7 วิธี จัดการข้อมูลใน iPhone ให้เป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

7 วิธี จัดการข้อมูลใน iPhone ให้เป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

7 วิธี จัดการข้อมูลใน iPhone ให้เป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แน่นอนว่า ตอนที่เราซื้อ iPhone มาใหม่ๆ เครื่องก็สามารถทำงานได้เร็วและไหลลื่น แต่เมื่อใช้ไปนานๆ กลับมีความรู้สึกว่าเครื่องทำงานได้ไม่เหมือนเดิม พบปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดจากการจัดเก็บข้อมูลที่ยังไม่มีประสิทธิภาพ ลองชมวิธีจัดการจัดมูล iPhone กัน

1. ลบแอปที่ไม่ได้ใช้ออกบ้าง

1

แอปที่ดาวน์โหลดมาจาก App Store บางแอป เราก็ไม่ได้ใช้เลย เช่น โหลดเกมมาเล่นแค่ไม่กี่สัปดาห์ ก็ไม่ได้เล่นอีก และสำหรับคนที่มี iPhone หน่วยความจำเยอะๆ ก็อาจจะไม่ได้ใส่ใจเลยว่า แอปที่เราโหลดมาเยอะแยะมากมายนั้น เราได้ใช้งานอย่างเต็มที่หรือเปล่า ดังนั้นหากเราต้องการจัดระเบียบเครื่อง ก็ให้ลบแอปที่ไม่ได้ใช้ออกบ้าง นอกจากจะช่วยให้เข้าถึงแอปได้ง่ายแล้ว ยังช่วยประหยัดพื้นที่ในเครื่องได้อีกด้วย

2. ลบรูปภาพที่ไม่จำเป็นออก

2

เกือบทุกคนที่ชอบถ่ายรูปเก็บไว้ใน iPhone แต่ก็ไม่ค่อยได้เคลียร์รูปภาพที่ไม่จำเป็นออก เช่น รูปภาพแคปหน้าจอ รูปภาพถ่ายที่เบลอไม่ชัด หรือรูปภาพที่คัดลอกมาจากที่อื่น เพื่อส่งให้เพื่อนเพียงครั้งเดียว จนรูปภาพใน iPhone ถูกเก็บสะสมเต็มไปหมด วิธีที่จะจัดการให้รูปภาพเป็นระเบียบคือลบรูปภาพที่ไม่จำเป็นออก ถึงแม้ว่าอาจจะใช้เวลาหน่อย แต่ก็คุ้มกับการจัดรูปภาพให้เป็นระเบียบ สามารถเลือกดูได้ง่ายขึ้น ชมวิธีการลบรูปภาพทีละหลายรายการและเทคนิคอื่นๆ

3. เคลียร์ RAM iPhone บ้าง

3

โดยทั่วไปแล้ว iOS เป็นระบบที่จัดสรรทรัพยากรเครื่องได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่ในบางกรณีที่เครื่องมีอาการหน่วงหรือช้าที่อาจจะเกิดจากการใช้ RAM มากเกินไป แต่เรามีวิธีการเคลียร์แรมง่ายๆ มากฝากกัน

4. กำจัดข้อความและรายชื่อที่ไม่ได้ติดต่อแล้ว

4

สำหรับข้อความที่ไม่สำคัญ เช่น ข้อความโฆษณา ข้อความที่เคยติดต่อมานานมากแล้ว ก็ให้เราลบออกจากเครื่องไปบ้าง โดยเฉพาะข้อความที่มีการส่งรูปภาพที่ทำให้กินพื้นที่ในเครื่อง สามารถจัดการลบข้อความได้ดังนี้

ไปที่แอป ข้อความ > แตะ แก้ไข > เลือกข้อความที่ไม่จำเป็นแล้ว และแตะลบ

5

สำหรับรายชื่อก็เช่นกัน เราอาจจะมีการบันทึกผู้ติดต่อไว้มากมาย จนบางครั้งชื่อซ้ำกันจนจำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร ลองหาเวลาสักนิดที่จะจัดการรายชื่อที่ไม่ได้ติดต่อแล้ว โดยการลบรายชื่อออกหรือจัดการรายชื่อซ้ำได้

การลบรายชื่อครั้งละหลายรายการอาจจะต้องใช้แอปอื่นช่วย

5. จัดระเบียบข้อความเข้าในอีเมล

6

หากจะพูดถึงการลบอีเมลที่มีปริมาณมาก ทำให้เรารู้สึกว่าไม่อยากจะจัดการหรือลบอีเมลเลย ซึ่งจะต้องมาเลือกลบทีละอีเมล แต่มีวิธีที่ดีกว่านั้น ที่จะช่วยให้เราสามารถย้ายอีเมลไปยังถังขยะได้ทั้งหมด

ก่อนอื่นต้องแยกอีเมลที่สำคัญหรืออีเมลติดธง ที่เราไม่ต้องการลบออก ให้ไปอยู่ในโฟลเดอร์อื่นก่อน เมื่อแยกเรียบร้อยแล้ว ให้ลบอีเมลทั้งหมดได้ดังนี้

ไปที่ แอปเมล (Mail) > แตะกล่องขาเข้า > แตะ แก้ไข > แตะเลือกอีเมล 1 รายการ > แตะ ย้าย ค้างไว้ และใช้นิ้วอีกข้างแต่เอาเช็คถูกด้านหน้ารายการที่เลือกออก > จากนั้น ยกนิ้วที่แตะปุ่มย้ายออก

7

เลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการย้าย เช่น หากต้องการเคลียร์อีเมล ก็เลือกไปที่โฟร์เดอร์ถังขยะเลย

8

6. เคลียร์แคชเว็บบราวเซอร์

10

ถึงแม้ว่าการเคลียร์แคชเสร็จใหม่ๆ อาจะทำให้การโหลดหน้าเว็บช้าลง แต่ข้อมูลแคชในเว็บที่เราไม่ได้ใช้งานก็จะถูกล้างออกไป และการเคลียร์แคชอยู่เป็นประจำ จะช่วยให้การทำงานของเว็บบราวเซอร์นั้นไหลลื่นมากขึ้น สามารถเคลียร์แคชเว็บบราวเซอร์ได้ดังนี้

สำหรับ Safari

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > Safari > เลื่อนลงมาด้านล้าง จากนั้นแตะ ล้างประวัติและข้อมูล (Clear History and Website Data)

11

สำหรับ Chrome

ไปที่แอป Chrome แตะไอคอน 3 จุดด้านบนขวา > แตะ การตั้งค่า (Settings) > แตะ ความเป็นส่วนตัว (Privacy) > จากนั้นแตะ นำออกข้อมูลที่เรียกดู (Clear Browsing Data)

12

7. ลบโปรไฟล์ของบลูทูธเก่า

13

เราอาจจะไม่ได้ใช้บลูทูธบ่อยนักในแต่ละวัน บางครั้งก็เชื่อมต่อใช้งานแค่ครั้งเดียว จนมีการเชื่อมต่อบลูทูธเก็บไว้หลายรายการ ทำให้เครื่องจำข้อมูลบลูทูธไว้เยอะ ถึงแม้ว่าการมีข้อมูลบลูทูธจะไม่ได้ทำให้เครื่องช้าลงก็ตาม แต่การมีข้อมูลบลูทูธเยอะๆ ก็อาจจะทำให้การทำงานของการตั้งค่าบลูทูธมีปัญหาได้ในบางครั้ง

เราสามารถจัดการลบโปรไฟล์บลูทูธที่ไม่ได้ใช้ออก โดยไปที่การตั้งค่า (Settings) > บลูทูธ (Bluetooth) > แตะเลือกไอคอน i ที่อุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้ > แตะ เลือกใช้อุปกรณ์เครื่องนี้ (Forget This Device)

14

ทั้งหมดนี้ก็เป็นแนวทางส่วนหนึ่งที่อาจจะช่วยให้ iPhone ของคุณมีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มมากขึ้นได้ไม่มากก็น้อย ก็ลองนำไปปรับใช้และหมั่นดูแลเครื่องอยู่เสมอนะคะ เพื่อให้ iPhone สามารถใช้งานและอยู่กับเราได้ยาวนาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook