กล้องดิจิตอล&มือถือชิงเจ้าตลาดเทคโนโลยีถ่ายภาพ
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    https://s.isanook.com/hi/0/ud/167/836307/m_04214_001.jpgกล้องดิจิตอล&มือถือชิงเจ้าตลาดเทคโนโลยีถ่ายภาพ

    กล้องดิจิตอล&มือถือชิงเจ้าตลาดเทคโนโลยีถ่ายภาพ

    2003-10-02T00:00:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้
    ฐานเศรษฐกิจ : เทคโนโลยีเปลี่ยนธุรกิจ จับตาตลาดฟิล์มถ่ายภาพเตรียมสูญพันธุ์! เจอศึกหนัก 2 ด้าน โดนเทคโนโลยีกล้องดิจิตอล&มือถือถ่ายรูปถล่มตลาด "แคนนอน-โกดัก" พลิกตำราปรับกระบวนทัพโละทิ้งแล็บสีอะนาล็อก พัฒนาระบบดิจิตอลเข้ามาใช้ หลังยอดขายหล่นวูบ 30-50% งานนี้กระทบชิ่งร้านถ่ายรูปรายย่อย ทยอยปิดตัวกว่า 300 ราย/ยอดขายฟิล์มลดวูบถึง 80% ตรงข้ามกับยอดกล้องดิจิตอลพุ่ง 2 แสนเครื่องในปีนี้ ด้านค่ายมือถือไล่ล่าเบียดกล้องดิจิตอล ทุ่มงบพัฒนา ความละเอียด ถ่ายภาพเป็น 1 ล้านพิกเซล ขณะ ที่กล้องดิจิตอลอัพ เกรดหนีขึ้นไป 5 ล้านพิกเซลราคาแค่ 2 หมื่นบาท แหล่งข่าวระดับสูงจาก บริษัทโกดัก (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฟิล์มสี "โกดัก" จากประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ภายหลังจากกล้องดิจิตอล และโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถถ่ายภาพได้เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยส่งผลกระทบต่อตลาดฟิล์มเป็นอย่างมาก เห็นได้จากยอดจำหน่ายฟิล์มโกดักในปีนี้ลดลงถึง 30% เทียบกับช่วงปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ดังกล่าว โกดักจำเป็นต้องปรับตัวครั้งใหญ่ โดยพัฒนาแล็บสีโกดักเอกซ์เพรส จากเดิมแล็บสีทั้งหมด ซึ่งเป็นระบบอะนาล็อกต้องพัฒนา และเปลี่ยนระบบดิจิตอลทั้งหมด ขณะที่ฟิลม์เมื่อใช้ไปแล้วไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก " นอกเหนือจากการปรับระบบแล็ปสีโกดักเอ็กซ์เพรสแล้ว บริษัทฯได้ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับโทรศัพท์เคลื่อนที่โนเกีย รุ่น 7650 และ รุ่น 3650 เมื่อซื้อโทรศัพท์ทั้งสองรุ่นสามารถรับฟรีคูปองอัดภาพสีในระบบดิจิตอลแบบออนไลน์ได้ แหล่งข่าวยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบไปยังร้านอัดรูป-ถ่ายภาพ เพราะในปัจจุบันธุรกิจนี้แข่งขันสูง หากบางรายไม่สามารถปรับตัวตามกระแสเทคโนโลยีได้ทัน ต้องปิดกิจการลง โดยขณะนี้มีร้านถ่ายภาพปิดตัวลงไปแล้วกว่า 300-400 ร้านจากจำหน่ายร้านถ่ายรูปทั่วประเทศที่เปิดให้บริการจำนวนทั้งสิ้น 2,300-2,400 ราย โดยผู้ประกอบการที่มีสายป่านยาวยอมทุ่มงบประมาณกว่า 4-5 ล้านบาทในการปรับเปลี่ยนเครื่องถ่ายภาพจากระบบอนาล็อกมาเป็นระบบดิจิตอล เพื่อรองรับกับกระแสที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอนาคตของสินค้าทั้ง 2ประเภทคือ มือถือถ่ายรูป และกล้องดิจิตอลมีการผลิตสินค้าออกมาจำหน่ายอย่างแพร่หลาย อย่างเช่น ในประเทศญี่ปุ่นมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปกว่า 80% ของระบบมือถือทั้งหมด ด้าน ม.ล.อนวัช ศรีธวัช ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์ถ่ายภาพทั่วไป บริษัท โกดัก (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสัดส่วนยอดจำหน่ายฟิลม์โกดักในปีนี้ยอดขายอยู่ในสภาวะที่ทรงตัว ขณะที่ยอดขายฟิลม์ของผู้ประกอบการรายอื่นสัดส่วนลดลงมาเนื่องจากกล้องดิจิตอลเข้ามามีบทบาท สำหรับมูลค่าตลาดรวมของฟิล์มในปีนี้มีจำนวน 16.4 ล้านม้วน และโกดักมีส่วนแบ่งการตลาด 54% ต่อข้อถามที่ว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่า บริษัทโกดักในต่างประเทศจะไม่มีโครงการลงทุนพัฒนาฟิล์มถ่ายภาพในระยะยาวอีกต่อไปนั้น ม.ล.อนวัช กล่าวว่า ตนไม่ทราบข่าวในเรื่องนี้ พร้อมเปรียบเทียบว่า ประเทศไทยเป็นประเทศทางด้านเกษตรกับอุตสาหกรรม สัดส่วนผู้ใช้กล้องที่มีฟิล์ม และกล้องดิจิตอลประมาณ 31% ของจำนวนครัวเรือน 12.5 ล้านครัวเรือน และแนวพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้กล้องฟิลม์พัฒนาไปใช้กล้องดิจิตอลมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งประเมินว่า ในปีนี้จะมีจำนวนผู้ใช้กล้องดิจิตอลประมาณ 200,000 เครื่อง "ผมคิดว่าภายใน 4-5 ปีฟิลม์ยังสามารถจำหน่ายในตลาดได้ แต่ถามว่ายอดขายฟิลม์จะลดลงไปเรื่อยๆ หรือไม่ ต้องตอบว่า ลดลงขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการธุรกิจถ่ายภาพจะปรับตัวให้สอดรับกับกระแสได้อย่างไร" ม.ล.อนวัช ยังกล่าวอีกว่า จากสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โกดัก ได้ปรับตัวสินค้าโกดักเอ็กซเพรส โดยปรับปรุงเครื่องถ่ายภาพ และ หน้าร้านให้เป็นระบบดิจิตอลทั้งหมด เพื่อรองรับความสะดวกสบายของผู้ใช้ และยังมีแผนโฆษณา แผนการจำหน่ายสินค้าดิจิตอลทั้งหมด โดยในกทม.ทำโฆษณาสื่ออินเทอร์เน็ต และสื่อทีวี ส่วนตลาดต่างจังหวัดเน้นการจำหน่ายสินค้าในรูปแบบของระบบอนาล็อก โดยจำหน่ายสินค้ารุ่นเดิม โดยเน้นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อกล้องฟิลม์เป็นเครื่องแรก นายวิทวัส อาภาชนาวัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โคนิก้า (ประเทศไทย) จำกัดผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์การถ่ายภาพ "โคนิก้า" (KONICA) จากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดจำหน่ายฟิมล์สีโคนิก้า ในปีนี้ยอดขายตกลงมาประมาณ 20-30% เนื่องมาจากกล้องดิจิตอลเข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมการถ่ายภาพของคนไทย ส่งผลให้ตลาดฟิลม์ทั้งตลาดปีนี้ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ลดลงเฉลี่ย 10% จากมูลค่าตลาดรวมต่อปีที่มีถึง 14 ล้านม้วน คาดว่าในปีนี้มูลค่าจะลดลงไปอีก เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้น 2 ด้าน คือ ตลาดกล้องดิจิตอลเติบโตแบบก้าวกระโดด และ ปัญหาของสงครามอิรักรวมถึงโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน นายวิทวัสกล่าวอีกว่า จากผลกระทบที่เกิดขึ้นส่งผลให้บริษัทต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาด ด้วยการเน้นคุณภาพของฟิลม์สีโคนิก้าเพื่อรองรับตลาดถ่ายรูปที่ต้องการความละเอียดในขั้นสูง ขณะที่ฝ่ายไอที ของ โคนิก้า ได้มีการพัฒนากล้องดิจิตอลด้วยการเพิ่มความละเอียดของพิกเซล โดยราคากล้องดิจิตอลโคนิก้าที่มีความละเอียด 3 ล้านพิกเซลจำหน่ายในราคา 10,000 บาท ส่วนกล้องดิจิตอลที่มีความละเอียด 4 ล้านพิกเซลจำหน่ายในราคา 10,000 กว่าบาท และ ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลจำหน่ายในราคา 20,000 บาท "สถานการณ์การแข่งขันของธุรกิจถ่ายภาพในขณะนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่ากล้องดิจิตอลมาแรงมาก ขณะเดียวกันบริษัทต้องพัฒนาตลาดใหม่เพื่อกระตุ้นตลาดฟิมล์ด้วยการจัดกิจกรรมด้านการตลาดเพื่อประคองตลาดโดยจัดให้มีการชิงโชคครบรอบ 130 ปี "โคนิก้า" ตัดฟิลม์ข้างกล่องโคนิก้าได้รับสิทธิ์ขึ้นบอลลูน 12 คู่โดยใช้งบประมาณถึง 2 ล้านบาท" นายวิทวัสกล่าว ด้านนายบุญเจิด หาญวิชิตชัย รองกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัทไอทีซิตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาตลาดรวมมียอดขายกล้องดิจิตอลประมาณ 90,000 เครื่อง หรือคิดเป็นมูลค่า 1,500 ล้านบาท คาดการณ์ว่าภายในปีนี้ตลาดรวมจะมียอดขายประมาณ 200,000 เครื่อง โดยเติบโตขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 100% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,600 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 100% เช่นเดียวกัน ผู้ผลิตมือถือไล่เบียดกล้องดิจิตอล เพิ่มความละเอียดเป็นล้านพิกเซล แหล่งข่าวจาก บริษัท โมโตโรล่า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าในปี 2547 โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีกล้องถ่ายรูปขณะนี้ได้พัฒนาความละเอียดในการถ่ายภาพเพิ่มเป็น 1 ล้านพิกเซลเนื่องจากเทคโนโลยีในขณะนี้พร้อมที่จะพัฒนาออกสู่ท้องตลาด อีกทั้งในประเทศญี่ปุ่น ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไอ-โหมด ได้นำมาให้บริการ ส่วนในเมืองไทยคาดว่าจะนำเข้ามาจำหน่ายภายในปีหน้า คาดว่าราคาจำหน่ายเชื่อว่าจะไม่สูงกว่าระดับสินค้าที่จำหน่ายอยู่ในขณะนี้ "โทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นที่มีกล้องติดตัวถ้าให้มาตรฐานเท่ากับกล้องดิจิตอลเป็นไปได้ยากแต่สินค้าทั้งสองชนิดสามารถเกื้อกูลระหว่างกันได้ เพราะกล้องดิจิตอลมีความคมชัดมากกว่าเพราะมีเทคโนโลยีรุ่นใหม่ CCD ซึ่งเป็นวงจรรับแสงของกล้องที่มีความคมชัดมากมีการพัฒนาไปถึง 5 ล้านพิกเซล ขณะที่โทรศัพท์มือถือซาเจมเป็นรายเดียวที่ใช้วงจรรับแสง COMS รุ่นเก่าของกล้องดิจิตอลนำมาให้บริการ" ขณะที่นางสาวณภัทร สิมะวานิชกุล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ บริษัท แอลจีมิตร อิเลคทรอนิคส์ จำกัด ได้คาดการณ์ว่าในปี 2548 บริษัทมีแผนจะผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีคุณสมบัติการถ่ายภาพที่มีความละเอียดภาพได้เท่ากับกล้องฟิล์ม เนื่องจากเทคโนโลยีมีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามโทรศัพท์เคลื่อนที่ถ่ายภาพได้ยังมีข้อจำกัดตรงมุมมองการถ่ายภาพที่แคบกว่ากล้องใช้ฟิล์ม ซึ่งจากข้อจำกัดดังกล่าวอาจทำให้ในอนาคตกล้องฟิล์มยังไม่หมดไปจากตลาด ถึงแม้กล้องดิจิตอลและโทรศัพท์เคลื่อนที่จะมีการพัฒนาคุณสมบัติการทำงานให้มีความละเอียดของภาพเทียบเท่ากับกล้องฟิล์มก็ตาม นางสาวณภัทร กล่าวต่อไปว่าตลาดกล้องดิจิตอลและโทรศัพท์เคลื่อนที่ถ่ายภาพได้มีฐานลูกค้าที่แตกต่างกันคือ ลูกค้าที่ซื้อกล้องจะคำนึงถึงเรื่องของคุณภาพและความคมชัดของภาพมากกว่าความสะดวกในการใช้งาน แต่ลูกค้าที่ซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่จะคำนึงถึงเรื่องของการสื่อสารมากกว่าการถ่ายภาพ ร้านถ่ายภาพระบุตลาดฟิลม์ซบเซา ยอดขายกล้องฟิลม์&ฟิลม์หล่นวูบ 80% อย่างไรก็ตามจากการสำรวจร้านถ่ายภาพตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ที่เปิดให้บริการจำนวนกว่า 7 รายปรากฏว่ามีการตัดราคาในการล้างอัดภาพเหลือใบละ 2.50 บาทราคาจำหน่ายฟิลม์ลดลงเหลือ 70-80 บาท ต่อเรื่องนี้นายกลม หวังนิเวศน์กุล ผู้จัดการและช่างภาพ บริษัท ฮุ๊งแอนด์ณา สตูดิโอ จำกัด กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้กระแสความนิยมกล้องดิจิตอลและโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบมีกล้องในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดกล้องที่ใช้ฟิล์มและฟิล์มซบเซาอย่างหนัก ส่วนปัจจัยที่มองว่าอุปกรณ์ดิจิตอลเป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะ ความสะดวกในการใช้งานและใช้เวลาในการแต่งภาพไม่มากนัก แตกต่างจากกล้องใช้ฟิล์มที่ยุ่งยากมากกว่า อย่างไรก็ตามกล้องใช้ฟิล์มยังมีข้อได้เปรียบกล้องดิจิตอลในส่วนความละเอียดและความคมชัดของภาพ โดยปกติกล้องใช้ฟิล์มจะมีความละเอียดและความคมชัดของภาพมากกว่ากล้องดิจิตอลประมาณ 30 - 40%แต่ในอนาคตเชื่อว่ากล้องดิจิตอลจะมีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีให้มีความละเอียดเท่ากล้องฟิล์ม ซึ่งถึงเวลานั้นอาจส่งผลให้ธุรกิจกล้องฟิล์มหายไปจากประเทศไทยก็เป็นได้ "จากกระแสกล้องดิจิตอลและโทรศัพท์เคลื่อนที่ถ่ายภาพกำลังมาแรง ส่งผลให้ยอดจำหน่ายกล้องฟิล์มและฟิล์มของบริษัทลดลงถึง 50% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามปัจจุบันกลุ่มลูกค้ากล้องฟิล์มและกล้องดิจิตอลเป็นกลุ่มที่แตกต่างกัน ซึ่งกลุ่มที่นิยมใช้กล้องดิจิตอลจะเป็นกลุ่มคนที่ต้องการความสะดวกในการใช้งาน และไม่ต้องการความละเอียด หรือความคมชัดของภาพมากนัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น แต่กลุ่มคนที่ใช้กล้องฟิล์มส่วนใหญ่จะเป็นช่างกล้องมืออาชีพหรือกลุ่มที่พอมีความรู้เรื่องการใช้กล้องมาบ้าง ด้านนายวัชรพงษ์ พวงสุวรรณ ผู้จัดการร้านโฟโต้ เฟรน ดิจิตอล เล็บ กล่าวว่า ปัจจุบันกระแสความนิยมการถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิตอลและโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ติดตั้งกล้องถ่ายภาพมีมากกว่ากล้องฟิล์ม เนื่องจากความสะดวกในการใช้งานและเป็นสินค้าแฟชั่นทำให้ธุรกิจด้านการจำหน่ายกล้องฟิล์ม และฟิล์มประสบปัญหาอย่างหนัก โดยในส่วนของร้านมียอดการจำหน่ายกล้องใช้ฟิล์มลดลงถึง 80% และยอดการจำหน่ายฟิล์มลดลง 50% เทียบกับช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางร้านจึงมีการปรับกลยุทธ์ทางตลาดใหม่ ด้วยการจัดโปรโมชั่น เช่นลดราคา แจกของแถมให้กับลูกค้าที่ซื้อกล้องหรือฟิล์ม ฯลฯ อนึ่งมีรายงานข่าวหนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีท เจอร์นัลเมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา บริษัทอีสต์แมน โกดัก โค. ประกาศปรับกลยุทธ์ในการทำตลาด ด้วยการหันไปทำธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับภาพถ่าย และเตรียมจะส่งผลิตภัณฑ์ใหม่แข่งกับผู้นำตลาด ทั้งบริษัทฮิวเลตต์-แพคการ์ด โค. บริษัทแคนอน อิงค์. บริษัทไซโก เอปสัน คอร์ป. ในตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์-เจ็ต หรือบริษัทซีร็อกซ์ คอร์ป.กับเอชพี สำหรับตลาดเครื่องพิมพ์ระบบดิจิทัลระดับบน ขณะที่ตัวแทนบริษัทโกดัก เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะไม่มีโครงการลงทุนพัฒนาฟิล์มถ่ายภาพในระยะยาวอีกต่อไป เพราะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) ทำให้ต้องปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อความอยู่รอด รวมถึงแรงกระตุ้นจากผู้บริโภคหันไปนิยมการถ่ายภาพระบบดิจิทัลแทนฟิล์มถ่ายรูป โดยเมื่อเดือนกรกฎาคม โกดัก เปิดเผยว่า ยอดขายฟิล์มถ่ายรูปลดลงมากกว่าที่คาดไว้เมื่อต้นปีถึง 2 เท่า

    อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

    อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ กล้องดิจิตอล&มือถือชิงเจ้าตลาดเทคโนโลยีถ่ายภาพ