"แอปเปิล" ฟื้นยอด "ไอโฟน" รับเทิร์นเครื่อง-พาเหรดรุ่นใหม่

"แอปเปิล" ฟื้นยอด "ไอโฟน" รับเทิร์นเครื่อง-พาเหรดรุ่นใหม่

"แอปเปิล" ฟื้นยอด "ไอโฟน" รับเทิร์นเครื่อง-พาเหรดรุ่นใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"แอปเปิล" ฟื้นยอด "ไอโฟน" รับเทิร์นเครื่อง-พาเหรดรุ่นใหม่

แม้ แต่ผู้บุกเบิกตลาดสมาร์ทโฟนยุคใหม่เป็นรายแรก แต่เมื่อคู่แข่งตัวฉกาจชิงตำแหน่งแชมป์ไปเรียบร้อยแล้ว ยักษ์ "แอปเปิล" จึงต้องหากลยุทธ์ใหม่เพื่อรับมือเว็บบล็อกไอที 9To5Mac รายงานข้อมูล

จาก แหล่งข่าววงในหลายรายว่า "ทิม คุก" ซีอีโอ "แอปเปิล" พร้อมทีมงาน เตรียมปรับการตลาดและวิธีการวางจำหน่ายไอโฟนขนานใหญ่ เพื่อตอบโต้คู่แข่งบนแอนดรอยด์ที่กำลังรุกหนัก ในการประชุมลับที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ซึ่งแอปเปิลได้รวบรวมผู้ประกอบการร้านค้าปลีกรายสำคัญมาจากทั่วทุกมุมโลกมา หารือ

ในการประชุมดังกล่าว "ทิม คุก" แสดงความพึงพอใจที่เครื่อง "แมค" และ "ไอแพด" สามารถทำยอดขายได้เป็นอย่างดี

ผ่าน แอปเปิลสโตร์ โดยมีข้อมูลระบุว่า ยอดขาย 1 ใน 4 ของเครื่องแมคทั่วโลกซื้อจากร้านค้าปลีกของแอปเปิล แต่ที่ซีอีโอไม่พอใจนักคือ "ไอโฟน" กว่า 80% จากทั่วโลกกลับไม่ได้มาจากแอปเปิลสโตร์

เพราะ "ไอโฟน" เปรียบเสมือนสินค้า "หลัก" ที่จะเชื่อมต่อไปสู่อุปกรณ์อื่น หากลูกค้าเข้าไปในร้านย่อมมีโอกาสเห็นไอแพด แมค ฯลฯ ที่วางโชว์อยู่ด้วย แต่ถ้ามองที่จำนวนเครื่อง "ไอโฟน" ที่มีการแก้ไข ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนเครื่องใหม่

ตามเงื่อนไขการบริการของแอปเปิลกว่า 50% กลับมาจากบรรดาศูนย์ Apple Store Genius Bar ซึ่ง "ทิม คุก" บอกเป็นนัยว่า เขาต้องการเห็นตัวเลข 2 ส่วนนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้นในอนาคต

โดย "แอปเปิล" กำลังพัฒนาแผนกระตุ้นการซื้อจากแอปเปิลสโตร์มากขึ้น อาทิ การจัดโปรโมชั่นรับเปิดเทอม ที่บริษัทจะมอบบัตรสมนาคุณของแอปเปิลมูลค่า 50 เหรียญสหรัฐ ให้นักเรียนที่ซื้อสมาร์ทโฟนของแอปเปิล ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ จะมีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการในงานพบปะผู้ค้าปลีกประจำไตรมาส (28 ก.ค.)

แต่แผนกระตุ้นยอดขายที่จะเห็นได้ในช่วงไม่กี่เดือนต่อจากนี้ คือ การเปิดตัวโครงการรับแลกหรือซื้อคืน "ไอโฟน" ใช้แล้ว

ที่ "แอปเปิลสโตร์" ซึ่งก่อนหน้านี้สำนักข่าว "บลูมเบิร์ก" รายงานว่า แอปเปิลกำลังเตรียมแผนออกโครงการรับซื้อไอโฟนเครื่องเก่า รวมถึงโครงการที่ให้ผู้บริโภคนำไอโฟนรุ่นเก่าที่ได้รับความเสียหายมาเปลี่ยน เป็นไอโฟน 5 มือสอง เพื่อผลักดันให้ผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาหันมาใช้ไอโฟน

รุ่น ล่าสุดมากขึ้น โดยจับมือกับบริษัทตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ "ไบรท์สตาร์" ให้เป็นผู้รับผิดชอบโครงการรับซื้อเครื่องเก่าที่ว่านี้

โดยเจ้าของเครื่องสามารถนำไอโฟนไปแลกเป็นเงินสดได้ทันทีที่ "แอปเปิลสโตร์" ส่วนการตีราคาจะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพเครื่อง

แม้ ว่าก่อนหน้านี้แอปเปิลเปิดโครงการ "รียูส แอนด์ รีไซเคิล" ในเว็บไซต์ของตนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 โดยมอบเงินเป็นค่าเครื่องมือสองให้มากที่สุดถึง 200 เหรียญสหรัฐ

จุด ต่างคือโครงการ "รียูส แอนด์ รีไซเคิล" เจ้าของเครื่องต้องส่งไอโฟนของตนเองผ่านไปรษณีย์และรอรับเช็คเงินสด แต่โครงการรับซื้อเครื่องเก่าที่กำลังจะจัดขึ้นนี้ เจ้าของเครื่องสามารถนำไอโฟนของตนไปขึ้นเงินที่ "แอปเปิลสโตร์" ได้ทันที

ส่วน บรรดาไอโฟน 4 และ 4S มือสอง ที่ "แอปเปิล" รับซื้อจากผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา จะมีการนำไปขายต่อในตลาดประเทศเกิดใหม่ ซึ่งยังมีส่วนแบ่งการตลาดไม่มากนัก แต่มีความต้องการ

สมาร์ทโฟนระดับราคาย่อมเยาอยู่มาก โดยมีการมองกันว่า กลยุทธ์รับซื้อเครื่องเก่า

ในครั้งนี้เป็นหนึ่งในแผนของแอปเปิลที่จะกระตุ้นยอดขายและชิงส่วนแบ่งตลาดคืนจากคู่แข่ง

และ หากข่าวลือที่ว่าแอปเปิลกำลังซุ่มพัฒนาไอโฟนต้นทุนต่ำ และมีสีสันให้เลือกพอสมควรนั้นเป็นจริง น่าจะเหมาะกับตลาดเกิดใหม่ของบริษัท และช่วยเสริมกลยุทธ์กระตุ้นยอดขายไอโฟนของทิม คุก ได้เป็นอย่างดี

นอก จากนี้ "แอปเปิล" ยังวางแผนปรับปรุงกลยุทธ์การตั้งราคาให้เท่ากันทั่วโลก ทั้งการซื้อจากโอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือและในร้านค้าปลีก

ขณะ เดียวกัน "ทิม คุก" ยังย้ำถึงความสำคัญของระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ที่มีต่ออนาคตของ "แอปเปิล" ด้วย โดยผู้บริหารระดับสูงของแอปเปิลต่างให้ข้อมูลและสาธิตการใช้งานระบบปฏิบัติ การใหม่ล่าสุด "ไอโอเอส 7" ให้ตัวแทนร้านค้าปลีกทั้งหลาย รวมถึงพูดคุยวิธีโปรโมตไอโอเอสรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในปลายไตรมาส 3 ถึงต้นไตรมาส 4 นี้ รวมไปถึงการเปิดตัวร้านค้าปลีกสาขาใหม่ในยุโรป ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการเปิดแอปเปิลสโตร์ในอิตาลี

หลังการประชุมลับนี้ เสร็จสิ้นลง แหล่งข่าววงในรายงานว่า ผู้ประกอบการค้าปลีกหลายรายค่อนข้างมั่นใจกับขบวนพาเหรดสายผลิตภัณฑ์ใหม่ของ แอปเปิลตั้งแต่ ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาวท้ายปีนี้

พอดิบพอดี หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าแอปเปิลจะเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ ทั้งไอโฟน ไอแพด และเครื่องแมค

มารอดูกันต่อดีกว่าว่า ที่คาดการณ์กันนักหนาจะเป็นจริงสักกี่มากน้อย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook