เมื่อแอป Caria ช่วยลบล้างความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับภาวะหมดประจำเดือน

เมื่อแอป Caria ช่วยลบล้างความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับภาวะหมดประจำเดือน

เมื่อแอป Caria ช่วยลบล้างความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับภาวะหมดประจำเดือน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในแวดวงสุขภาพของผู้หญิง การพัฒนาทางการแพทย์ได้ให้ความสำคัญกับการคุมกำเนิดและรักษาภาวะมีบุตรยากเป็นหลัก แม้ว่าผู้หญิงจะเสียค่าใช้จ่ายไปกับวิธีการดูแลรักษาแบบลองผิดลองถูก การไปหาหมอ และทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ราวๆ 20,000 เหรียญสหรัฐเป็นเวลาหลายปี เพื่อจะได้รับการวินิจฉัยและการดูแลรักษาภาวะหมดประจำเดือนอย่างเหมาะสม

Arfa Rehman และ Scott Gorman ผู้ร่วมก่อตั้งได้เห็นถึงความต้องการคำแนะนำและการช่วยเหลือสนับสนุนในช่วงภาวะหมดประจำเดือน พวกเขาจึงได้เปิดตัวแอป Caria (เดิมชื่อว่า Clio) ซึ่งเป็นคู่มือที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละคนเพื่อช่วยให้ผู้ใช้มีความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในช่วงภาวะหมดประจำเดือนและรับมือกับอาการของพวกเขา

“ภาวะหมดประจำเดือนและวิธีการดูแลรักษาเป็นเรื่องที่ชุมชนทางการแพทย์ยังขาดข้อมูลการศึกษา มีโปรแกรมแพทย์ประจำบ้านด้านสูตินารีเวชวิทยาในสหรัฐอเมริกาเพียง 20% เท่านั้นที่มีหลักสูตรเกี่ยวกับภาวะหมดประจำเดือนอย่างเป็นทางการ" Rehman ซึ่งยังเป็น CEO ของ Caria อีกคนหนึ่งกล่าว “ผลก็คือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หลายคนไม่ผ่านการฝึกอบรมในการวินิจฉัยและดูแลรักษาอาการภาวะหมดประจำเดือน ซึ่งก็มักจะทำให้ผู้หญิงขาดทางเลือกและการช่วยเหลือสนับสนุนที่เพียงพอ”

untitled-3

จากการสำรวจที่จัดทำโดย Female Founders Fund พบว่า 78% ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่าภาวะหมดประจำเดือนเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตของตน และ 23% ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่าภาวะหมดประจำเดือนมีผลกระทบ “อย่างมาก” หรือ "เป็นประสบการณ์ที่บั่นทอน" การใช้ชีวิตของตน

เพื่อต่อสู้กับภาวะนี้ Caria ใช้ผู้ช่วยที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ AI ที่ผู้หญิงสามารถพูดคุยด้วยเพื่อเปิดเผยลักษณะอาการของตนและดูว่าภาวะหมดประจำเดือนนั้นอยู่ในขั้นใด วิธีนี้จะขยายขอบเขตความชาญฉลาดของ Caria เพื่อจัดการดูแลข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำด้านสุขภาพที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละคนเกี่ยวกับโภชนาการ สุขภาพ และฟิตเนส ผู้หญิงจึงได้รับการสนับสนุนให้หาทางจัดการกับ ภาวะหมดประจำเดือนด้วยโซลูชั่นที่ปรับมาให้เหมาะกับโปรไฟล์และความชื่นชอบเฉพาะตัวของแต่ละคน

แอป Caria พัฒนาขึ้นโดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของผู้หญิงโดยเฉพาะ แอปนี้มอบแนวทางที่อิงตามหลักฐานสำหรับการรับมือกับภาวะหมดประจำเดือน รวมทั้งการบำบัดด้วยทางความคิดและพฤติกรรม การสะกดจิตบำบัด โภชนบำบัด การทำสมาธิ และการออกกำลังกาย แอปนี้ยังมีโปรแกรมที่ปรับแต่งมาสำหรับภาวะหมดประจำเดือนในแต่ละขั้น ได้แก่ วัยก่อนหมดประจำเดือน ระยะเริ่มต้นของวัยหมดประจำเดือน ภาวะหมดประจำเดือนตามธรรมชาติ หรือระยะหลังหมดประจำเดือน และเป้าหมายที่คัดสรรมาโดยเฉพาะ Caria เพิ่งจะเปิดให้บริการสมัครใช้งานระดับพรีเมี่ยมที่จะมอบสิทธิ์เข้าถึงโปรแกรมที่สร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญสำหรับการจัดการอาการของโรค

เนื่องจากมีทางเลือกไม่กี่ทางเมื่อต้องรับมือกับภาวะหมดประจำเดือน รวมทั้งยังขาดผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีสำหรับผู้หญิงยุค Gen X เราจึงหวังว่า Caria จะช่วยเติมเต็มช่องว่างดังกล่าวได้” Rehman กล่าว

untitled-4

ในปี 2019 Rehman และ Gorman ได้เข้าร่วมโครงการ Apple Entrepreneur Camp ซึ่งพวกเขาทำงานร่วมกันจริงๆ เป็นครั้งแรก พร้อมกับหนึ่งในวิศวกรคนสำคัญของพวกเขา พวกเขาเชื่อว่าโครงการนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนา Caria โดยช่วยให้พวกเขารวมเทคโนโลยีใหม่ๆ และซึมซับความรู้เชิงลึกของผู้เชี่ยวชาญจากทีมออกแบบของ Apple เกี่ยวกับวิธีปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานแอปของผู้ใช้

“เนื่องจากเป็นบริษัทด้านการดูแลสุขภาพที่เน้นดีไซน์เป็นหลัก การพัฒนาบนแพลตฟอร์มของ Apple และการใช้ประโยชน์ของ iOS ทำให้เป็นไปตามเกณฑ์ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้ที่เราให้ความสำคัญสูงสุด แต่ในขณะเดียวกันก็มอบประสบการณ์ของผู้ใช้อันยอดเยี่ยมได้โดยง่าย” Rehman กล่าว ที่ Camp ทีมได้สร้างแอปเวอร์ชั่นแรกของตนขึ้นมาสำหรับ Apple Watch และเริ่มต้นการนำคำสั่งลัด Siri มารวมเข้าด้วยกัน ซึ่งในตอนนี้ช่วยให้ผู้ใช้แอปสามารถใช้เสียงของตนในการบันทึกอาการที่เป็นอยู่และอาการใหม่ๆ ทั้งหมด สิ่งกระตุ้น และกิจกรรมประจำวันได้จากทุกที่

“อาการภาวะหมดประจำเดือนอาจเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตของผู้หญิง เมื่อเราอยู่จุดสูงสุดของสายอาชีพและความสามารถในการสร้างรายได้” Rehman กล่าว “ผู้หญิงที่กำลังอยู่ในระยะเริ่มต้นของวัยหมดประจำเดือนและภาวะหมดประจำเดือนมีมากถึง 50 ล้านคน ซึ่งเป็นสัดส่วนมูลค่าสูงที่มักจะถูกมองข้ามไป ดังนั้นการดูแลผู้หญิงในภาวะหมดประจำเดือนด้วยโซลูชั่นสุดล้ำที่ตอบสนองความต้องการของพวกเธอได้จึงมีมูลค่ามหาศาล”

untitled-5

สิ่งต้องห้ามและความบกพร่องมักจะเชื่อมโยงกับภาวะการหมดประจำเดือน Rehman เปิดเผยและล้มล้างความเชื่อผิดๆ ที่พบเจอทั่วไปเกี่ยวกับภาวะการหมดประจำเดือนโดยใช้คำพูดของเธอเองดังนี้

ความเชื่อเก่าๆ: ภาวะหมดประจำเดือนเป็นประสบการณ์ทั่วไปที่มีเหมือนๆ กัน การเปลี่ยนผ่านของภาวะหมดประจำเดือนมีด้วยกันสี่ระยะ ได้แก่ วัยก่อนหมดประจำเดือน, ระยะเริ่มต้นของวัยหมดประจำเดือน (เมื่อเริ่มมีอาการและรอบประจำเดือนมาไม่ปกติ), ภาวะหมดประจำเดือน (ไม่มีประจำเดือนติดต่อกัน 12 เดือน) และระยะหลังหมดประจำเดือน ไม่มีรูปแบบของอาการ ช่วงเวลา และระยะเวลาที่เหมือนกันทุกคน ประสบการณ์ของผู้หญิงแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไปโดยสิ้นเชิง นอกจากนี้ ขอบเขตระหว่างแต่ละระยะก็ไม่ชัดเจน และผู้หญิงก็มักจะไม่ทราบว่าอาการของตนนั้นเกี่ยวข้องกับภาวะการหมดประจำเดือนหรือเป็นภาวะอื่นที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เมื่อคนเราได้ยินคำว่า “ภาวะการหมดประจำเดือน” พวกเขาก็มักจะนึกถึงอาการร้อนวูบวาบ แต่ภาวะการหมดประจำเดือนเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนที่ทำให้เกิดอาการต่างๆ ได้มากกว่า 40 ประเภท อาการเหล่านี้อาจเป็นได้ตั้งแต่ความกระวนกระวายใจ/ความหดหู่ เหนื่อยล้า และปวดข้อ ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงด้านการรับรู้และการย่อยอาหาร นอกจากนี้ ภาวะหมดประจำเดือนและการเปลี่ยนแปลงของภาวะนี้ยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อร่างกายของผู้หญิง และอาจคงสภาพนี้ต่อไปอีกครึ่งชีวิตที่เหลือ

ความเชื่อเก่าๆ: ภาวะหมดประจำเดือนเกิดขึ้นในผู้หญิงวัยเกษียณเท่านั้น ผู้หญิงส่วนใหญ่เข้าสู่ระยะเริ่มต้นของวัยหมดประจำเดือนตั้งแต่ช่วงอายุ 30 และ 40 ปี ซึ่งอยู่ในกลุ่ม Gen X และกลุ่มปลายยุคมิลเลเนียลที่อยู่ที่จุดสูงสุดของสายอาชีพและความสามารถในการสร้างรายได้ ภาวะหมดประจำเดือนอาจเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงมีพลังและมีประสิทธิภาพการทำงานอันเต็มเปี่ยมทั้งในการใช้ชีวิตและหน้าที่การงาน แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้มองภาวะหมดประจำเดือนในลักษณะนี้ ด้วยเหตุนี้ผู้หญิงจึงมักจะไม่ปริปากเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกทำให้เสียหน้า เมื่อผู้หญิงไม่ได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนและไม่สามารถรับมือกับอาการของตน ก็จะส่งผลต่อสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงหน้าที่การงานที่ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมในการทำงาน 88% ของผู้หญิงในชุมชน Caria รายงานว่าอาการที่ไม่สามารถรับมือได้มีผลต่องานและอาชีพของตน

ความเชื่อเก่าๆ: ภาวะหมดประจำเดือนไม่มีวิธีการรักษา เป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้วว่าผู้หญิงในทุกช่วงอายุได้รับผลกระทบจากการไม่ได้เป็นเพศที่อยู่ในงานวิจัยทางการแพทย์ ผู้หญิงถูกแยกออกจากการทดลองทางคลินิกอย่างเป็นระบบ นั่นหมายความว่าความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพของมนุษย์ในยุคสมัยใหม่นั้นอิงจากข้อมูลของผู้ชาย ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหากับผู้หญิงที่ไม่ได้รับบริการทางการแพทย์อย่างเพียงพอเป็นอย่างมาก เราจึงต้องต่อสู้กับความเชื่อเก่าๆ ที่ว่าไม่มีทางแก้ที่ใช้งานได้จริงสำหรับภาวะหมดประจำเดือนและผู้หญิงเพียงแค่ต้อง “ทนให้ได้” จากงานวิจัยของเราพบว่า 70% ของผู้หญิงรายงานถึงประสบการณ์กับแพทย์ในเชิงลบในระหว่างมองหาการดูแลในภาวะหมดประจำเดือนและรู้สึกว่าถูกเมินเฉย มีแนวทางมากมายที่ได้รับการพิสูจน์จากงานวิจัยสำหรับการรับมือกับอาการทั่วไปของภาวะหมดประจำเดือน รวมทั้งแนวทางการรักษาด้วยยาและแนวทางแบบองค์รวม

untitled-6

ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า Caria จะร่วมเป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัย University of Illinois ในชิคาโก้เพื่อศึกษาความสามารถของแอปในการบรรเทาอาการของภาวะหมดประจำเดือน จากการสำรวจผู้ใช้ปัจจุบันพบว่า 85% ของผู้หญิงรายงานถึงอาการที่ดีขึ้นหลังจากใช้ Caria

“เราตื่นเต้นที่จะสร้างรากฐานสำคัญนี้และรวบรวมข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องทางคลินิกเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นกลุ่มเปรียบเทียบแบบสุ่มกลุ่มแรกที่ศึกษาแอปสุขภาพเชิงพฤติกรรมแบบดิจิตอลสำหรับภาวะหมดประจำเดือน” Rehman กล่าว

“แม้ว่าผู้หญิงทุกคนจะเข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือน แต่ก็ยังมีงานวิจัยไม่เพียงพอ” เธอกล่าว “ความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ของเราเกี่ยวกับภาวะหมดประจำเดือนถูกจำกัดเป็นอย่างมากเนื่องจากการขาดแคลนข้อมูล และมีโอกาสอย่างมากในการสร้างชุดข้อมูลขนาดใหญ่ชุดแรกเกี่ยวกับสุขภาพช่วงวัยกลางคนของผู้หญิง เราทราบดีว่าการเปลี่ยนแปลงในภาวะหมดประจำเดือนสัมพันธ์กับผลที่เกิดขึ้นช่วงวัยกลางคนของผู้หญิง ทั้งระบบหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ การรับรู้ และสุขภาพโดยรวม ข้อมูลนี้จะช่วยให้เรามีความเข้าใจการเชื่อมโยงเหล่านี้ได้อย่างดียิ่งขึ้น และกำหนดวิธีที่เราสามารถปรับการดูแลในระหว่างภาวะหมดประจำเดือนของผู้หญิงให้เหมาะสม เพื่อส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้อย่างมีความหมาย”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook