บิล เกตต์ ประกาศ ภายในปี 2005 อีเมลขยะ (Spam mail) จะไม่สามารถรบกวนผู้ที่ใช้อีเมลได้อีกต่อไป เนื่องจากไมโครซอฟท์กำลังคิดค้นโซลูชันที่จะป้องกันการรับส่งอีเมลเหล่านั้น เชื่อว่าภายใน 18 เดือนข้างหน้า จะสามารถจัดการกับสแปมเมลได้ สแปมเมอร์ หรือก็คือผู้สร้างอีเมลขยะ อีเมลที่มาพร้อมกับโฆษณาขายสินค้า ภาพลามก ฯลฯ ซึ่งสร้างความรำคาญให้กับผู้รับได้เป็นอย่างดี แต่จากการประกาศอย่างแข็งขันของไมโครซอฟท์ทำให้เชื่อได้ว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ปัญหาดังกล่าวจะบรรเทาเบาบางลง จากการเปิดเผยข้อมูลของ MessageLabs ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำการกลั่นกรองเมล พบว่าในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีปริมาณการรับส่งสแปมเมลเหล่านี้มากถึง 2 ใน 3 ของอีเมลทั้งหมดเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าเป็นสถิติสูงสุดของสหรัฐอเมริกา และถึงแม้ว่าจะไม่มีผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบเครือข่ายมากนัก แต่ว่าก็สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้เมลส่วนมากได้ ผู้ใช้ส่วนใหญ่รู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจเวลาต้องนั่งลบสแปมเมลเหล่านี้ นอกจากนี้องค์กรยังต้องเพิ่มประสิทธิภาพของระบบให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นส่วนของพื้นที่หน่วยความจำกลางสำหรับไว้เป็นอีเมลเซิร์ฟเวอร์ขององค์กร และการติดตั้งฟิลเตอร์กลั่นกรองเมล บิล เกตต์ เจ้าพ่อแห่งวงการคอมพิวเตอร์ กล่าวในงานประชุมประจำปีของ WEF ซึ่งเป็นงานสัมมนาพบปะสังสรรค์ของนักการเมืองระดับประเทศ และนักธุรกิจในองค์กรชั้นนำ กล่าวว่าความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีจะช่วยยับยั้งสแปมเมลได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ดี การดักจับสแปมเมลนั้งยากพอสมควร และมีวิธีหลีกเลี่ยงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้หัวข้ออีเมลด้วยคำที่มาจากการสุ่มเลือก หรือการใช้ภาพประกอบแทนคำที่ต้องการ ซึ่งวิธีดังกล่าวนี้ทำให้การเตรียมการรับมือทำได้ค่อนข้างยากลำบาก และไม่สามารถใช้ได้กับสแปมเมลทุกประเภท มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก กับการส่งอีเมลออกจากคอมพิวเตอร์สักเครื่องหนึ่ง แต่ว่าจะสร้างความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายให้กับคอมพิวเตอร์ของผู้รับ เกตต์กล่าว ทางแก้ของปัญหาดังกล่าวนี้ก็คือ จะใช้การเรียกเก็บเงินจากผู้ส่ง หรือที่เรียกว่า Payment at Risk ในกรณีที่ว่าผู้รับคลิกให้อีเมลฉบับนี้เป็นสแปมเมล์ และมีการตีกลับ ซึ่งนโยบายเรียกเก็บเงินนี้จะช่วยให้ผู้ส่งบางรายสามารถยับยั้งชั่งใจลงไปได้บ้าง ในขณะเดียวกันผู้ที่ส่งเมลธรรมดาก็ไม่ต้องกังวลด้วย เนื่องจากเมลของคุณจะได้รับการตอบรับตามปกติ สนใจเพิ่มความสามารถให้เสิร์ช นอกเหนือจากไมโครซอฟท์จะคิดค้นกลยุทธ์ใหม่สำหรับต่อกรกับเหล่าสแปมเมลแล้ว ยังได้กล่าวถึงเสิร์ชเอนจินชื่อดังอย่าง Google ด้วย ซึ่งบิล เกตต์กล่าวว่า Google นั้นเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่มาก ทำให้เขาย้อนรำลึกถึงไมโครซอฟท์เมื่อครั้งเริ่มก่อตั้งบริษัทใหม่ ๆ ได้เป็นอย่างดี และด้วยความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีเสิร์ชหาข้อมูลของ Google ที่ขึ้นครองอันดับหนึ่งของโลกไปแล้วอย่างรวดเร็ว ทางไมโครซอฟท์ยืนยันว่าจะสามารถก้าวตามทันได้อย่างแน่นอน เมื่อมีการสอบถามถึงความสามารถในด้านการค้นหาข้อมูลของไมโครซอฟท์ ซึ่งก็ได้คำตอบว่า เขารู้สึกเสียใการวิเคราะห์ของไมโครซอฟท์ในด้านเสิร์ชเอนจินนั้นผิดมาตลอด นั่นก็คือ การที่เราวัดระดับความสามารถของซอฟต์แวร์ว่าสามารถตอบสนองความต้องการของยูสเซอร์ได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ในความเป็นจริงแล้ว ส่วนที่ต้องนำมาทบทวนคือส่วนที่เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นต์ต่างหาก ที่เราไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของยูสเซอร์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้นหาข้อมูลในเชิงลึก และนี่คือคำตอบที่ว่าทำไม Google จึงมักจะนำหน้าไปก้าวหนึ่งเสมอ นอกจากนั้น เขายังยกย่องทีมสร้างซอฟต์แวร์ของกูเกิลด้วยว่า มีระดับสติปัญญาสูง (High level of IQ) และกล่าวย้ำว่า เราจะก้าวตามทันเทคโนโลยีเหล่านั้นทันแน่นอน บิล เกตต์ได้กล่าวถึงโลกในอนาคตไว้ด้วยว่า คอมพิวเตอร์ในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปจากที่เราคุ้นเคยอย่างสิ้นเชิง ทุกสิ่งทุกอย่างจะอยู่ในรูปของดิจิตอล มีความยืดหยุ่น และเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยสิ่งที่จะขับเคลื่อนเทคโนโลยีเหล่านั้นคือซอฟต์แวร์ ไม่ใช่ฮาร์ดแวร์อีกต่อไป ขอขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

อัลบั้มภาพ บิลเกตต์ลั่น สแปมจะหมดไปภายในปี 2005 ภาพที่ 2 / 2

บิลเกตต์ลั่น สแปมจะหมดไปภายในปี 2005

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

Xiaomi มอบประสบการณ์สุดล้ำให้ลูกค้า Xiaomi 14 Series สมสโลแกน Lens to Legend

รวมมือถืองบประมาณไม่เกิน 20,000 บาท ปี 2024 คุ้มน่าซื้อเก่งทุกด้าน

มาแน่! Redmi Note 13 Pro 5G รุ่นรองท็อปสเปกแน่นๆ เปิดตัวในไทย 27 เมษายน นี้

เปรียบเทียบ iPhone 15 VS iPhone 16 มันต่างแค่ไหน รอดีไหมนะ