถ่ายภาพได้ทั้งแบบ Take and save และ Automatic save เลือกใส่เอฟเฟกต์ ปรับ ISO มีNight Mode สำหรับถ่ายภาพเวลากลางคืน และตั้งเวลาถ่ายได้ ส่วนวิดีโอถ่ายพร้อมเสียงได้ที่ความละเอียดสูงสุด 320x240 พิกเซล ตั้งเวลาในการถ่ายอัตโนมัติ ใส่เอฟเฟกต์ ปรับแสงสมดุลสีขาว และบันทึกในรูปแบบไฟล์ .3GP โดยถ่ายได้ทั้งที่อยู่หน้าจอใช้งานโทรศัพท์และหน้าจอด้านมัลติมีเดีย ในส่วนของคุณสมบัติมัลติมีเดียอื่นๆ ก็มี Album สำหรับดูไฟล์ภาพ และไฟล์วิดีโอที่ถ่ายจากกล้องดิจิทัลและดาวน์โหลดมา, ฟังก์ชัน FM Radio สำหรับฟังวิทยุ FM ด้วยระบบค้นหาสถานีอัตโนมัติ และฟังก์ชัน Voice Recorder สำหรับบันทึกเสียง โดยบันทึกเสียงได้นานถึง 1 ชั่วโมง ด้านการเชื่อมต่อ ในส่วนของการเชื่อมต่อ ประกอบด้วยการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตทำได้ด้วย WAP Browser เวอร์ชัน 2.0 ผ่านเครือข่ายเทคโนโลยีความเร็วสูง GRPS และ EDGE Class 10 ซึ่งการใช้งานในส่วนนี้ระบบจะทำการ Switching เพื่อสลับหน้าจอไปด้านมัลติมีเดีย เพื่อการแสดงผลบนหน้าจอที่มีขนาดใหญ่กว่า และยังรองรับจาวาแอบพลิเคชัน (Java MIDP 2.0) สำหรับดาวน์โหลดโปรแกรมมาใช้งานในเครื่องอีกด้วย ส่วนการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ นั้นรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายอย่าง Bluetooth เวอร์ชัน 1.2 ซึ่งเชื่อมต่อกับชุดหูฟังแบบ Stereo Bluetooth หรืออุปกรณ์ที่มีฟังก์ชัน Bluetooth ได้เช่น โทรศัพท์มือถือ โน้ตบุ๊ค ฯลฯ กับแบบทางสายดาต้าลิงค์แบบ USB Cable พร้อมทั้งรองรับเทคโนโลยี PictBridge เพื่อสั่งพิมพ์ภาพได้อย่างสะดวกรวดเร็ว สำหรับหน่วยความจำนั้นมีหน่วยความจำภายในแบบ Shared Memory ขนาด 100 MB และเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card ได้สูงสุด 2 GB เชิงเทคนิค การทดสอบฟังก์ชันพิเศษในเครื่อง การทดสอบฟังก์ชันพิเศษในเครื่อง Samsung F300 ได้ทำการทดสอบการถ่ายภาพจากกล้องดิจิทัล CMOS ความละเอียด 2.0 ล้านพิกเซล โดยเริ่มจากการถ่ายภาพนิ่งในโหมด Take and save เลือกขนาดของภาพสูงสุดในขนาด 1600x1200 พิกเซล โดยถ่ายในระยะใกล้ที่สุดในการ Focus กับวัตถุที่ถ่ายประมาณ 0.8 เมตร ผลปรากฏว่าภาพที่ถ่ายมามีความชัดเจนดี ส่วนการถ่ายภาพทั่วไปโดยรวมแล้วภาพที่ถ่ายมาอยู่ในเกณฑ์ดีส่วนในโหมดวิดีโอนั้น ได้ทำการทดสอบโดยเลือกขนาดของภาพสูงสุดในขนาด 320x240 พิกเซล ผลจากการทดสอบปรากฏว่าภาพและเสียงที่ถ่ายออกมานั้นมีความชัดเจนด้วยเช่นกัน ระยะเวลาเปิดเครื่อง แบตเตอรี่ของเครื่องรุ่นนี้เป็นแบบ Li-ion ขนาดความจุ 720 mAh ตามข้อมูลระบุว่าสามารถเปิดเครื่องรอรับสายได้นาน 155 ชั่วโมง และใช้สนทนาต่อเนื่องได้นาน 2 ชั่วโมงครึ่ง จากการใช้งานจริง โดยชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้วใช้งานเริ่มจากใช้สายสนทนาราว 30-40 นาที แบบไม่ต่อเนื่อง และเปิดหน้าจอใช้งานโปรแกรมต่างๆ กว่า 2 ชั่วโมง ปรากฏว่าสามารถใช้งานได้ประมาณ 1 วันเท่านั้น แต่เสียบถ้าใช้งานร่วมกับซองหนังที่มีแบตเตอรี่แบบ Built-in ด้วยแล้วอายุการใช้งานของเครื่องก็จะเพิ่มมากขึ้น อุปกรณ์เสริม ในส่วนของอุปกรณ์ที่มีอยู่ในกล่องประกอบด้วยตัวเครื่อง Samsung F300, แบตเตอรี่แบบ Li-ion ขนาด 720 mAh จำนวน 1 ก้อน, สายชาร์จไฟแบตเตอรี่, ซองหนังพร้อมแบตเตอรี่ในตัวแบบ Li-ion polymer, สายดาต้าลิงค์แบบ USB Cable, ชุดหูฟังสเตอริโอ, แผ่น CD ROM โปรแกรม, ใบรับประกัน และคู่มือการใช้งาน Samsung F300 ถือเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกในตระกูล Samsung Ultra Music ที่ดีไซน์แบบ Multi Faced คือมี 2 ด้านสำหรับใช้งานโทรศัพท์และใช้งานมัลติมีเดียโดยเฉพาะ พร้อมทั้งออกแบบให้มีขนาดเล็กและบางเหมือนเครื่องเล่น MP3 ของแบรนด์ดัง ซึ่งดูแล้วเหมือนกับเครื่องเล่น MP3 ที่เพิ่มฟังก์ชันโทรศัพท์เข้าไปมากกว่า โดยรวมแล้วก็น่าจะเหมาะกับกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบความบันเทิงที่เน้นเครื่องที่มีดีไซน์แบบสวยหรูและไม่เหมือนใคร รูปทรง 8 ง่ายต่อการใช้งาน 7.5 คุณสมบัติการใช้งาน 8 สมรรถนะเชิงเทคนิค 8.5 ราคา N/A คะแนนรวม N/A%

สนับสนุนเนื้อหาโดย
นิตยสาร First Mobile

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ รีวิว Samsung F300

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook