ฉลาดเลือก กล้องดิจิตอลเลือกซื้อและถ่ายภาพให้สวยง่ายนิดเดียว

เลือกซื้อ-ดูความต้องการและงบ เดี๋ยวนี้สำหรับคนทั่วไปที่คิดจะซื้อกล้องใหม่สักตัว คงไม่หันกลับไปหากล้องแบบฟิล์มกันสักเท่าไหร่ (ยกเว้นคนที่ชอบถ่ายรูปแบบมืออาชีพ หรือจำเป็นต้องใช้ในงาน) สาเหตุสำคัญก็มีหลายประการ เช่น ดิจิตอลสะดวกกว่าในการดูภาพก่อนถ่าย และการดูภาพหลังถ่ายจากในกล้องได้เลย สวยหรือห่วยรู้กันทันที มีโอกาสถ่ายใหม่ได้ และยังมีเรื่องความประหยัดในการถ่าย ที่ถ่ายแล้วสามารถก๊อบปี้เก็บในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ แล้วก็มาถ่ายได้อีกเรื่อย ๆ ไม่ต้องซื้อฟิล์ม ไม่ต้องไปล้างไปอัดให้เสียเงิน เสียเวลา จึงไม่น่าแปลกที่อัตราการเติบโตของกล้องดิจิตอลวันนี้จึงสูงขึ้นเรื่อย ๆ และมีแนวโน้มจะมาแทนกล้องฟิล์มได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ในอีกไม่กี่ปีนับจากนี้ ทีนี้การเลือกซื้อกล้องดิจิตอลนั้น จึงเป็นประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ เพราะวันนี้ด้วยกระแสความนิยมทำให้ผู้ผลิตหลายยี่ห้อ ได้จำหน่ายกล้องออกมาให้เลือกมากมาย หลายร้อยพันรุ่น หลายราคา หลายระดับให้เลือก จึงเกิดความสงสัยว่า เอ..ตกลงเราจะเลือกซื้อรุ่นไหน งบประมาณเท่าไหร่ รุ่นที่มีความละเอียดเท่าไหร่ถึงจะดี ไม่เวอร์หรือไม่แย่เกินไปสำหรับงานของเรา ? วันนี้นำเสนอเป็นตอนแรกครับ เรามาดูกันก่อนเลยว่า ถ้าจะซื้อกล้องดิจิตอลสักตัว คุณต้องดูความต้องการและรายละเอียดของตัวคุณเองอะไรบ้าง เพื่อที่จะซื้อให้ถูกและตรงความต้องการมากที่สุด เหล่านี้คือเรื่องหลัก ที่ต้องนึกถึงก่อนซื้อกล้องดิจิตอลสักตัว 1.ซื้อมาเพื่อใช้อะไร ? สิ่งที่ต้องรู้ก่อนซื้อคือ เราจะซื้อกล้องมาเพื่องานอะไร ต้องถามตัวเองให้ได้ก่อนเพราะบางคนอยากซื้อก็ซื้อมาเลย ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากล้องที่ซื้อมานั้นเหมาะกับเราหรือเปล่า อาจมองแค่หน้าตา หรือราคาถูกเข้าว่า ฯลฯ เราควรรู้ก่อนเลยว่า กล้องที่จะซื้อนั้นเอามาใช้และทำงานในเงื่อนไขอะไร เช่น ถ้างานของคุณต้องไปโน่นมานี่บ่อย ๆ การซื้อกล้องดิจิตอลคอมแพคขนาดเล็ก ๆ ก็เหมาะกับการใช้งาน (เช่น งานประกันรถ หรืองานทั่วไป) แต่ในขณะเดียวกัน ถ้างานของคุณต้องไปโน่นมานี่บ่อยก็จริง แต่ก็ต้องการภาพคุณภาพสูงด้วย (เช่น งานนักข่าว งานนิตยสาร ฯลฯ) และยังต้องสามารถถ่ายได้ทุกสถานการณ์ และมีความสามารถสูง ปรับโน่นปรับนี่ได้เยอะ ก็อาจจะต้องมองไปที่กล้องคอมแพ็กที่ดี ๆ กล้องขนาดมาตรฐานที่เก่ง ๆ หรือข้ามที่แบบ D-SLR ที่มีราคาแพงขึ้น แต่สามารถปรับแต่งได้ไม่ต่างจากกล้อง ฟิล์ม ซึ่งแน่นอนว่าราคาก็จะแพงขึ้นเป็นเท่าตัว เห็นไหมครับว่าเงื่อนไขการใช้งานเหมือนกัน แต่พอคุณภาพงานที่ออกไม่เท่ากัน ก็มีวิธีการเลือกซื้อและงบประมาณที่ไม่เหมือนกันแล้ว ดังนั้น ก่อนการเลือกซื้อ ควรศึกษาตัวเราเองให้ดี ว่าคุณลักษณะของกล้องดิจิตอลที่เหมาะกับงานของเรานั้นคืออะไร รูปแบบไหนที่เราจะใช้แล้วตรงกับงานได้เหมาะสมที่สุด ทั้งเรื่องของขนาด น้ำหนัก คุณภาพ ความละเอียด ความสามารถพิเศษ (เช่น การถ่ายวิดีโอได้) และอื่น ๆ ที่มาประกอบกันด้วย 2.งบประมาณไม่ใช่หัวใจของการซื้อ ! ถึงแม้ว่างบประมาณจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็ใม่ใช่หัวใจในการเลือกซื้อกล้องดิจิตอล เพราะในตลาดตอนนี้มีกล้องตั้งแต่ราคาระดับไม่กี่พันบาท ไปจนถึงหลายแสนบาท ซึ่งแต่ละระดับราคาก็มีความสามารถที่ลดหลั่นกันไป ตามการออกแบบและดีไซน์มา ทั้งนี้สิ่งที่หลายคนนึกถึงเมื่อจะซื้อกล้องสักตัวก็คือ เรามีเงินเท่าไหร่ ก็ให้ซื้อกล้องรุ่นที่มีราคาใกล้เคียงกับงบที่มีมากที่สุด เพราะเข้าใจว่าจะได้กล้องที่คุณภาพดีและมีกำลังซื้อได้พอดี อยากจะบอก หลายครั้งผมพบว่า คนเลือกซื้อกล้องดิจิตอล ตั้งงบประมาณไว้สูงเกินความจำเป็นของตัวเอง เพราะไม่ได้ดูที่หัวข้อ 1 คือ ซื้อมาเพื่อใช้อะไร ? มีไม่น้อยที่ต้องการซื้อกล้องมาเพื่อถ่ายภาพ สำหรับไปเที่ยว ไม่ซีเรียสเรื่องคุณภาพ และไม่เคยคิดจะอัดภาพใหญ่ไปกว่าโปสการ์ด แต่ซื้อกล้องราคาสามสี่หมื่น ที่ความละเอียด 6 ล้านพิกเซลและสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ (แต่ตอนถ่ายไม่เคยปรับใช้โหมดอื่นนอกจากออโต้) ในขณะที่จริง ๆ แล้วกล้องราคาหมื่นต้น ๆ ที่ 4 ล้านพิกเซลก็ตอบโจทย์เขาได้ลงตัวมากกว่า หรือที่แย่ไปกว่านั้นคือ บางคนซื้อมาเพื่อเก็บรูปลงเว็บ แต่ซื้อกล้อง DSLR ที่สามารถปรับได้เหมือนกล้องฟิล์ม ราคา 6-7 หมื่น เป็นต้น จริงอยู่หลายท่านอาจมีเงินเยอะ และไม่ค่อยสนใจว่าจะซื้อมาทำอะไร เพราะถือว่าอยากได้รุ่นดีที่สุด แต่ก็ต้องอย่าลืมว่า เทคโนโลยีมันไปเร็วมาก การมีงบประมาณเยอะและคิดว่าซื้อของดีที่สุด ไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้ของดีที่สุดเพราะอีกไม่นานมันก็มีของดีกว่าออกมาอีกเรื่อย ๆ ดังนั้นการดูที่ความเหมาะสมของเรา ณ ตอนนี้ และใช้งบประมาณซื้อให้พอดี จะทำให้คุณได้ของที่ตอบโจทย์ได้ และคุ้มค่ามากกว่าซื้อของดีเกินความจำเป็นมาแล้วไม่ได้ใช้เลย !! content by