แก้ปัญหาเครื่องอืดในไอโฟนรุ่นเก่า ด้วยฟีเจอร์ใหม่ Battery Health

แก้ปัญหาเครื่องอืดในไอโฟนรุ่นเก่า ด้วยฟีเจอร์ใหม่ Battery Health

แก้ปัญหาเครื่องอืดในไอโฟนรุ่นเก่า ด้วยฟีเจอร์ใหม่ Battery Health
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นข่าวฮือฮาในแวดวงสาวกไอโฟนกันไปเมื่อปลายปีที่แล้ว กับข่าวที่ Apple ออกมายอมรับว่า ตั้งใจลดความเร็วของเครื่องที่มีแบตเตอรีรุ่นเก่าลง หลังจากอัพเดท ios เวอร์ชั่นใหม่จริงๆ แต่ก็ด้วยเจตนาที่ดี คือเพื่อทำให้เครื่องทำงานได้เสถียรขึ้น (ไม่ใช่เพราะอยากให้คนไปซื้อเครื่องใหม่แต่อย่างใด... เหรอ) และเพื่อชดเชยกับกรณีดังกล่าว ทาง Apple จึงออกฟีเจอร์ Battery Health ตัวใหม่ใน iOS 11.3 เวอร์ชั่นล่าสุด แค่อัพเดทเครื่อง ระบบก็จะเปลี่ยนใหม่ทันทีโดยอัติโนมัติ

ฟีเจอร์ดังกล่าวสามารถใช้ได้กับ iPhone ทุกรุ่นที่วางจำหน่ายหลังจาก iPhone 6 ไม่ว่าจะเป็น iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPhone 6s, iPhone 6s Plus, iPhone SE, iPhone 7, iPhone 7 Plus รวมทั้ง iPhone รุ่นใหม่ๆ ที่ทยอยออกมาในอนาคต

ฟีเจอร์ Battery Health ทำงานอย่างไร

ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นต่อต่างๆ เรามาดูเรื่องของฟีเจอร์ใหม่ยบน iOS ที่มีชื่อว่า Performance Management (อยู่ภายในหน้าจอ แบตเตอรี่) บนไอโฟนจะปิดการใช้งาน แต่หากมือถือของคุณเกิดปัญหากับการปิดเครื่องอย่างกะทันหัน ฟีเจอร์นี้จะดำเนินการ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับเครื่องในอนาคต แถมจะมีบอกความสมบผ

ย้ำว่าฟีเจอร์นี้จากจะต้องเป็น iPhone 5s จะไม่ฟีเจอร์นี้ให้เนื่องจาก ระบบปฏิบัติการตรวจสอบว่าตัวเครื่อง เก่าเกินไป

วิธีตรวจสอบและแก้ปัญหาเครื่องอืดและการควบคุมปริมาณแบตเตอรี่

ในการเข้าไปดูเกี่ยวกับเรื่องของการตั้งค่าและตรวจสอบได้ที่ Settings > Battery > Battery Health (Beta) 

เมื่อเข้าไปแล้วคุณจะเห็นข้อมูลรายละเอียด ระบุความจุและประสิทธิภาพสูงสุดของแบตเตอรี (ในเครื่องเรา) ถ้าทุกอย่างไม่มีปัญหา คุณจะเห็นข้อความที่เขียนบอกว่า ขณะนี้แบตเตอรี่ของคุณประสิทธิภาพสูงสุดตามปกติ “Your battery is currently supporting normal peak performance” แต่หากแบตเตอรีหรือมือถือของคุณมีปัญหา เครื่องจะระบุว่าความจุสูงสุดของแบตเตอรีต่ำกว่า 100% (ไม่ควรต่ำกว่า 50%) ซึ่งคุณสามารถปิดการจัดการนี้ได้ด้วยการกดที่คำว่า Disable (สีฟ้าด้านล่าง) หลังจากปิดแล้ว คุณจะไม่สามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ได้อีก

เมื่อปิดเสร็จ หน้าจอจะเป็นแบบนี้

หากแบตเตอรี่ภายใน iPhone ของคุณ เริ่มเสื่อมสภาพมากขึ้น ควรนำเข้าศูนย์ผู้ให้บริการเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ เพื่อให้เครื่องสามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ แต่ถ้ายังไม่สนใจ ก็กดเลือก Disable อีกรอบหนึ่ง

หรือถ้าการบอกปริมาณแบตคเตอรี่ของเครื่องนั้นกลับอยู่ตำแหน่งสูงสุด แต่ไม่มีตัวเลขบอกอะไร แนะนำให้ลองนำเครื่องตรวจเช็คกับศูนย์บริการอีกรอบก็จะดีไม่น้อย

หน้าตาฟีเจอร์ Battery Health แบบ ใน iOS 11.3 เวอร์ชั่นใหม่นี่แหละ ที่แตกต่างจากที่ผ่านๆ มา เพราะเวอร์ชั่นนี้คุณสามารถเลือกว่าจะ Disable หรือปิดการใช้งานมัน เพื่อเครื่องจะได้ไม่อืดหรือเปล่า (หรือจะเปิดใช้ต่อ เพื่อให้เครื่องเสถียร แต่ระบบก็จะช้าลง) ขณะที่ iOS เวอร์ชั่นเก่านั้นจะปรับเองโดยที่คุณเลือกไม่ได้ แต่ทางผู้ผลิตก็หมายเหตุไว้ว่า  

หากปิดการใช้งานแลกกับการทำงานที่รวดเร็ว อาจเกิดปัญหาเครื่อง Shutdown กะทันหันได้เหมือนกันนะ 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook