ก.อุตสาหกรรมจับมือ 3 กระทรวง เตรียมออกประกาศฯ เพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์ม ตามยุทธศาสตร์

ก.อุตสาหกรรมจับมือ 3 กระทรวง เตรียมออกประกาศฯ เพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์ม ตามยุทธศาสตร์

ก.อุตสาหกรรมจับมือ 3 กระทรวง เตรียมออกประกาศฯ เพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์ม ตามยุทธศาสตร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดวัตถุดิบและคุณภาพผลิตภัณฑ์ของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม พ.ศ. ... เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งจะใช้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนนโยบายการเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์ม และการรักษาเสถียรภาพราคาวัตถุดิบ โดยการกำหนดมาตรฐานเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่โรงงานสกัดต้องผลิตได้ สำหรับโรงงานสกัดทั้ง 2 แบบ โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแบบหีบแยก (โรงงาน A) และโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแบบหีบรวม (โรงงาน B)


ทั้งนี้การจัดทำร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมฉบับนี้เป็นการดำเนินการโดยอาศัยอำนาจตาม มาตรา 32(2) (3) แห่ง พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 เนื่องจากเป็นเรื่องวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์โรงงาน และประโยชน์ในทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งในประกาศฉบับนี้ ได้กำหนดเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มขั้นต่ำ ดังนี้ 1) โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแบบหีบแยก ที่ใช้ปาล์มทะลายหรือลูกร่วงที่เกิดจากการตัด ขนส่งเป็นวัตถุดิบ จะต้องสกัดน้ำมันให้ได้ไม่ต่ำกว่า 18% และโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแบบหีบรวม ที่ใช้ผลปาล์มเป็นวัตถุดิบ จะต้องสกัดน้ำมันให้ได้ไม่ต่ำกว่า 30%, 2) ในกรณีที่มีเหตุธรรมชาติหรือเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้การสกัดน้ำมันไม่เป็นไปตามประกาศได้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในเขตที่โรงงานตั้งอยู่มีอำนาจออกประกาศลดหรือเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันได้ และ 3)

หลังจากประกาศมีผลบังคับใช้ โรงงานสามารถปรับปรุงและเตรียมการให้เป็นไปตามประกาศได้ ภายใน 180 วัน ซึ่งได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจาก ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ชาวสวนปาล์มลานเท และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อเห็นชอบในหลักการ โดยคาดว่าจะสามารถประกาศฯ ได้ในเดือนมิถุนายน 2561 นี้


นอกจากที่กระทรวงอุตสาหกรรม จะออกประกาศกำหนดค่าเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มขั้นต่ำที่โรงงานต้องสกัดได้แล้ว มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงพาณิชย์ ที่ดำเนินการกำหนดราคารับซื้อน้ำมันปาล์มดิบคงที่ ซึ่งจะมีผลทำให้ราคาวัตถุดิบปาล์มทะลายมีเสถียรภาพและไม่ตกต่ำตามภาวะตลาด และกำหนดแนวทางการกำกับควบคุมลานเทรับซื้อปาล์มทะลายไม่ให้มีการทำให้วัตถุดิบเสื่อมคุณภาพ เจือปนสิ่งปนเปื้อน

หรือแยกลูกร่วง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำหนดมาตรการให้เกษตรกรชาวสวนตัดปาล์มคุณภาพ ให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพปาล์มน้ำมัน ตามมาตรฐานสินค้าเกษตร (ทะลายปาล์มน้ำมัน) และกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการกำกับ ควบคุม กลไกการบริหารจัดการปาล์มทั้งระบบในท้องที่ ตามอำนาจของประกาศฯ และมาตรการอื่น ๆ อันจะส่งผลให้การทำปาล์มคุณภาพและการเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มประสบผลสำเร็จ


นายพสุฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การกำหนดเปอร์เซ็นต์น้ำมันขั้นต่ำของโรงงานสกัด ทำให้ชาวสวนปาล์มมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะราคาวัตถุดิบปาล์มทะลายขั้นต้นจะเริ่มที่ 18% น้ำมัน และทุก ๆ 1% น้ำมันที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาปาล์มทะลายเพิ่มขึ้น 30 สตางค์ต่อกิโลกรัม และในปีนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้พยากรณ์ผลผลิตปาล์มน้ำมัน มีปริมาณ 15 ล้านตัน จึงเชื่อว่าการออกประกาศฯ ฉบับนี้ จะมีส่วนช่วยให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมปาล์มทั้งระบบโดยรวมของประเทศ ไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook