เจาะลึก Robotaxi ตัวเลือกคมนาคม AI สำหรับอนาคต ดีจริงหรือยังเร็วเกินไป?

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา Tesla ได้เริ่มเปิดตัว Robotaxi หรือแท็กซี่ไร้คนขับอย่างเป็นทางการในเมืองออสติน เป็นเหมือนอีกก้าวสำคัญของนวัตกรรมที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลก แต่หลายคนอาจจะเกิดคำถามในหัวกันบ้างแหละ ว่า Robotaxi แท็กซี่ไร้คนขับ มันคืออะไร? จะดีจริงหรือไม่? จะปลอดภัยรึเปล่า? ซึ่งวันนี้ เราจะมาเจาะลึกถึง Robotaxi กัน

Robotaxi คืออะไร?

Robotaxi คือแท็กซ๊่ไร้คนขับที่ให้บริการรับส่งผู้โดยสารแบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องมีคนขับอยู่หลังพวงมาลัย ซึ่งทำงานด้วยเทคโนโลยี AI, เซ็นเซอร์, กล้อง, เรดาร์, LiDAR ช่วยในการตัดสินใจและขับเคลื่อน

โดยโปรเจ็กต์แท็กซี่ไร้คนขับนี้มีการคิดค้นครั้งแรกโดย NuTonomy ในปี 2016 ก่อนที่บริษัทอื่นๆอย่าง Cruise, Waymo หรือ Baidu จะตามมาในปีต่อๆมา จนมาถึง Tesla ในปัจจุบัน

Robotaxi แท็กซี่ไร้คนขับ ดีจริงหรือยังเร็วเกินไป?

สำหรับ Robotaxi นับเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก และถือเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญของการขนส่งแห่งอนาคต คงเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นถ้าเราสามารถเรียกบริการแท็กซี่เดินทางไปไหนก็ได้ โดยที่ไม่ต้องกังวงว่าจะเจอคนขับแบบไหน แถมยังช่วยลดมลพิษในอากาศเพราะว่าเป็นระบบไฟฟ้า ไม่ต้องใช้น้ำมัน

แต่ถึงกระนั้น แม้ว่า Robotaxi จะเป็นตัวเลือกใหม่แห่งอนาคต แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าการที่เราจะเอา AI มาใช้แทนในเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างการขับรถ ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะง่ายขนาดนั้น 

โดยในอดีต มีหลายเหตุการ์ณที่ Robotaxi เกิดข้อผิดพลาดขึ้น และทำให้เกิดความเสียหายต่อส่วนรวม เช่น Robotaxi ขับชนรถเมล์ในซานฟรานซิสโกในปี 2023 หรือจะเป็นเหตุการณ์แท็กซี่ไร้คนขับของ Waymo มีข้อผิดพลาดด้านซอร์ฟแวร์ และถูกเรียกคืนกลับกว่า 1,200 คันในปี 2025

รวมถึง Robotaxi ของ Tesla ที่เพิ่งเปิดตัวไป โดยมีวิดีโอที่แสดงให้เห็น Robotaxi ของ Tesla นั้นมีอาการผิดปกติ เบรกกะทันหันกลางถนน นอกจากนี้ยังมีรายงานอื่นๆเข้ามาอีก อย่างเช่น ขับผิดเลน ซึ่งตอนนี้ทางหน่วยรักษาความปลอดภัยของสหรัฐ (NHTSA) ก็ได้เข้าไปตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กล่าวสรุปโดยรวม Robotaxi เป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจสำหรับทางเลือกใหม่ในอนาคตก็จริง ถ้าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราก็ต้องยอมรับว่าระบบการทำงานของแท็กซี่ไร้คนขับอาจจะต้องผ่านการทดสอบและปรับปรุงอีกมาก ถึงจะปลอดภัยและพร้อมใช้งานจริงๆ

ในวันนี้ มันอาจยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่ในวันข้างหน้า มันอาจเปลี่ยนวิธีการเดินทางของเราทั้งโลก