รวมมือถือเรือธงเปิดตัวช่วงต้นปี 2018 พร้อมตารางเปรียบเทียบอย่างละเอียด

รวมมือถือเรือธงเปิดตัวช่วงต้นปี 2018 พร้อมตารางเปรียบเทียบอย่างละเอียด

รวมมือถือเรือธงเปิดตัวช่วงต้นปี 2018 พร้อมตารางเปรียบเทียบอย่างละเอียด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รวมมือถือเรือธงเปิดตัวช่วงต้นปี 2018 พร้อมตารางเปรียบเทียบอย่างละเอียด รุ่นไหนมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง มาดูกัน!

เรียกได้ว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมา แบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหลายต่อหลายค่ายได้ทำการเปิดตัวมือถือระดับ “เรือธง” รุ่นใหม่ให้เห็นกันอย่างไม่ขาดสาย

ซึ่งแต่ละรุ่นต่างก็มาพร้อมกับฟีเจอร์เด่นเฉพาะตัวที่น่าสนใจ ดังนั้นภายในวันนี้ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้รวบรวมมือถือเรือธงรุ่นเด่นที่เพิ่งเปิดตัวให้เห็นกันช่วงต้นปี 2018 พร้อมนำมาเปรียบเทียบสเปกเพื่อให้เห็นคุณสมบัติเด่นของแต่ละรุ่นว่าจะมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เราไปดูกันเลยครับ

2018328_73071
(กดที่ภาพเพื่อดูขนาดเต็ม)

จากตางรางด้านต้นจะเห็นได้ว่า สมาร์ทโฟนเรือธงที่เปิดตัวไปในช่วงต้นปีนี้ ต่างก็มาพร้อมกับจุดเด่นหน้าจอแสดงผลแบบเต็มพื้นที่ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ FullView Display พร้อมตัวเครื่องที่ผลิตมาจากโลหะผสานกระจกแบบ Metal-Glass และกล้องถ่ายภาพที่มีลูกเล่นใหม่ๆ เป็นหลัก แต่จะมีความแตกต่างในเรื่องของชิปเซ็ตประมวลผล, หน่วยประมวลผล และนวัตกรรมต่างๆ ภายในตัวเครื่อง

เริ่มต้นที่ Huawei P20 Pro กันก่อน โดยครั้งนี้ทาง Huawei ได้ปรับโฉมการดีไซน์ใหม่ด้วยดีไซน์แบบกระจก พร้อมหน้าจอแสดงผลแบบไร้ขอบ ส่วนทางด้านการถ่ายภาพอัปเกรดไปอีกขั้นด้วยกล้องหลังที่พัฒนาร่วมกับแบรนด์กล้องชั้นนำอย่าง Leica เป็นจำนวนถึง 3 ตัว ที่ได้รับการจัดอันดับโดย DxOMark ให้เป็นมือถือที่มีกล้องที่ดีที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ ด้วยผลคะแนนสูงถึง 109 คะแนน โดยมาพร้อมกับลูกเล่นการถ่ายภาพที่น่าสนใจหลายจุด อย่างเช่น การถ่ายภาพแบบ Portrait Lighting, การถ่ายภาพวิดีโอแบบ Super Slow Motion ระดับ 960fps รวมไปถึงการนำปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาช่วยวิเคราะห์สภาพแวดล้อม หรือวัตถุที่อยู่ด้านหน้า และปรับแต่งค่ากล้องให้เหมาะสมแบบอัตโนมัติ ส่วนทางด้านประสิทธิภาพการทำงาน ก็ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตตัวท็อปของค่ายอย่าง Kirin 970 จับคู่หน่วยความจำ RAM ขนาด 6GB และแบตเตอรี่จุใจถึง 4000mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว และการชาร์จแบบไร้สาย

ด้าน Samsung Galaxy S9+ มือถือตัวท็อปจากค่าย Samsung ก็มาพร้อมกับความโดดเด่นด้านการแสดงผล ด้วยหน้าจอไร้กรอบ ไร้ปุ่มโฮม แบบ Infinity Display ขนาดใหญ่เต็มตาถึง 6.2 นิ้ว บนความละเอียดระดับ 2K+ พร้อมขับเคลื่อนด้วยการทำงานด้วยชิปเซ็ตรุ่นล่าสุดอย่าง Samsung Exynos 9810 ซึ่งจะคอยทำงานควบคู่กับ RAM ขนาด 6GB ส่วนทางด้านการถ่ายภาพ เลือกใช้งานระบบกล้องคู่ Dual-Camera ความละเอียด 12 + 12 ล้านพิกเซล ที่สามารถสลับรูรับแสงได้ระหว่าง f/1.5 - f/2.4 เพื่อตอบโจย์การถ่ายภาพในสภาวะแสงต่างๆ และยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ถ่ายวิดีโอแบบ Super Slow Motion ที่ระดับ 960fps เหมือนกับรุ่น Huawei P20 / P20 Pro ด้วย

ขณะที่เรือธงรุ่นท็อปจากค่าย Sony อย่าง Sony Xperia XZ2 ก็มีการปรับมาใช้งานดีไซน์หน้าจอแบบ 18:9 ตามสมัยนิยม พร้อมบอดี้โลหะผสานกระจกเช่นเดียวกัน ซึ่งภายในเลือกใช้งานขุมพลังตัวท็อปใหม่ล่าสุดจากค่าย Qualcomm อย่าง Snapdragon 845 พร้อม RAM ขนาด 4GB ส่วนด้านการถ่ายภาพมาพร้อมกับกล้อง Motion Eye ที่สามารถถ่ายวิดีโอ Super Slow Motion ได้เหมือนกับรุ่น Huawei P20 และ Samsung Galaxy S9 แต่จะเหนือกว่าตรงที่สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดคมชัดระดับ Full HD

ทางฝั่งของแบรนด์สมาร์ทโฟนจากประเทศไต้หวันอย่าง Asus ZenFone 5Z ก็มีจุดเด่นด้านหน้าจอไร้ขอบขนาดใหญ่ถึง 6.2 นิ้ว พร้อม RAM ที่จัดเต็มถึง 8GB ส่วนภายในติดตั้ง Snapdragon 845 ซึ่งเป็นขุมพลังตัวท็อปในปีนี้มาให้ ส่วนด้านหลังเลือกใช้งานระบบกล้องคู่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีลูกเล่นที่น่าสนใจอย่างการทำอีโมจิที่เคลื่อนไหวได้ตามใบหน้าของผู้ใช้งานด้วย แต่อย่างไรก็ดี ตัวเครื่องของ ZenFone 5Z ไม่มีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นเหมือกับ Sony Xperia XZ2, Samsung Galaxy S9 หรือ Huawei P20 Pro แต่อย่างใด

ปิดท้ายด้วย Xiaomi Mi Mix 2s เรือธงจอไร้ขอบรุ่นล่าสุดจากค่าย Xiaomi ที่ครั้งนี้อัปเกรดเรื่องประสิทธิภาพให้เร็วแรงมากขึ้น ด้วยขุมพลังตัวท็อปอย่าง Snapdragon 845 พร้อม RAM สูงสุดถึง 8GB นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับจุดเด่นด้านกล้องถ่ายภาพแบบคู่ 12 ล้านพิกเซล ที่ได้รับคะแนนทดสอบจาก DxOMark ถึง 97 คะแนนด้วยกัน โดยทาง Xiaomi เคาะราคาเริ่มต้นสุดเซอร์ไพร์สที่ราว 3,299 หยวน หรือประมาณ 16,400 บาทเท่านั้น

อย่างไรก็ดี สมาร์ทโฟนรุ่นใดจะดีกว่ากันทางทีมงานคงไม่ตัดสินได้ เพราะส่วนหนึ่งคงต้องอยู่ที่ความชื่นชอบของผู้ใช้งานแต่ละบุคคล ว่าฟีเจอร์ต่างๆ ของมือถือแต่ละรุ่นนั้น สามารถตอบโจทย์การใช้งานมากน้อยเพียงใด ซึ่งหากทดลองเล่นแล้วถูกใจ ก็ถือว่ามือถือรุ่นนั้นคุ้มค่าแก่การจับจองเป็นเจ้าของแล้วครับ สำหรับวันนี้ทางทีมงานต้องลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook