รีวิว Samsung S8300 [Ultra touch]: สไลด์จอสัมผัส พร้อมขุมพลังกล้อง 8 ล้าน

รีวิว Samsung S8300 [Ultra touch] Samsung S8300 เป็นไอเดียใหม่เก๋ไก๋จากทาง Samsung ที่จับเอามือถือแบบสไลด์ที่ประสบความสำเร็จสูง มารวมกับมือถือประเภท Touch ได้ออกมาเป็น Samsung Ultra Touch ซึ่งเป็นมือถือหน้าจอสัมผัสและสามารถสไลด์เพื่อใช้แป้นคีย์บอร์ดเหมือนกับมือถือทั่วๆ ไปได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีกล้อง 8 ล้านแถมมาให้สามารถทดแทนกล้องดิจิตอลคอมแพคได้ สำหรับ Samsung Ultra Touch ผมได้ถือๆ จับๆ มาสักพักหนึ่งแล้ว อะไรบ้างล่ะที่คุณหวังจากมือถือตัวนี้บ้าง กล้อง 8 ล้านใช้งานได้จริงหรือ??? ระบบหน้าจอสัมผัสในมือถือแบบสไลด์ที่ไม่พึ่ง Stylus จะไหวหรือไม่ UI แบบพิเศษสำหรับชมภาพต่างๆ แปลกแหวกแนวซะยิ่งกว่า iPhone เอาว่าวูบแรกที่สัมผัสได้และเห็นเด่นชัดคือ เมนูแบบใหม่จาก Samsung ซึ่งนอกจากหน้าตาใหม่ยังสามารถเลือก Font ได้อีก มือถือรุ่นนี้มีอะไรที่เล็กๆ น้อยๆ น่าสนใจมาก แนะนำให้ Scholl อ่านไปเรื่อยๆ นะครับ Specification เจอสเปคกล้อง 8 ล้านเข้าไปนี่ถึงกับอึ้งไปเลย เพราะเท่ากับกล้อง DSLR ที่ผมใช้อยู่เลย ตอนถ่ายรูปในสตูฯ ก็แอบขำๆ กล้อง 8 ล้าน ถ่ายกล้อง 8 ล้าน 555+ นอกจากเรื่องของกล้องแล้ว จุดเด่นเรื่องหน้าจอสัมผัส ก็ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าจะไม่รวดเร็วเท่ากับ Touch Screen ตัวท้อปอย่าง Omnia ก็ตาม ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ นั้น มีดังนี้ หลังจากที่บ่นๆ ไป คราวนี้ก็ได้ Adaptor ของหูฟังมาด้วย ซึ่งคราวนี้เรื่องเสียงก็จะพูดได้แบบครบๆ นอกจากนี้อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ก็มีมาให้ครบครัน แต่เหมือนจะขาดหูฟังมาตรฐานไป ไม่เป็นไรคราวนี้ Samsung โชคดีผมมีหูฟัง PX200 พอดี งานนี้จะได้จับผิดกันเต็มที่ ของที่ให้มาในกล่อง ตัวเครื่อง Samsung S8300 สาย Data แบบ MicroUSB ที่ชาร์จแบตเตอรี่ Adaptor หูฟัง 3.5mm ด้านหน้า : ด้านหน้าก็จะประกอบด้วยหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 2.8 นิ้ว รอบนอกจะเดินเส้นเป็นกรอบสีแดงสวยงาม (ยังกะเลนส์ L หุหุ) ซึ่งด้านล่างก็จะมีปุ่มรับสายและโทรออก ตรงกลางเป็นปุ่มสำหรับย้อนกลับ ถัดลงมาเมื่อสไลด์ออกก็จะพบกับคีย์บอร์ดปุ่มกดสีแดงสดใส จุดเด่นของมือถือ Samsung แทบทุกรุ่นก็คือ ส่วนของสไลด์ที่ทำได้แน่นหนาแข็งแรง แถมมีสปริงทำให้การสไลด์ไม่ต้องออกแรงมากนัก เสียอย่างเดียวคือ บริเวณที่สไลด์อาจจะไม่มีจุดรองนิ้ว (ด้วยความที่เครื่องทั้งเล็กและบาง) แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคมากนัก ด้านหลัง: ฝาหลังนั้นแม้จะเรียบง่าย และเหมือนจะล็อคไม่อยู่ แต่เท่าที่ลองๆ ใช้งานถึกๆ โหดๆ 3 วัน + ตากละอองฝน น้ำไม่เข้า แต่เป็นรอยขีดข่วนง่ายไปนิดตามสไตล์วัสดุพลาสติก จริงๆ ถ้าสไลด์เห็นกล้องจะหล่อกว่านี้มาก แต่ลืมถ่ายรูป ไว้ไปดูความหล่อกันตอนช่วงกล้องแล้วกัน ด้านซ้าย: ทางซ้ายก็จะมีปุ่มสำหรับเพิ่มลดเสียง และใช้เป็นปุ่มซูมภาพไปในตัว (ซึ่งใช้ได้ไม่ถนัดเพราะปุ่มกดชัตเตอร์อยู่ด้านบน ปุ่มซูมอยู่ด้านล่าง -*-) ซึ่งปุ่มนี้นอกจากจะใช้ซูมภาพแล้วก็ยังใช้เป็นปุ่มเปลี่ยนมุมมองเวลาดูภาพด้วย ส่วนช่องปริศนาถัดมาเป็นช่องสำหรับห้อยสายคล้องมือ โดยจำเป็นต้องถอดฝาหลังออกก่อนจึงจะสามารถนำสิ่งที่ต้องการห้อย คล้องกับแกนที่มีอยู่ ยุ่งยากไปหน่อยแต่แข็งแรงครับ ด้านขวา: ด้านขวาก็มีปุ่มลั่นชัตเตอร์ที่ต้องกดครึ่งนึงก่อนที่จะถ่ายภาพออกไป ความไวในการลั่นชัตเตอร์ก็ถือว่าใช้ได้ ถัดไปเป็นปุ่มสำหรับล๊อคซึ่งรุ่นนี้เด็ดกว่า D980 เนื่องจากนอกจากจะมีปุ่มล็อคด้วยมือแล้ว ก็ยังสามารถเลือกตั้งล็อคอัตโนมัติได้ด้วย ถัดไปก็เดิมๆ ช่อง Micro USB สำหรับฟังเพลงและชาร์จไฟ ช่องเดียวเบ็ดเสร็จ ด้านบน: ด้านบนประกอบด้วย กล้องสำหรับ 3G เซนเซอร์แสง และลำโพงสำหรับเสียงเพลง เสียงสนทนา นอกจากนี้ลายเส้นสีแดงก็ยังต่อกับทางด้านหน้าดูดีมีไสตล์ ตอนสไลด์ขึ้นก็ไม่พบจุดบกพร่องใดๆ งานนี้เนี้ยบมากๆ ด้านล่าง: ด้านล่างก็จะเห็นช่องไมค์ที่หลบอยู่ และจุดเหลื่อมกันของฝาสไลด์ทั้งสอง ซึ่งผู้เขียนได้ส่องๆ อยู่นาน เรียกได้ว่าแน่นหนา เมื่อสไลด์ขึ้นก็จะเป็นร่องบากที่แข็งแรง สรุปเรื่องสไลด์นั้นไว้ใจได้ :) การใส่ซิมการ์ด: การใส่ซิมการ์ดนั้นสไลด์เข้าไป ดังนั้นแน่นหนาพอสมควร เวลาดันเข้าไปต้องใจเย็นๆ ดันแบบตรงๆ ถ้าเอียงหรือติด ไม่ต้องรีบดันให้นำออกมาก่อนแล้วใส่เข้าไปใหม่ พอจับจังหวะได้ การใส่หรือถอดซิมก็เป็นเรื่องที่ง่ายดาย ช่องสำหรับใส่เมมโมรี่: ในส่วนของช่องใส่เมมโมรี่นั้นอยู่ข้างๆ ช่องสำหรับใส่ซิม ฉะนั้นรุ่นนี้ไม่สามารถถอดการ์ดขณะใช้งานได้แน่นอน เนื่องจากต้องถอดแบตเตอรี่ออกก่อน ทำให้เกิดความไม่สะดวกสำหรับคนที่ชอบถอดการ์ดหน่วยความจำบ่อยๆ แต่ MicroSD ถอดบ่อยไม่ดี ระวังพัง (หมายถึงการ์ดนะจ๊ะ) ช่องสำหรับชาร์จแบต/ต่อหูฟัง: ช่องสำหรับชาร์จแบตเตอรี่และหูฟัง เป็นช่องแบบ Micro USB เหมือน Samsung รุ่นอื่นๆ ทดลองชาร์จแล้ว เต็มเร็วน่าประทับใจ และอยู่ได้นานเกินคาดหมาย ประมาณ 1 วันกว่าๆ เกือบ 2 วันทีเดียว ต้องเรียกได้ว่าทน สำหรับแบตขนาดเล็กแบบนี้ Camera: กล้องรุ่นนี้หลบซ่อนตัวอยู่ หากไม่สไลด์ขึ้นมาก็จะมองไม่เห็นความหล่อ กล้องมีให้กันครบๆ ทั้ง แฟลชและช่องสำหรับถ่ายภาพตัวเอง เสียตรงพอสไลด์ออกมามันยาวๆ ไม่เหมาะกับการถ่ายภาพในแนวตั้งมากนัก แต่ถ่ายแนวนอนแจ่ม :) UI ของ Samsung รุ่นนี้ทำมาเป็นพิเศษ เพราะรุ่นนี้ไม่มีไม้จิ้มมาให้ ฉะนั้น UI จึงออกมาใหญ่โตเพื่อรองรับกับขนาดนิ้วมาตรฐาน (แหะๆ ของผมนิ้วใหญ่ไม่มาตรฐานกะเขา บางเมนูมีกดไม่ได้เหมือนกัน) เมนูและแป้นกดตัวเลขอ่านง่ายน่าประทับใจ รุ่นนี้เลือกฟ้อนต์ได้ด้วย ซึ่งหายากที่มือถือที่เปลี่ยนฟ้อนต์ได้โดยไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่ม แต่อักษรที่มีให้ใช้ก็มีแค่ 3 แบบเท่านั้น เพลงและการควบคุมระบบเสียง ทำได้ดี เลือกเพลงยากไปนิด เมนูโปรแกรมเล่นเพลงซับซ้อน อาจจะเนื่องจากต้องทำปุ่มขนาดใหญ่ ที่เหลือทำได้ดีไม่ว่าจะเป็นเลือกระบบเล่นเพลง เลือก EQ เสียง EQ นั้นหากไม่จำเป็นไม่ต้องปรับ เพราะที่ตั้งมาครั้งแรกดีที่สุดอยู่แล้ว วิทยุหาคลื่นอัตโนมัติได้ค่อนข้างดี เมนูดูภาพแบบพิเศษ น่าประทับใจ แม้ว่าการตอบสนองอาจจะหน่วงๆ บ้าง แต่เมื่อแลกกับอินเทอร์เฟสที่สวยงามเข้าใจง่าย ก็ยอมรับได้แบบไม่ยากนัก เสียตรงภาพขนาด 8 ล้านหน่วงอยู่บ่อยทีเดียว อันนี้แหละที่รับไม่ค่อยได้ คือ เมนู Input ภาษาไทย กลายเป็นแบบปุ่มกด ซึ่งถ้ามี Stylus อาจจะพอให้อภัย แต่เมื่อไม่มีให้ถือว่าอันนี้สอบตก เพราะกดยากมาก ถึงมากที่สุด แนะนำให้เป็นคีย์บอร์ด 4 แถวรับรองเกิดแน่นอน ระบบกล้อง ที่อาจจะไม่คุ้นเคย การแบ่งเมนูออกเป็นซ้ายขวา แรกๆ บอกได้คำเดียว ไม่เข้าใจ !!! (คนรีวิวอาจจะโง่ 555+) แต่พอใช้บ่อยๆ อืม แนวคิดนี้ไม่เลวครับ พอจำ 6 ปุ่มนี้ได้ ก็จะใช้งานได้คล่องกว่าแบบหาไปเรื่อยๆ สิ่งที่มีให้ปรับเยอะมาก ปรับโฟกัส ขนาด WB ระบบวัดแสง ISO มากมายเหมือนกล้อง Compact เมนูดูภาพก็เรียกได้ว่าไฮโซ แสดงในแบบเดียวกับ Cover Flow ของ iTunes แต่คุณภาพรูปถ่ายนั้นไปดูกันตอนสรุปได้ครับ เกม ผมให้ตกเนื่องจากเกมที่แถมมานั้นหลักๆ ไปเล่นโดยใช้คีย์บอร์ดก็ได้ ไม่ได้ใช้ความสามารถของหน้าจอสัมผัสเท่าไหร่ ไม่เหมือน D980 อันนั้นเกมที่แถมมาได้เทสหน้าจอทัชสกรีนด้วย แต่รุ่นนี้ไม่แถมส่วนใหญ่มีแต่เกมดังรูป ซึ่งใช้นิ้วบังคับตรงที่หน้าจอไม่ได้ หรือถ้าบังคับได้ก็ยากเกิน ตัวอย่างเช่นเกมแรก โอกาสรับลูกบอลทันในด่านหลังๆ แทบเป็นไปไม่ได้ ต้องบอก Samsung ว่าเป็นโชคดีครับนี่น่าจะเป็นมือถือที่ใช้เวลาเทสนานที่สุด ฉะนั้น สรุปคือ เป็นมือถือจอสัมผัสหน้าตาดี มีอนาคต รองรับ 3G หน้าจอสัมผัสเรียกได้ว่ามีหน่วง แต่อยู่ในระดับที่น่าพอใจมากๆ งานประกอบและการทำสไลด์แข็งแรง แบตเตอรี่ค่อนข้างอึดพอสมควร เอาเป็นว่าใช้งานทั่วไป สอบผ่านไม่ยากนัก เรื่องของภาพ บ้างเป็นอย่างไรกับกล้อง 8 ล้าน เท่าที่เทสดูจากภาพสิ่งที่เห็นชัดๆ คือ Soft หรือภาพไม่คม พอดีงานนี้ก็เทสโหดไปนิด ส่วนใหญ่อยู่แต่ในงานสัปดาห์หนังสือ ภาพแรกถ่ายกลางแจ้งเลยครับ ภาพนี้ยังไงก็ต้อง Soft เพราะถ่ายผ่านกระจกแท็กซี่ (ใจร้ายจริงๆ) แต่ก็เห็นส่วนมืดส่วนสว่างในภาพนี้ได้ง่ายหน่อย DR อยู่ในระดับของกล้องมือถือทั่วๆ ไป สีสันให้ดูภาพที่สอง ก็จะเห็นว่าไม่มากนักเหมือนที่คิด แถมติด Soft อีกแล้ว WB ดูภาพ 3 ภาพนี้ผมไม่ได้แก้ใช้ Daylight โต้งๆ ออกมาดูดี เริ่มสมราคาของกล้องความละเอียด 8 ล้าน ภาพสี่ฆ่าตัวตายด้วย ISO ระดับ 1600 ก็มีให้ใช้ก็ลองใช้ดู ก็ - -! เอาน่ากล้องมือถือ และลองถ่าย Marco ที่ภาพสุดท้ายแบบมาตรฐาน ก็ยังมี Soft ให้เห็นอีก ให้ผมเดาจริงๆ กล้องอาจจะ 5 ล้านแต่ขยายพิกเซลเอาแน่ๆ เพราะไม่น่าจะ Soft มากเกินขนาดนี้ ถ่ายแสงแรงๆ บางทีก็มีให้เห็น เรื่องเสียง อันนี้สิน่าประทับใจ แม้จะไม่ให้หูฟังทดสอบมา แต่ผมเผอิญมี PX200 ในมือ เลยพอจะจับผิดมือถือรุ่นนี้ได้ไม่ยาก เสียง 5.1 เป็นไง เท่าที่ฟังก้องๆ หลอกๆ ไม่ถูกใจในความเห็นส่วนตัวเฉยๆ แต่เสียงที่ออกจากเครื่องเลยตรงๆ ไม่ปรุงแต่ง ใช้ได้ มิติเสียงอาจจะกลางๆ แต่เบสน่าจะถูกใจใครหลายๆ คน เนื่องจากขนาด PX200 ที่เบสแทบไม่มี ก็ยังได้ยินเบสชัดเจน ถ้าจับคู่กับหูฟังเบสหนักๆ นี่ไม่อยากจะคิด จังสี้มันต้องถอน !!! คลิ๊กที่ภาพเพื่อดูขนาดจริง... จุดเด่น หน้าจอสัมผัสอยู่ในเกณฑ์ดี กล้อง 8 ล้าน เมนูหลากหลาย ปรับแต่งสนุก เสียงออกลำโพงและหูฟังดี สไลด์แข็งแรงมาก ข้อสังเกต กล้องให้ไฟล์ภาพไม่คมชัด คีย์บอร์ดเสมือน ทำออกมาเป็นปุ่มกด ไม่ใช่คีย์บอร์ด 4 แถว Input ช้ามากๆ ระบบเสียง 5.1 ไม่ค่อยสมจริง หน้าจอไม่ตอบสนองบ้าง เป็นบางครั้ง อาจเพราะเป็นรุ่นทดสอบ

สนับสนุนข้อมูลโดย...