10 นวัตกรรมปี 2012

10 นวัตกรรมปี 2012

นับเวลาถอยหลังอีกไม่กี่วันนับจากนี้ ก็จะเข้าสู่ปีใหม่อย่างเป็นทางการ วันนี้ทางทีมงาน Sanook! Hitech เลยจัดทำบทวิเคราะห์ "10 นวัตกรรมไอทีปี 2012" ที่โดดเด่นของปี 2012 ที่มาแรงและถูกจับตามองในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา

และไม่น่าแปลกใจเลยที่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ภายใต้แบรนด์ "Apple" ที่ยังคงยึดตำแหน่งขวัญใจมหาชลไปได้อีกเช่นเคย มองได้จากการเปิดตัว iPhone 5 และการลงมาช่วงชิงตลาดล่างของ Apple ด้วยการส่ง iPad Mini ออกมา และทั้งสองอย่างก็สร้างกระแสใหม่เพราะ เพียงแค่ สัปดาห์เดียวก็ทำยอดขายเก่าถล่มถลาย
สำหรับตอนนี้เรามาดู 10 10 นวัตกรรมปี 2012 กันว่ามีอะไรกันบ้าง

1 สมาร์ทโฟนแห่งปี 2012

iPhone 5

ด้วยสำผัสหน้าจอทีใหญ่ขึ้น พร้อมพลังแรงกว่าเดิม ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา เหมือนเราจะได้ยินแค่สมาร์ทโฟนแห่งตระกูล กาแล็กซี่อยู่ในหัว เนื่องด้วยการส่งสมาร์ทโฟนแห่งออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อมีการเปิดตัว iPhone 5 ออกมากลับกลายเป็นว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของทาง Apple นั้นกลับสามารถเรียกตำแหน่ง สมาร์ทโฟนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกกลับมาได้ ด้วยอัตราการซื้อที่สามารถทำลายทุกสถิติ

ติดตามอ่านข้อมูลเพิ่มเติม คลิกอ่านต่อที่นี่

Samsung Galaxy S III

Samsung GALAXY S III ทำงานอย่างสอดประสานกับผู้ใช้ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น การทำงานอย่างต่อเนื่องขณะที่คุณจ้องมองโทรศัพท์และติดต่อกับคนที่คุณรัก โทรศัพท์ รุ่นใหม่นี้ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อรองรับการใช้งานของคนเรา ด้วยความสามารถแบบอัจฉริยะซึ่งจะตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างลงตัว สอดรับกับทุกความคิดและทุกการกระทำของคุณ Samsung Galaxy S III นั้นให้ประสบการณ์ Android 4.0 ได้ลื่นไหลทีสุดเท่าที่เราเคยได้สำผัสมา ด้วยหน่วยประมวลผล Exyonos แบบ Quad-core ความเร็ว 1.4 GHz มาพร้อมกล้อง 8 ล้านพิกเซล

ติดตามอ่านข้อมูลเพิ่มเติม คลิกอ่านต่อที่นี่

2 แท็บเล็ตแห่งปี 2012

iPad Mini

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วกับแท็บเล็ตรุ่นเล็กของแอปเปิลในชื่อ iPad mini ส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปจากซีรีส์ iPad ก่อนหน้าคือขนาดหน้าจอที่เล็กลงราว 40% บนหน้าจอขนาด 7.9" บนความละเอียด 1024x768 พิกเซล (162 PPI) เท่ากับ iPad รุ่นแรก และ iPad 2 นั่นเอง

ส่วนสเปคอื่นๆ มีดังนี้ครับ
• ซีพียู Apple A5
• มาพร้อมกับ iOS 6
• กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า FaceTime HD
• มีทั้งรุ่น Wi-Fi และรุ่น Wi-Fi+Cellular
• ตัวเครื่องหนา 7.2 มม. แบตเตอรี่อยู่ได้ 10 ชั่วโมง
• ตัวเครื่องเบากว่า iPad 53% เหลือเพียง 308 กรัม

เปิดราคาเท่ารุ่นเดิมที่ 499 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 629 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับรุ่น Wi-Fi+Cellular ครับ ที่ทางทีมงาน Sanook! Hitech จัดอันดับให้ iPad Mini เป็นหนึ่งใน 10 นวัตกรรมปี 2012 นั้นไม่ใช่เพราะคุณสมบัติขั้นเทพที่สามารถชนะแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ นะครับ แต่ได้เพราะมันคือการปล่อยสินค้ารุ่นเล็กอย่าง iPad Mini ออกสู่ตลาดของ Apple นั้นมันเหนือความคาดหมาย

ติดตามอ่านข้อมูลเพิ่มเติม คลิกอ่านต่อที่นี่

3 Nintendo Wii U จัดเต็มด้วยพลังควอดคอร์ จอยสติกอนาล็อกคู่และเกมส์สนุกสะใจ

ทาง Nintendo ขอก้าวไปอีกขั้นกับเครื่องเกมส์คอนโซลรุ่นใหม่ Wii U ที่ได้เปิดตัวในงาน E3 2012 สำหรับ Wii U มาพร้อมกับคุณสมบัติที่มากมายจริงๆ ครับ เริ่มกันเลยดีกว่าครับ อย่างแรกเลยก็คือหน้าจอสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว ที่สามารถใช้งานได้ทั้ง Stylus (ใน Style ของ Nintendo) หรือจะสัมผัสด้วยนิ้วเราก็ทำได้ครับตัวควบคุมยังสามารถที่จะเสียบหูฟัง ไมโครโฟน พร้อมพอร์ตอินฟาเรด จอยสติ๊กแบบอนาล็อคทั้งซ้ายและขวา ปุ่มควบคุมแบบ 4 ทิศทาง กล้องด้านหน้าที่ทำให้คุณสามารถวีดีโอแชตได้ทันที ตัวเครื่องมีทั้งแบบสีขาวและดำ มันเงาสวยงาม (แต่คงเป็นลอยมือเหมือนกันนะครับ) การออกแบบทำได้สวยงามดูแล้วน่าจะจับได้ถนัดมือไม่น้อยนะครับ

Nintendo Wii U จะวางจำหน่ายในรูปแบบเบสิคเซ็ต และพรีเมี่ยมเซ็ต โดยในรุ่นพรีเมี่ยมจะวางจำหน่ายในราคา ¥31,500 (ประมาณ 12,506 บาท) และมาพร้อมกับสีดำ มีหน่วยความจำ flash memory 32GB, GamePad, power adapter 2 ชุด และสาย HDMI และมาพร้อมกับ Nintendo Network Plus

4 Apple MacBook Air 13in โน๊ตบุ๊คบางเบาตัวจริง ปี 2012

อีกหนึ่งสินค้าจากทางค่าย Apple ที่เข้าวินมาสำหรับการจัดอันดับ 10 นวัตกรรมปี 2012 ของทางทีมงาน Sanook! Hitech ถ้าคุณเป็นสาวกพันธ์แท้ของทาง Apple การเลือก Apple MacBook ไว้ใช้งานอาจจดีขึ้น MacBook Air เป็นโน๊ตบุ๊คขุมพลัง OS X ที่ถือได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกวงการสำหรับเหล่า "อัลตราบุ๊ค" ทั้งหลายในปัจจุบัน และตามคำบอกเล่าของนักวิเคราะห์ IDC ออกมาบอกว่ามันขายได้ดีกว่า อัลตราบุ๊ค ทั้งหมดรวมกันเสียอีก

มาในปี 2012 นั้นพระเอกของปีคนต้องยกให้ Apple MacBook Air 13in ด้วยราคาที่ถูกกว่า Apple MacBook Pro เล็กน้อยทำให้ Apple MacBook Air 13in เข้าวินของปีนี้ไป

Apple MacBook Air 13in มาพร้อมคุณสมบัติ

• CPU - หน่วยประมวลผล Intel Core i5-3317U (1.70GHz Turbo Boost up to 2.60GHz) 3MB L3 Cache
• GPU - การ์ดจอ แสดงผล Intel HD Graphics 4000 (Onboard)
• Chipset Mobile Intel HM77 Express chipset
• หน่วยความจำ 4 GB DDR3
• ฮาร์ดดิส 128GB แบบ SSD [Solid State Drive]
• ออปติคอลไดรฟ์ ไม่มี
• ระบบปฏิบัติการ Mac OS X v10.7 Lion
• แบตเตอรี่ lithium-polymer สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง
• ขนาด ไม่ระบุ
• น้ำหนัก 1.08 กิโลกรัม

ติดตามอ่านข้อมูลเพิ่มเติม คลิกอ่านต่อที่นี่

5 Canon G1X กล้อง wifi

สำหรับ Canon G1X ถือว่าเป็น Compact Camera ที่เจ๋งที่สุดในตลาดตอนนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งความละเอียดของกล้องอยู่ที่ 14.3 Megapixel CMOS ซึ่งรองรับการถ่ายวีดีโอที่ 1920×1080 โดยมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังนี้

Canon G1X กล้อง wifi มาพร้อมคุณสมบัติ

• Large 14.3 MP CMOS, DIGIC 5, HS System
• Compact 4x zoom; Intelligent IS
• 7.5 cm (3.0") vari-angle LCD; OVF
• Full Manual, RAW, DPP
• Full HD, HDMI
• High-speed Burst HQ
• Smart Auto
• Extensive accessories
• HDR mode and ND filter
• Optional 40m waterproof case

ที่เจ๋งที่สุดนั้นคือมันมี wifi ในตัวให้คุณส่งภาพถ่ายไปยัง Facebook, Flickr และอื่นๆ โดยที่คุณไม่ต้องวุ่นวายอีกต่อไป และอีกอย่างตอนนี้ทางทีมงาน Sanook! Hitech กล้าการันตีได้เลยว่าหากตอนนี้กล้อง Compact Camera รุ่นไหนไม่มีระบบ wifi ออกมารองรับแล้ว อยู่อยากมาก  กล้อง Compact Camera ดีๆ ที่มีระบบ wifi เป็นจุดขายมีอีกหลายรุ่น หลายยี่ห้อครับ ไม่จะเป็นต้อง Canon G1X ก็ได้ได้สำหรับผม Canon G1X มันดีที่สุดแล้ว!!

ติดตามอ่านข้อมูลเพิ่มเติม คลิกอ่านต่อที่นี่ 

6 Windows 8

หลังห่างหายไปนานหลายปี การกลับมาครั้งนี้ของไมโครซอฟท์เรียกเสียงฮือฮาจากสาวกไอที โดยเปิดตัวระบบปฎิบัติการวินโดวส์ 8 ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหลบนหน้าจอสตาร์ทสกรีน จุดเด่นที่แตกต่างคือการรวมทุกฟังก์ชั่นไว้ในหน้าแรก จึงทำให้ผู้ใช้งานใช้แอพพลิเคชั่นและข้อมูลที่ชื่นชอบได้ในทันที เช่นดูข้อมูลอัพเดทล่าสุด ดูรูปภาพและวิดีโอในที่เดียวกัน ไม่ว่าจะอยู่บน Facebook หรือคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น
วินโดวส์ ยังออกแบบหน้าจอยูสเซอร์ อินเตอร์เฟสรูปแบบใหม่ที่ดีไซน์สวย ทันสมัย ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีและแท็บเล็ตมากกว่า 1,000 รุ่น จากแบรนด์ชั้นนำและแอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย

นอกจากนั้นยังมีการเปิดตัววินโดวส์สโตร์ ในตลาดกว่า 17 แห่งทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยไมโครซอฟท์ ยืนยันว่าวินโดวส์ 8 เป็นระบบปฏิบัติการ ที่ได้รับการทดสอบและมีความพร้อมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของไมโครซอฟท์ ด้วยจำนวนผู้ทดลองใช้กว่า 16 ล้านคนทั่วโลก

วินโดวส์ 8 ถูกปรับเปลี่ยนโดยเน้นการใช้งานบนอุปกรณ์พกพาเช่น แท็บเล็ต เพื่อเป็นคู่แข่งกับระบบปฎิบัติการบนอุปกรณ์พกพาอื่นๆ เช่น ไอโอเอสและแอนดรอยด์ และได้ปรับปรุงส่วนติดต่อกับผู้ใช้งาน (UI) ทีมีชื่อว่า Modern UI มีหน้าตาที่เรียบง่าย และสะดวกต่อการใช้งาน มีการอัพเดตแอปต่างๆ ตลอดเวลาด้วยระบบ Live Tiles และยังถูกผนวกโปรแกรมป้องกันไวรัสเข้ามากับระบบปฎิบัติการโดยตรง ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องไปซื้อโปรแกรมป้องกันไวรัสเพิ่มเติม

คุณสมบัติใหม่

• เป็น Tablet-Friendly หรือใช้กับอุปกรณ์จอสัมผัสได้เป็นอย่างดี
• มีการใช้ Modern UI Style ซึ่งตัวไอคอนจะมีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมเรียกว่า Tile
• Refresh และ Reset โดย Refresh จะลบการตั้งค่าและทุกโปรแกรมที่ติดตั้งไว้หมด แต่ไม่ทำอะไรกับไฟล์ข้อมูล ส่วน Reset จะทำให้ตัวWindowsมีลักษณะเหมือนตอนเพิ่งติดตั้งเสร็จ
• Windows store จะมีไว้สำหรับแจกและขายโปรแกรม
• มีโปรแกรมสำหรับใช้ Social network อย่าง Facebook กับ Twitter โดยเฉพาะ
• มีโปรแกรมป้องกันไวรัสติดมาด้วย
• Windows to Go ที่ทำให้วินโดวส์ 8 สามารถสร้างแฟรชไดรว์ที่บูตวินโดวส์ได้
• สามารถทำงานในระบบประมวลผมแบบ ARM ได้

ติดตามอ่านข้อมูลเพิ่มเติม คลิกอ่านต่อที่นี่

7 เกมส์สมาร์ทโฟน Angry Bird

การกลับมาของเกมส์เป็นสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆด้วยแล้วทำให้โลกของเรานั้นเปรียบเสมือนสนามเด็กเล่นก็ว่าได้ เมื่อการระบุพิกัดและ Augmented Reality มาพบกับสมาร์ทโฟน เรื่องการสื่อสารก็เป็นเรื่องของความสนุก ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์การเล่นเกมส์อินเทอร์แอ็กทีฟในเวลาสถานที่จริง รูปแบบใหม่ๆ ในการหาที่ตั้งร้านค้า หรือแม้กระทั่งการเล่นโซเชียลเกมส์ในโลกจริง

นกพิโรธยังคงครองแชมป์เกมส์ขายดีประจำเครื่องสมาร์ทโฟนไม่เปลี่ยนแปลง เพราะทาง Rovio ทยอยขนลูกเล่นใหม่ๆมาให้ลองเล่นกันอยู่เสมอ ซึ่งในปี 2012 นี้ก็มี Angry Bird ภาคใหม่ๆมาให้เล่นกันเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Angry Bird Season ลุยทะเล และ Back to School , Angry Bird Space และล่าสุดก็คือ Angry Bird Star Wars ที่ถูกใจแฟนๆสตาร์วอร์สมาก

ติดตามอ่านข้อมูลเพิ่มเติม คลิกอ่านต่อที่นี่  

8 "โทรทัศน์อินเตอร์เน็ต" (Internet Television)

Internet TV กระบวนการถ่ายทอดภาพและเสียงพร้อมกันจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ผ่านทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงกัน โดยมีลักษณะของการหลอมรวมสื่อเข้าด้วยกัน (Media Convergence) ระหว่าง "สื่อโทรทัศน์" (Television) กับ "สื่ออินเตอร์เน็ต" (Internet) ซึ่งมีมาตรฐานการรับส่งข้อมูลระหว่างกันในรูปแบบต่างๆ เช่นตัวอักษร กราฟิกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง เป็นต้นรวมทั้งยังสามารถค้นหาข้อมูลจากที่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและไม่มีข้อจำกัดทางด้านเวลาและสถานที่อีกด้วย ทั้งนี้โทรทัศน์อินเตอร์เน็ต (Internet Television)

จะมีการเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตสามารถสร้างสรรค์รายการและนำเสนอผ่านทางอินเตอร์ เน็ต ซึ่งจะกระจายไปได้ทั่วโลกและมีต้นทุนการถ่ายทอดที่ค่อนข้างถูก ในขณะที่ผู้ชมก็จะสามารถเลือกชมรายการที่ต้องการ (On Demand) จากคลังที่เก็บรวบรวมรายการ และยังเป็นการสื่อสารสองทางที่ผู้ชมสามารถติชมรายการต่างๆ ได้โดยตรง ทำให้ผู้ผลิตรายการสามารถดำเนินการปรับปรุงรายการต่างๆ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน

สำหรับในประเทศไทยนั้น Internet TV ได้เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลากว่าครึ่งทศวรรษแล้ว โดยมีผู้ประกอบการหลายรายที่ได้สร้างสรรค์รายการและนำเสนอเนื้อหาสาระใหม่ๆ ซึ่งแตกต่างไปจากที่มีอยู่ในสื่อมวลชน เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค เช่นiHere.TV, FukDuk.TV, Gaggag.TV และ FinedayTV อย่างไรก็ตาม Internet TV ก็ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักหรือได้รับความนิยมจากผู้ชมอย่างแพร่หลายมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับการเติบโตของ Internet TV ในต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้เราจึงสนใจศึกษาและทำวิจัยภายใต้หัวข้องานวิจัยเรื่อง"ปัญหาการ เติบโตของ Internet TV ในประเทศไทย"

เพื่อให้ทราบถึงพฤติกรรมความต้องการในการรับชมของผู้บริโภคเปรียบเทียบกับ มุมมองความคิดเห็นของผู้ผลิตสื่อInternet TV ในประเทศไทย นำไปเชื่อมโยงสู่สาเหตุของปัญหาการเติบโต และหาแนวทางในการแก้ไขปรับปรุงเพื่อให้Internet TV ในประเทศไทยสามารถเติบโตต่อไปในอนาคต ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

9 สังคมบนสื่อ (Facebook)

จากผลวิจัยผู้บริโภค เสน่ห์ของ Social Media นั้นเกิดจาก ความเป็นเหมือนบทสนทนาที่โต้ตอบแชร์กันได้ การได้ "SociaLife" ความเป็นตัวตนได้อย่างเรียลไทม์ และความอัจฉริยะในแง่ข้อมูลของคอมมิวนิตี้ออนไลน์ ในแง่ของเทรนด์นวัตกรรมโซเชียลใหม่ๆ

Facebook) เป็นบริการเครือข่ายสังคมและเว็บไซต์ เปิดใช้งานเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004 ดำเนินงานและมีเจ้าของคือ บริษัท เฟซบุ๊ก (Facebook, Inc.) จากข้อมูล 4 ตุลาคม 2555 เฟซบุ๊กมีผู้ใช้ประจำ พันล้านกว่าบัญชี หรือคิดเป็นอัตราส่วน 1 ใน 7 ของคนทั้งโลก ผู้ใช้สามารถสร้างข้อมูลส่วนตัว เพิ่มรายชื่อผู้ใช้อื่นในฐานะเพื่อนและแลกเปลี่ยนข้อความ รวมถึงได้รับแจ้งโดยทันทีเมื่อพวกเขาปรับปรุงข้อมูลส่วนตัว นอกจากนั้นผู้ใช้ยังสามารถร่วมกลุ่มความสนใจส่วนตัว จัดระบบตาม สถานที่ทำงาน โรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือ อื่น ๆ ชื่อของเฟซบุ๊กนั้นมาจากชื่อเรียกภาษาปากของสมุดที่ให้กับนักเรียนเมื่อเริ่มเแรกเรียนในสถาบันอุดมศึกษา ที่มอบให้โดยคณะบริหารมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา เพื่อช่วยให้นักเรียนสามารถรู้จักผู้อื่นได้ดีมากขึ้น เฟซบุ๊กอนุญาตให้ใครก็ได้เข้าสมัครลงทะเบียนกับเฟซบุ๊ก โดยต้องมีอายุมากกว่า 13 ปีขึ้นไป

เฟซบุ๊กก่อตั้งขึ้นโดย มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ร่วมกับเพื่อนร่วมห้องในวิทยาลัยของเขาและเป็นนักเรียนวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่ชื่อ เอ็ดวาร์โด ซาเวริน, ดิสติน มอสโควิตซ์ และคริส ฮิวส์ เดิมทีสมาชิกของเว็บไซต์จะจำกัดเฉพาะกลุ่มผู้ก่อตั้งและนักเรียนมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด แต่ต่อมาขยับขยายไปสู่มหาวิทยาลัยอื่นในแถบบอสตัน, กลุ่มไอวีลีก, และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด แล้วค่อย ๆ เพิ่มนักเรียนจากมหาวิทยาลับอื่น จนกระทั่งเปิดให้กับนักเรียนระดับไฮสคูล จนในที่สุดทุกคนก็สามารถเข้าสมัครได้โดยอายุมากกว่า 13 ปีขึ้นไป

สำหรับติดต่อแลกข้อมูลข่าวสาร เปิดใช้งานเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547 โดย มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ในช่วงแรกนั้นเฟซบุ๊กเปิดให้ใช้งานเฉพาะนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ซึ่งต่อมาได้ขยายตัวออกไปสำหรับมหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐอเมริกา และตั้งแต่ 11 กันยายน พ.ศ. 2549 ได้ขยายมาสำหรับผู้ใช้ทั่วไปทุกคนเหมือนในปัจจุบัน

จากการศึกษาของเว็บ คอมพีต.คอม ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2009 เฟซบุ๊กถือเป็นบริการเครือข่ายสังคมที่มีคนใช้มากที่สุด เมื่อดูจากผู้ใช้ประจำรายเดือน รองลงมาคือ มายสเปซ เอ็นเตอร์เทนเมนต์วีกลี ให้อยู่ในรายชื่อ สิ่งที่ดีที่สุดในสิ้นทศวรรษ[6] และควอนต์แคสต์ ประเมินว่า เฟซบุ๊ก มีผู้ใช้ต่อเดือนราว 135.1 ล้านคน นับเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ข้อมูล ณ วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554 จากเฟซบุ๊กมีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 584,628,480 สมาชิกทั้วโลก โดยเป็นสมาชิกจากประเทศไทย รวม 6,914,800 สมาชิก

ติดตามอ่านข้อมูลเพิ่มเติม คลิกอ่านต่อที่นี่ 

10 ศิลปะบนสื่อออนไลน์ (Instagram)

แอพถ่ายภาพยอดนิยมอย่างอินสตาแกรมเริ่มเข้ามามีบทบาทนอกมือถือขึ้นเรื่อยๆ เทคโนโลยีด้านศิลปะได้ก้าวเข้ามามีอิทธิพลในโลกการ ทำให้ผู้บริโภคสามารถปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ของตนผ่านแคนวาสที่เป็นสื่ออินเตอร์แอ็กทีฟซึ่งผสมผสานความเป็นโลกจริงและโลกดิจิตอลไว้ด้วยกันอย่างแยบยล

ปัจจุบัน อินสตาแกรม กำลังไต่อันดับความนิยมของ Social Media ขึ้นมาเรื่อย โดยอินสตาแกรม เป็นโปรแกรมแบ่งปันรูปภาพ โดยถูกคิดค้นขึ้นมาในเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2553 โดยผู้ใช้งานสามารถถ่ายรูปและตกแต่งรูปภาพได้ตามใจต้องการ และแบ่งปันผ่าน โซเชียลเน็ตเวิร์ก[1]โดยการตกแต่งรูปนั้นจะเน้นในแนวย้อนยุค หรือ กล้องโพลารอยด์ โดยมีอัตราส่วนของรูปภาพอยู่ที่ 4:3

ในช่วงแรกนั้นอินสตาแกรมนั้นได้รองรับการใช้งานบน ไอโฟน, ไอแพด และ ไอพอดทัช และต่อมาใน เดือนเมษายน พ.ศ. 2555 ทางบริษัทก็ได้เพิ่มการรองรับโดยเพิ่มการรองรับกับระบบ แอนดรอยด์ ซึ่งรองรับตั้งแต่ แอนดรอยด์ เวอร์ชัน 2.2 (โฟรโย) ขึ้นไป โดยปัจจุบันได้มีการเปิดให้ดาวน์โหลดได้ทาง ไอทูนส์ และ กูเกิลเพลย์

ในการปรับปรุงกิจการให้ทันสมัยอยู่เสมอ เฟซบุ๊ค จึงได้เข้ามาซื้อกิจการ ในราคาประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ใน เดือนเมษายน พ.ศ. 2555

ติดตามอ่านข้อมูลเพิ่มเติม คลิกอ่านต่อที่นี่