Sony DSC-FX77 กล้องไร้สายด้วย Bluetooth

เหมียวกา : อย่างที่รู้กันว่าเทคโนโลยี Bluetooth นั้นเป็นการเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบไร้สาย ที่อยู่ในรัศมีสัญญาณความกว้าง ประมาณ10 เมตร และรัศมีองศาในการรับส่งข้อมูลของบลูทูธก็มีถึง 360 องศา จึงสะดวกสบายกว่าการใช้เทคโนโลยี Infrared Port ซึ่งในปัจจุบันก็มีใช้กันแล้วในโทรศัพท์มือถือ ยกเว้นแต่กล้องดิจิตอลนี่สิยังไม่เคยเห็นมี แล้วถ้ากล้องดิจิตอลมี Bluetooth ล่ะ มันจะเป็นยังไงนะ คุณสมบัติที่น่าสนใจ เลนส์และแฟลชที่สามารถปรับหมุนได้ถึง 300 องศา กล้องดิจิตอลตัวแรกที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายด้วย Bluetooth มี Time Lag 0.35 วินาที ทำให้ได้ภาพทันทีที่กดปุ่มชัตเตอร์ Smart Zoom ระบบดิจิตอลซูมแบบใหม่ที่จะไม่ทำให้คุณภาพของภาพลดลง ช่วงความเร็วชัตเตอร์ 1/30-1/1000 วินาที ปรับความไวแสง ISO อัตโนมัติและปรับตั้งเองได้ตั้งแต่ ISO 100-400 ระบบวัดแสงแบบมัลติแพทเทิร์นและเฉพาะจุด ระบบโฟกัสแบบอัตโนมัติ จาก 50 ซม-อินฟินิตี้ และมาโครใกล้สุด 10 ซม. ระบบแฟลชแบบอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับสภาพแสงในขณะนั้น ซึ่งกล้องจะทำการตรวจเช็คเองว่ามีแสงเพียงพอที่จะถ่ายภาพ หรือไม่ ถ้าไม่พอแฟลชก็จะทำการเองโดยอัตโนมัติ และก็มีใช้แฟลช แฟลชแก้ตาแดง เปิดแฟลชและปิดแฟลช มีระบบถ่ายภาพด้วยตัวส่องไฟ AF เป็นการเพิ่มแสงไฟเพื่อช่วยให้ง่ายต่อการจับโฟกัสเมื่อต้องถ่ายภาพในที่มืด มีโปรแกรมพิเศษสำหรับถ่ายภาพ (Scene Selection) 4 โหมด คือ ถ่ายภาพบุคคล ภาพทิวทัศน์ ภาพบุคคลกลางคืน และภาพกลางคืน ระบบถ่ายภาพเคลื่อนไหววีดิโอ MPEG Movie HQX ที่เลือกได้ 2 ขนาด คือ 320x240 พิกเซล และ 160x112 พิกเซล Clip Motion ถ่ายภาพนิ่งหลายๆ ภาพติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง และMulti Burst ถ่ายภาพ 16 เฟรม ด้วยความเร็ว 2 ภาพ/วินาที ยลโฉม การออกแบบเหมือนกับรุ่น DSC-F77 ทุกอย่าง ต่างตรงที่ DSC-FX77 มี Bluetooth ที่ถือว่าเป็นจุดเด่นเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นกล้องดิจิตอลตัวแรกและตัวเดียวของโลกที่รองรับเทคโนโลยี Bluetooth รูปทรงของตัวกล้องมีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก ตัวบอดี้ทำจากโลหะอลูมิเนียม สีบรอนซ์เงินตามสมัยนิยม โดยวางตำแหน่งของเลนส์คงที่ Carl Zeiss Disagon 37 มม. รูรับแสง F/2.8 และแฟลชที่อยู่ข้างๆ สามารถปรับได้ 300 องศา ซี่งแฟลชจะทำงานอัตโนมัติเมื่อแสงไม่เพียงพอสำหรับถ่ายภาพ โดยมีระยะใช้งาน 1.7 เมตร ใกล้ๆกับแฟลชที่เป็นจุดกลมๆ เล็กๆ คือ ไฟระบบหน่วงเวลาถ่ายภาพ และตัวส่องไฟ รวมทั้งมีช่องมองภาพแบบออฟติคอล ที่จะมีไฟ 3 จุดอยู่ใกล้ๆ คือ ไฟตั้งเวลา/ไฟบันทึก ไฟล็อค AE/AF (สีเขียว) ไฟแฟลช/CHG (สีสัม) ด้านหลัง ประกอบด้วยจอ LCD ขนาด 1.5 นิ้ว ความละเอียด 123,000 จุด ที่แสดงภาพได้ดีแม้จะต้องถ่ายในที่กลางแจ้งก็ตาม เหนือขึ้นไปทางขวาก็คือปุ่ม Smart Zoom ส่วนปุ่มข้างๆ จอ LCD นั้นคือ ปุ่มควบคุม (เมื่อเปิดเมนู) แต่ถ้าอยู่ที่หน้าจอปกติ เมื่อกดขึ้นจะเข้าสู่ระบบแฟลช กดลงเข้าสู่ระบบหน่วงเวลาถ่ายภาพ 10 วินาที กดซ้ายเป็นการ Preview กดขวาเข้าสู่โหมดมาโคร ถัดลงมาเป็นปุ่ม Display/LCD On/Off ปุ่มเมนู และที่ร้อยสายคล้องมือ ด้านขวา จะมีวงแหวน Mode ประกอบด้วย ถ่ายภาพนิ่งอัตโนมัติ P ถ่ายภาพนิ่งในโหมดโปรแกรม SCN โหมด Scene Selection Set Up ระบบถ่ายภาพเคลื่อนไหววีดิโอ/Clip Motion ถ่ายภาพนิ่งหลายๆ ภาพติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง/Multi Burst ถ่ายภาพ 16 เฟรม และช่องแบตเตอรี่ที่ภายในมีไฟการทำงานของข้อมูล ปุ่ม Reset และปุ่มถอดแบตเตอรี่ ด้านซ้ายเป็น Bluetooth สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สาย ปุ่มชัตเตอร์ก็อยู่ทางด้านบนของตัวกล้องบริเวณด้านขวา ส่วนช่องต่อขาตั้งกล้อง และช่องต่อแบตเตอรี่นั้นอยู่ทางด้านล่าง อ่านต่อหน้า 2 ทดลองใช้งาน เมื่อลองเปิดกล้องใช้งานโดยวิธีการเปิดกล้องนั้นมี 2 วิธีคือ เปิดปุ่ม Power หรือเปิดโดยการผลักเลนส์ขึ้น กล้องก็จะพร้อมทำงาน และถ้าเราเปิดกล้องทิ้งไว้โดยไม่มีการใช้งาน กล้องจะปิดเครื่อง และหน้าจอ LCD ก็จะดับลง เพื่อเป็นการประหยัดแบตเตอรี่ ระบบถ่ายภาพแบบอัตโนมัติ กล้องจะตั้งค่าต่างๆ เช่น ความเร็วชัตเตอร์ รูรับแสง ระบบวัดแสง เป็นต้น ให้อัตโนมัติ โดยเราไม่สามารถปรับอะไรได้นอกจากขนาดภาพ (ที่เลือกจากเมนู) มีให้เลือก 5 ขนาด คือ 2272x1704, 2272 (3:2),, 1600x1200, 1280x960, 640x480 และ Mode ต่างๆ คือ Normal E-Mail Voice เราก็เพียงแต่เล็งมุมที่ต้องการเท่านั้น แล้วกดชัตเตอร์ กล้องจะทำการล็อคค่า AE/AF ให้อัตโนมัติเช่นกัน โดยที่กล้องจะเลือกโฟกัสเป็นแบบ Multipoint AF ให้ ส่วนระบบถ่ายภาพมาโครนั้นก็ใช้ได้กับ P SCN (ยกเว้น Landscape) และวีดิโอเท่านั้น ส่วนระบบถ่ายภาพโปรแกรม P กล้องจะตั้งค่ารูรับแสง และความเร็วชัตเตอร์ให้เราอัตโนมัติเหมือนระบบถ่ายภาพแบบอัตโนมัติ แต่เราสามารถปรับค่าต่างๆ อย่าง ระบบชดเชยแสง ระบบโฟกัส ระบบแสงสมดุลสีขาว ระบบวัดแสง ISO ระดับแฟลช ขนาดภาพ คุณภาพของภาพ Mode ภาพ P. Effect และปรับความคมชัดของภาพ จากเมนูได้มากกว่า ส่วน SCN นั้นมีให้เลือก 4 โหมดคือ ภาพบุคคล ภาพวิวทิวทัศน์ ภาพบุคคลกลางคืน ภาพกลางคืน ซึ่งกล้องจะปรับค่าให้ตามความเหมาะสมของแต่ละโหมด แต่เราก็ยังปรับค่าต่างๆ ได้เหมือนกับระบบถ่ายภาพโปรแกรม P ยกเว้น ISO ที่ไม่สามารถปรับได้เอง ระบบถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบวีดิโอเลือกได้ 2 ขนาด คือ 320x240 พิกเซล 160x112 พิกเซล และยังมีเพิ่มเติมเป็นพิเศษสำหรับขนาด 320(HQX) กล้องจะปรับค่าที่เหมาะสมให้อัตโนมัติ แต่ก็สามารถปรับชดเชยแสง โฟกัส ระบบแสงสมดุลสีขาว เอ็ฟเฟ็คภาพได้ที่เมนู แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถซูมได้ แต่คงทดแทนได้ด้วยลูกเล่นพิเศษที่เราสามารถตัดหรือลบภาพในส่วนที่เราไม่ต้องการทิ้งได้เมื่อความจุของ Memory Stick ไม่พอ (ปรับได้ที่เมนู Playback ) ซึ่งนับว่าเป็นข้อดีมากๆ เพราะการถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบวีดิโอมักจะกินพื้นที่ในการ์ด ระบบ Playback สามารถดูภาพแบบทีละภาพ 3 ภาพ และ 9 ภาพ รวมทั้งมี Menu ต่างๆ ให้เลือกใช้งาน เช่น การลบภาพ การป้องกันภาพ การเลือกภาพที่จะพิมพ์ การดูภาพแบบสไลด์โชว์ การปรับขนาดภาพ เป็นต้น ส่วนการปรับค่าต่างๆที่เกี่ยวกับตัวกล้องนั้นต้องไปปรับที่ Set Up ที่สำคัญกล้องตัวนี้มี Bluetooth ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์แบบไร้สาย ดังนั้นถ้าเราถ่ายรูปเสร็จแล้วก็สามารถส่งภาพไปยังอุปกรณ์อื่นอย่างเช่น โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ พีดีเอ ได้ทันที และไม่เพียงแต่ส่งได้อย่างเดียวเท่านั้น กล้องตัวนี้สามารถรับภาพจากอุปกรณ์อื่นมาไว้ที่กล้องได้เช่นกัน รวมทั้งสามารถสั่งพิมพ์ภาพจากตัวกล้องโดยตรง และใช้รีโมทในการถ่ายภาพแทนได้อีกด้วย ซึ่งนับว่าเป็นข้อดีมากๆ เพราะช่วยเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วให้กับผู้ใช้ และถือเป็นจุดเด่นที่เหนือกว่ากล้องดิจิตอลทั่วไปที่สามารถเรียกคะแนนจากผู้ซื้อที่ชื่นชอบเทคโนโลยีเสียจริง จริง ลูกเล่นที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ ระบบถ่ายภาพด้วยตัวส่องไฟ AF เป็นการเพิ่มแสงไฟเพื่อช่วยให้ง่ายต่อการจับโฟกัสเมื่อต้องถ่ายภาพในที่มืด โดยตั้ง AF illuminator ใน Set Up ไปที่ Auto เมื่อถ่ายภาพในสภาพแสงไม่พอจะปรากฎ On บนจอ LCD แต่เรื่องของกำลังซูมนั้นจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับขนาดของภาพที่เราเลือก คือ เมื่อปรับขนาดภาพที่ 640x480 จะสามารถซูมภาพได้ 3.5 เท่าแบบดิจิตอลซูม เมื่อปรับขนาดภาพที่ 1280x960 จะสามารถซูมภาพได้ 1.7 เท่าแบบดิจิตอลซูม เมื่อปรับขนาดภาพที่ 1600x1200 จะสามารถซูมภาพได้ 1.4 เท่าแบบดิจิตอลซูม แต่เมื่อขนาดภาพ 2272x1704 และ 2272 (3:2) จะไม่สามารถซูมได้ และมันก็มีข้อเสียตรงที่จะทำให้คุณภาพของภาพลดลง และหากปิดจอ LCD ไว้ก็จะไม่สามารถใช้ซูมได้ รวมทั้งระบบถ่ายภาพเคลื่อนไหวไม่สามารถซูมได้ โดยรวมแล้วกล้องดิจิตอลจากโซนี่ DSC-FX77 ตัวนี้น่าประทับใจมาก โดยเฉพาะจุดเด่นที่รองรับเทคโนโลยี Bluetooth และเลนส์ที่สามารถปรับหมุนได้ จึงทำให้ผู้ใช้มีมุมมองที่หลากหลายมากขึ้นที่ทำให้ได้ภาพทันที ระบบโฟกัสรวดเร็วดี และระบบวัดแสงโดยเฉพาะระบบวัดแสงเฉพาะจุดให้ค่าที่เที่ยงตรงพอสมควร แต่มีข้อติตรงที่ไม่มีซูมแบบออฟติคอล มีแต่ซูมแบบดิจิตอลจึงทำให้คุณภาพของภาพที่ได้ออกมายังไม่ดีเท่าทีควร แต่ถ้าตั้งไว้ที่ความละเอียดของภาพสูงๆ ภาพก็จะมีความคมชัดสวยงาม เพราะการใช้ดิจิตอลซูมจะทำให้คุณภาพของภาพลดลงเล็กน้อย แต่ถ้าดูจากกล้องตัวขนาดเล็กกะทัดรัดความละเอียดในระดับ 4 ล้านพิกเซลแล้ว มีคุณสมบัติที่น่าสนใจตามที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ก็ถือว่าใช้ได้แล้วนะคะ ราคาประมาณ 19,900 บาท ขอขอบคุณร้าน บาสค์ ที่เอื้อเฟื้ออุปกรณ์ในการทดสอบ