รีวิว​ Samsung​ Galaxy Z Fold3 มือถือพับได้กับเทคโนโลยีจัดเต็มจนเรียกว่า มือถือที่สุดแห่งปี

กลับมาพบกับการทดลองใช้ Gadget จากทีม Sanook Hitech อีกครั้งสำหรับรอบนี้ทีมได้รับมือถือรุ่นใหม่ของ Samsung​ ที่ได้เปิดตัว​ไม่นานมากนี้ มาครบทั้งหมด 4 ชิ้นด้วยกัน ขอเริ่มกับตัวแรกอย่าง Samsung​ Galaxy Z Fold 3 รุ่นใหม่ล่าสุดที่หลายคนรอคอย​ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงแค่ไหน มาดูกันเลย

รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Samsung Galaxy Z Fold3

เริ่มต้นกับด้านหน้าจอเป็นแบบ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.2 นิ้วครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus แข็งแรงทนทาน แต่มีการติดฟิล์มกันรอยมาให้ด้วย

ด้านบนจะมี Ear Peach สำหรับฟังเสียงโทรศัพท์ได้ และ มีกล้องหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล มาให้

ส่วนล่างนั้นก็จะมาพร้อมกับปุ่มควบคุมระบบปฏิบัติการ วิธีเปลี่ยนเข้าที่ Setting (ตั้งค่า) >Display (หน้าจอ) > Navigation Bar (แถบการนำทาง)  และเปลี่ยนได้ทั้งหมด 2 แบบคือ ปุ่มกดปกติ และ การสัมผัส

รอบตัวเครื่องจะมีการออกแบบที่สวยงาม ด้วยวัสดุโลหะที่รอบนี้ออกแบบได้ทนทานต่อรอยขีดข่วนสวยทนกว่าเดิมฝั่งซ้ายมีบานพับพร้อมกับโลโก้ Samsung สวยงาม และภายในบานพับจะมีการเสริมยางภายในทำให้เกิดการทนน้ำได้นั่นเอง

ฝั่งขวาจะมีการแบ่งออกเป็นส่วนบนจะมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่อง ส่วนล่างจะมีปุ่มสำหรับปรับระดับเสียง และ Power Button สำหรับเปิด / ปิด และมีระบบสแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย

ส่วนบนมีลำโพงตัวเครื่องพร้อมกับไมโครโฟนอีก 3 จุดด้วยกัน (บนทั้งหมด 1 จุด ล่าง 2 จุด)

ส่วนล่างม่ช่องเสียบ USB-C พร้อมกับลำโพงตัวที่ 2 และไมโครโฟนของตัวเครื่องอีกจุดเช่นเดียวกัน เท่ากับมือถือรุ่นนี้มีไมโครโฟนทั้งหมด 4 ตัว

ด้านหลังจะมีความคล้ายกับ Samsung Galaxy S21 Ultra แต่จริงๆ มันมีแค่ส่วนกล้องที่เป็นโลหะและยื่นออกมาจากด้านหลัง ให้กกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมกับ LED Flash

ก้างหน้าจอสักหน่อยดีกว่าจะมาพร้อมกับหน้าจอแบบ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 7.6 นิ้ว ความละเอียดสูงมากถึง 2206 x 1768 พิกเซล พร้อมกับมี Refresh Rate 120Hz ทั้งด้านนอกและด้านใน แต่ความพิเศษคือด้านในจะมาพร้อมกับกล้องหน้าแบบ Under Display Camera ความละเอียด 4 ล้านพิกเซล และรองรับปากกา S Pen

ภาพรวมการออกแบบ

เมื่อรู้จักแต่ละส่วนกันไปแล้ว ในภาพรวมการออกแบบให้น้ำหนักเบาขึ้น แต่น้ำหนักของบานพับยังคงหนักแน่นเหมือนเดิม (แต่ก็หนักอยู่ดี) เพราะคาดว่าคงจะทำให้เบากว่านี้อาจจะไม่ได้เกิดความคงทนแน่นอน บานพับออกแบบให้ทนต่อการพับได้ทั้งหมด 2 แสนครั้งและยังมีชิ้นส่วนที่ทำให้จอสามารถใช้งานปากกา S Pen ได้แม้ว่าจะเป็นจอนุ่มอยู่ก็ตาม ทั้งนี้เครื่องออกแบบให้ทนกับน้ำได้ระดับ IPX8 คือ ทนน้ำได้ 1 เมตร นาน 30 นาที เผื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่ว่า ไม่ได้กันฝุ่นนะต้องระวังจุดนี้

ทั้งนี้ปากกาจะต้องใช้กับ S Pen Fold Edition หรือ S Pen Pro เท่านั้น

สำหรับในประเทศได้วางจำหน่ายทั้งหมด 3 คือ Phantom Black, Phantom Green และ Phantom Sliver อยู่ครับ

เปิดเครื่องลองใช้งาน Samsung Galaxy Z Fold3

รายละเอียดของ Samsung Galaxy Z Fold3

• สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : (ก่อนกาง) 158.2 x 67.1 x 16  มิลลิเมตร | (เมื่อกาง) 158.2 x128.1 x 6.4 มิลลิเมตร  
• น้ำหนัก : 271 กรัม  
• การป้องกันน้ำและฝุ่น : IPX8
• หน้าจอแสดงผล : ด้านนอก Dynamic AMOLED 2X 6.2 นิ้วความละเอียด 2268x832 พิกเซล และหน้าจอภายใน Dynamic AMOLED 2X 120Hz ขนาด 7.6 นิ้ว ความละเอียด 2208 x 1768 พิกเซล (อัตราส่วน 4:2:3)  รองรับปากกา S Pen

• กระจกคลุมจอ Gorilla Glass Victus
• ชิปเซ็ตประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 888 ใช้ GPU Adreno 660
• การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11 B/G/N/AC/AX, Bluetooth 5.2, GPS, A-GPS, 5G, 4G  
• SIM Card : รองรับ Dual Nano SIM และ 1 eSIM
• ระบบปฏิบัติการ : Android 11 + One UI 3.1  
• ระบบความปลอดภัย  
• สแกนลายนิ้วมือผ่านด้านข้าง  
• ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า  

• กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว ครอบด้วย Super Clear Glass Gorilla Glass DX+ :   
• 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f2.4, Telephoto   
• 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f1.8, Wide  Dual Pixel  
• 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f2.2, Ultra-Wide  

• กล้องดิจิทัลด้านหน้า : (ด้านในหน้าจอ) 4 ล้านพิกเซล F2.2| (ด้านนอก) กล้องความละเอียด 10 ล้านพิกเซล F2.2  
• ลำโพง Stereo พร้อมกับ Dolby ATMOS
• แบตเตอรี่ความจุ : 4,400 mAh (แบ่งแบตเตอรี่ 2 ข้าง) + Fast Charge 25W, Wireless Charge 15W, Reverse Wireless Charge 4.5W  
• พอร์ตเชื่อมต่อแบบ : USB Type-C  
• หน่วยความจำแรม (RAM) : 12 GB  

• หน่วยความจำภายใน (ROM) : 256 / 512GB  
• หน่วยความจำภายนอก : -  
• สีสันของเครื่อง : Phantom Black, Phantom Silver และ Phantom Green

ประสิทธิภาพ / การใช้เล่นเกม

คะแนนประสิทธิภาพของ AnTuTu = 706,630 คะแนน

คะแนนประสิทธิภาพของ Geekbench = 900 (Single Core) | 2,196 คะแนน (Multi Core)

3DMark

เรียกได้ว่าเป็นขุมพลัง Snapdragon 888 ในมือถือรุ่นนี้ให้ขุมพลังที่แรงมากมาย ด้วย RAM 12GB ถือว่าดีใช้ได้แต่ว่าความร้อนที่เกิดนขึ้นค่อนข้างสูงเวลาเล่นเกม ซึ่งเป้นเรื่องที่ต้องทำใจกับขุมพลังรุ่นนี้

ส่วนฟีเจอร์การเล่นของมือถือรุ่นนี้จะมีฟีเจอร์ Game Launcher เป็นสวนรวมของเกมทั้งดาวน์โหลดมาจาก Play Store หรือใน Galaxy Store เช่นเดียวกัน แต่ยังไม่หมดครับเพราะว่ามี Game Booster รายงานระหว่างการเล่นเกม สามารถตั้งบันทึกวิด๊โอ, Capture หน้าจอระหว่างเล่นเกม, ปิดการแจ้งเตือนทั้งหมด รวมถึงการรายงานความร้อนและประสิทธิภาพของเครื่องได้ด้วย

การเชื่อมต่อไร้สาย / ลองใช้นำทาง

Samsung Galaxy Z Fold3 จะมาพร้อมกับการเชื่อมต่อไร้สายที่ครบครันทั้ง 5G SA / NSA, Wi-Fi-6 สามารถใช้งาน GPS, A-GPS ใช้นำทางได้ดี และยิ่งสลับระหว่างจอใหญ่และจอเล็กได้ด้วยครับ

การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียงของ Samsung Galaxy Z Fold3

สำหรับหน้าจอทั้งด้านนอกและด้านเป็นแบบ Dynamic AMOLED 2X จะมาพร้อมกับค่า Refresh Rate 120Hz ทำให้หน้าจอมีความลื่นไหลกว่าเดิม ทำให้เวลาที่เล่นเกมตอบสนองได้เร็วครับ และยังปรับการแสดงผลได้หลากหลายเช่น Reading Mode โหมดถนอมสายตาและเรื่องโทนสีอุ่นหรือเย็น และรวมไปถึง Video Enhance Mode ที่ทำให้การแสดงวิดีโอเป็นนแบบที่คุณต้องการ

ส่วนลำโพงของเครื่องมีขนาดใหญ่ด้วยกัน และอยู่ทั้งบนและล่าง ให้คุณภาพใหญ่ใช้ด้วยกันครับรองรับระบบ Dolby ATMOS จะมาพร้อมกับการปรับ Equalizer ทำให้เสียงดีขึ้นได้ แต่ถ้าใครอยากเสียบหูฟัง Bluetooth มาใช้ก็สามารถ Dolby ATMOS เป็นต้น

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ที๋โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย

จอด้านนอก

จอด้านใน

ระบบปฏิบัติการของ Samsung Galaxy Z Fold3 จะมาพร้อมกับ One UI 3.1 รองรับกับหน้าจอพับได้ พื้นฐาน Android 11 และนยังมาพร้อมกับการอัปเดตเปลี่ยนระบบปฏิบัติการทั้งหมด 3 รุ่น และยังมีการอัปเดต Patch ความปลอดภัย 4 ปีด้วยกันครับ และระหว่างใช้จอนอกและจอในของ Application บางตัวจะเป็นการผสมระหว่างมือถือ และ Tablet ตัวอย่างเช่น การตั้งค่า หรือ Setting ถ้าเราเลือกหัวข้อแล้วจะเข้าไปเลย ในจอด้านนอก แต่ถ้าด้านใน จะแสดงผลอีกฝั่งเป็นเมนูหลัก และจออีกฝั่งเป็นตัวเลือกย่อยข้างใน

หรือจะเป็นการเข้าเว็บไซต์ผ่าน Samsung Internet ถ้าเราเห็นลิงค์ที่สนใจแต่ไม่อยากกดให้เปลี่ยนหน้า กดลิงค์ค้างแล้วลากสามารถวางได้ทั้งฝั่งซ้าย เป็น Popup ลอย หรือจะไว้หน้าจอขวาได้ ทั้งนี้ Popup Apps เปิดได้ทั้งหมด 4 Apps พร้อมกัน

ความพิเศษของมือถือรุ่นนี้ที่ดีกว่ารุ่นเดิมคือการใช้งานพร้อมกันได้ทั้งหมด 3 Application พร้อมกัน เดิมทีฟีเจอร์นี้ใน Galaxy Z Fold2 ยังทำได้เฉพาะบางโปรแกรม แต่สำหรับรอบนี้ถ้ามีการเข้าเปิดฟีเจอร์ในหัวข้อ Labs (อยู่ภายใน Setting (ตั้งค่า) > Advance Feature (คุณสมบัติขั้นสูง)) ก็จะสามารถเลือกโปรแกรมที่มีอยู่ในเครื่องให้รองรับได้มากมายเช่น

• หมุน Apps อัตโนมัติ
• ปรับสัดส่วนของ Apps ได้
• การทำงานกับ Flex Mode
• ปักหมุดเมนูโปรดของเราได้จะทำงานร่วมกับ Edge Screen ให้เลือก 3 ขีดแล้วกดปักหมุน จะแสดง Apps ของ Edge Screen อยู่ด้านข้างเอง

นอกจากนี้จุดเด่นสำคัญที่ไม่พูดไม่ได้การปรับเปลี่ยนรูปร่างและการใช้งานแบบหลายหน้าจอ หรือ Flex Mode เช่นการพับครึ่งคุณสามารถที่จะใช้งานได้หลากหลายสิ่ง และยังสามารถหมุนหน้าจอไปมาได้ หน้าจอใหญ่ขนาดนี้ขอให้นึกถึง Samsung Galaxy Tab S7 ทั้งหลายก็สามารถใช้ลูกเล่นแบบนี้ได้เหมือนกันครับ

แต่สิ่งที่ตั้งข้อสังเกตเอาไว้คือ บางอยากจะไม่ค่อยเหมาะกับ Flex Mode เพราะการแสดงผลของ Apps ทุกวันนี้อัตราส่วนมันไม่เท่ากัน ทำให้ดูไม่เหมาะเท่ากับ Tablet อย่างที่ Galaxy Tab S7 นั้นทำได้ อย่างไรก็ตามการเปิด เกมและ Apps อื่นพร้อมกันแม้จะทำได้ แต่เครื่องประมวลผลหนัก และเกิดความร้อนสูงได้ เรื่องนี้ ทำใจอย่างเดียว ถ้ารักมันแล้วปรับตัวและอยู่กับมันให้ได้ครับ

แล้วถ้าไม่พูดปากกา S Pen ก็คงเหมือนไม่ครบ ด้วยความที่ Samsung Galaxy Z Fold3 พัฒนาให้รองรับกับการใช้งานกับปากกา S Pen Fold Edition จะมาพร้อมหัวปากกาแบบใหม่ที่มนกว่า ซึ่งจะไม่สามารถใช้กับเครื่องอื่นได้เลย แต่ถ้าอยากใช้แท่งเดียวครบทุกเครื่อง แนะนำ S Pen Pro รุ่นนี้จะรองรับการชาร์จไฟ และสามารถสลับไปใช้ได้ทั้ง Fold และ หน้าจอ S Pen ทั่วไป และสั่งงาน Air Command ด้วยครับ

ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ คือ Samsung Dex ลูกเล่นการใช้งานเหมือนกับ PC และยังสามารถเปิดโปรแกรมได้พร้อมกัน แถมยังรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Mouse, Keyboard มาให้ด้วยครับ เรียกได้ว่ามือถือรุ่นนี้ตอบโจทย์สำหรับคนทำงานได้อย่างดี

ความปลอดภัยมาพร้อมกับระบบสแกนใบหน้าโดยใช้กล้องหน้าสุด และมีระบบสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power และมีระบบ Knox ทำให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น และยังมีการแบ่ง Secure Folder ด้วยครับ

เปิดกล้องลองถ่ายภาพของ Samsung Galaxy Z Fold3 จะมีสเปกดังนี้

• กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว ครอบด้วย Super Clear Glass Gorilla Glass DX+ 
• 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f2.4, Telephoto   
• 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f1.8, Wide  Dual Pixel  
• 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f2.2, Ultra-Wide  

• กล้องดิจิทัลด้านหน้า : (ด้านในหน้าจอ) 4 ล้านพิกเซล F2.2| (ด้านนอก) กล้องความละเอียด 10 ล้านพิกเซล F2.2  

ฟีเจอร์ของกล้อง

ลูกเล่นเหมือนกับของ Samsung ทั่วไปจะมาพร้อมกับการถ่ายภาพนิ่งมี Scene Optimizer สามารถเลือกการถ่ายด้วยฟิลเตอร์ต่างๆ ครบ และนอกจากนี้ยังมีการเลือกฟิลเตอร์ส่วนตัวทำให้ที่เคยถ่ายนั้นมาใช้โทนสีแบบเดียวกัน และ Beauty Mode เลือกความสวยงาม และยังมี Portrait Mode เพิ่มโหมด Studio ให้หน้าสดใสมากขึ้น และมีโหมด Single Take

ส่วนวิดีโอนั้น Samsung Galaxy Z Fold3 รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K 60 FPS และสามารถป้องกันการสั่นในแบบ Super Steady ที่ลองใช้มาแล้วโหมดปกติก็นิ่งดีอยู่แล้ว แต่พอเปิด Super Steady จะนิ่งกว่า แต่ภาพจะมีการ Crop เข้าไปนะ

ส่วนกล้องหน้ารองรับการถ่ายแบบ 4K 60 FPS และด้านในถ่ายที่ความละเอียด Full HD ส่วน โหมด Pro Video, Super Slowmotion 960 FPS และ Hyperlapse ให้เลือกใช้

สำหรับความแตกต่างของ Samsung Galaxy Z Fold3 คือถ้าพับในรูปแบบของ Flex Mode จะสามารถดูภาพที่ถ่ายไปก่อนหน้านี้ได้ และถ้าใช้งานในแนวนอน จะเป็นเหมือนจุดควบคุมกล้องทำให้สะดวกในการใช้ แถมยังสามารถกดให้หน้าจอด้านหน้าเห็นภาพ เพื่อให้แบบเช็คว่าต้อง Post ท่าแบบไหนถึงจะสวย

และด้านนอกเวลาถ่ายภาพ เราสามารถกดให้ใช้บริการกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวในการถ่าย Selfie ได้สวยงมามากขึ้น เพราะกล้องคู่

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy Z Fold3

๊Ultra Wide

1x

2x

4x

10x

ภาพกลางวัน / สภาพแสงปกติ

Night Mode

โหมดปกติ

ภาพกลางคืน / สภาพแสงน้อย

ภาพอื่นเช่นการถ่ายใกล้ / การถ่ายบุคคล

ลองเปิดกล้องหน้าของ Samsung Galaxy Z Fold3

สำหรับกล้องของ Samsung Galaxy Z Fold3 จะมีกล้องหน้าทั้งหมด 2 จุด คือด้านนอกความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ลูกเล่นคล้ายกับ Galaxy Note20, S21 และ S21+ ทุกประการ ใช้ลูกเล่นแบบเดียวกับด้านบนได้เลยคุณภาพก็เป็นตามที่เห็น

สำหรับด้านจะเป็นครั้งแรกของมือถือพับได้ในประเทศไทย กล้องหน้าแบบซ่อนใต้หน้าจอหรือ Under Display Camera จะมีความละเอียด 4 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ Full HD 30 FPS อย่างไรก็ตามภาพที่ได้ผมว่ามันจะสว่างกว่ากล้องหน้าปกติ แต่ว่าความละเอียดน้อยไปหน่อย

แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟของเครื่อง

ขนาดแบตเตอรี่อยู่ที่ 4400 mAh จากการทดลองใช้งานแล้วถ้าคุณเป็นสายถ่ายภาพรัวๆ อาจจะไม่อยู่แน่นอน ถ้าเป็นสายเล่นเกม ก็ใช้งานได้ราวๆ 6 ชั่วโมงต่อเนื่อง แต่ถ้าสายทำงานทั่วไปมี Conference บ้างจะใช้งานรอดทั้งวัน การทดสอบประสิทธิภาพแบตเตอรี่ผ่าน PC Mark ที่ทำประจำนั้นทำได้อยู่ที่ 7 – 10 ชั่วโมง ถือว่าก็พอใช้ได้ และดีกว่ารุ่นเดิม

สำหรับการชาร์จไฟรุ่นนี้รองรับการชาร์จไฟกำลัง 25W จะต้องใช้ Adapter แบบ USB-C to USB-C ไม่มีให้ในกล่องขายจริงต้องซื้อแยก แต่ถามว่าชาร์จไฟเร็วไหม คำตอบคือ เร็วครับ และยังรองรับ Wireless Charge กำลัง 15W และ Reverse Charge แบบไร้สายได้ด้วยครับ

สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech สัมผัสกับ Samsung Galaxy Z Fold3 มาสักระยะเวลาหนึ่ง

Samsung Galaxy Z Fold3 คือมือถือที่ปรับปรุงในเรื่องของการออกแบบเครื่องให้เล็กลงนิดนึง แต่ทุกอย่างยังคงได้ความรู้สึกเดียวกับ Galaxy Z Fold2 อยู่ แต่คุณได้ทั้งความทนกับน้ำได้, รองรับปากกา S Pen, และการออกแบบ UI ที่ทำให้ทำได้กับ Apps ได้หลากหลายพร้อมกันได้ด้วย เรียกได้ว่ามันสมบูรณ์แบบ ถ้าจะให้ปรับปรุงคงเป็นเรื่องความจุแบตเตอรี่ที่น้อยและ CPU ที่เย็นกว่านี้

สำหรับราคาของ Samsung Galaxy Z Fold3 มีดังนี้

• RAM 12GB / ROM 256GB = 57,900 บาท
• RAM 12GB / ROM 512GB = 61,900 บาท
• ส่วนราคา โปรโมชั่น ของ Z Fold3 และ Z Flip 3 กดได้ที่นี่ 

ถือว่าถูกลงกว่าเดิมเยอะพอสมควร ทำให้คุณเหลือไปซื้อปากกา S Pen พร้อมเคส หรือ S Pen Pro ได้เช่นเดียวกัน สุดท้ายแล้วนี่ก็เป็นอีกมือถือนวัตกรรมสำหรับคนที่ไม่อยากพกอะไรให้วุ่นวายใช้เครื่องเดียวจบ ก็สามารถเลือก Samsung Galaxy Z Fold3 ได้แน่นอน แต่ถ้าอยากเป็นเจ้าของ ตอนนี้ยังเปิดให้ซื้ออย่าลืมไปจับจองกันได้ ทั้งจาก เว็บไซต์ Samsung หรือ ผู้ให้บริการ เช่นเดียวกัน

จุดเด่น

• ดีไซน์สวยดูแพง
• น้ำหนักเครื่องเบา
• ประสิทธิภาพของเครื่องแรงสะใจ
• ลูกเล่นอลังการ
• รองรับปากกา S Pen
• รองรับ Flex Mode
• ระบบเสียงดี
• ทนน้ำได้แล้ว

ข้อสังเกต

• ความจุแบตเตอรี่น้อยไปหน่อย
• ความร้อนเกิดขึ้นเร็วโดยเฉพาะเล่นเกม
• ไม่รองรับการทนฝุ่น
• โปรแกรมหลายตัวยังไม่เหมาะกับการทำ Multi Window เพราะอัตราส่วนหน้าจอยังไม่รองรับกับบาง Apps (รอพัฒนาต่อไป)