รมว.พาณิชย์ลงพื้นที่เชียงราย เดินหน้าโครงการ "ถุงเงินประชารัฐ" แนะคนค้าสมัครแอพเพิ่ม
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจติดตาม พบปะร้านค้าตามโครงการธงฟ้าประชารัฐ โดยใช้แอพพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐ และมอบป้ายร้านค้าประชารัฐ ให้กับร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมโครงถุงเงินประชารัฐ จำนวน 32 ร้านค้า
และพ่อค้าแม่ค้า บนแผงในตลาดสดบ้านดู่อีก 11 ราย ซึ่งแอพพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐ เป็นแอพที่ใช้เพื่อบริการประชาชนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย
โดยไม่ต้องใช้เครื่องรูดบัตรอีกต่อไป สร้างความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ พ่อค้าแม่ค้า และยังสามารถขยายการสร้างรายได้ไปสู่ท้องถิ่นและชุมชนมากขึ้นอีกด้วย ตลาดบ้านดู่ มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ 2 งาน 30 ตารางวา มีแผงขายจำนวน 537 แผง อาคารพาณิชย์ 22 ห้อง
ปัจจุบันมีร้านค้าเริ่มใช้แอพพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐแล้ว ซึ่ง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ได้เชิญชวนให้ผู้ค้าสมัครแอพพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐ ใช้จ่ายทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อเป็นการการพัฒนาธุรกิจและยกระดับการค้าให้สามารถขยายกิจการได้ในอนาคต
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดเชียงรายมีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ได้รับการสนับสนุนเดือนละ 200-300 บาท ประมาณ 327,990 ราย ซึ่งสามารถเข้าไปซื้อสินค้าในร้านค้าที่ลงทะเบียนร่วมโครงการ 675 ร้านได้ทันที วงเงินที่รัฐบาลจ่ายให้กับผู้ถือบัตรในพื้นที่จังหวัดเชียงรายกว่า 900 ล้านบาท ผลดีของการใช้แอพพลิเคชั่นนี้
ทำให้กระทรวงพาณิชย์สามารถเข้าส่งเสริมร้านค้าได้สะดวก สามารถตรวจสอบคลังหรือสต็อกสินค้าในร้านนั้นๆ ทำให้เกิดการค้าที่ทันสมัย ลดต้นทุน และจะเป็นโอกาสในการเพิ่มรายได้ให้กับร้านค้าระดับชุมชนในอนาคต แอพพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2561
โดยเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กับกระทรวงการคลัง และธนาคารกรุงไทย โครงการถุงเงินประชารัฐ เป็นการต่อยอดโครงการธงฟ้าประชารัฐ ของกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกระทรวงการคลัง ดำเนินการรับสมัครร้านค้ามาใช้แอพพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐ โดยใช้โทรศัพท์มือถือรับชำระเงินจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ซึ่งจะเปิดโอกาสให้กับร้านค้าต่างๆ มากขึ้น ทั้งร้านค้ารายย่อย ร้านโชห่วย แผงค้าในตลาดสด รวมทั้ง ร้านจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ ร้านหนูณิชย์ และผู้ค้าในตลาดต้องชม ตลาดกลาง
ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน ตลอดจนรถยนต์เร่ขายสินค้า ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าที่จะเพิ่มร้านค้าอีกจำนวน 100,000 ร้านทั่วประเทศ และตั้งเป้าให้มีร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ
ใช้แอพพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐในจังหวัดเชียงราย ไม่น้อยกว่า 2,792 ร้านค้า คาดว่าผลจากการดำเนินโครงการดังกล่าวจะสามารถเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับร้านค้า เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการค้า ทั้งในระดับชุมชนและระดับภูมิภาค ยกระดับสู่การเป็นอี-คอมเมิร์ช ได้ในอนาคต ประชาชนเข้าถึงและมีทางเลือกในการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น