เบื้องหลังโฆษณาที่เศร้าที่สุดแห่งปี ที่คนเป็นแม่ต้องจำไปจนวันตาย "

เบื้องหลังโฆษณาที่เศร้าที่สุดแห่งปี ที่คนเป็นแม่ต้องจำไปจนวันตาย "

เบื้องหลังโฆษณาที่เศร้าที่สุดแห่งปี ที่คนเป็นแม่ต้องจำไปจนวันตาย "
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ไม่คิดว่าจะเป็นการบอกครั้งสุดท้าย และเขาจะไม่ได้กลับมาอีกเลย….”

ประโยคสุดท้ายที่มาพร้อมกับเสียงสะอื้นของ แม่ตุ้ม-ชุลีพร คูยิ่งรัตน์ สะกดอารมณ์คนทั้งกองถ่าย ภาพของผู้กำกับและทีมงานที่ปาดน้ำตา กับเรื่องจริงของผู้สูญเสียคนรักจากอุบัติเหตุ

“แคมเปญนี้เราใช้บทเรียนจริงของคนที่จากไป มาเตือนให้ระวังเรื่องการขับขี่ในช่วงเทศกาล ผ่านโซเชียลมีเดียในการดำเนินเรื่อง ให้ดูเหมือนว่าคนที่จากไปแล้วกลับมาเตือน คำเตือนแบบนี้ถือว่า เล่นแรง” คุณอารยะ สุริหาร ผู้กำกับของหนังโฆณาชิ้นนี้ พูดถึงคอนเซปต์ของการนำเสนอ กับครั้งแรกที่เขาได้ยินจากครีเอทีฟ



คุณจิรัฐ อรินฤทธิ์ (ซ้าย) และคุณอารยะ สุริหาร (ขวา)

คุณจิรัฐ อรินฤทธิ์ ครีเอทีฟเจ้าของแนวคิดของงานชิ้นนี้ อธิบายภาพของงานให้ชัดขึ้น “ผมว่ามันต่าง... มันมีความแตกต่างจากทุกแคมเปญที่ผ่านมา แม้กระทั่งแคมเปญรณรงค์เรื่องอุบัติเหตุของ สสส ที่ทำมาทุกปี เพราะเรื่องที่เราทำมันเป็นเรื่องจริง ใครที่ได้เห็นเพื่อนหรือญาติที่เสียชีวิตไปแล้ว มาโพสเตือนให้ขับขี่รถอย่างระมัดระวัง”

“ข้อแรกเลยคือก็ต้องหยุด และคิดถึงสิ่งที่โพสต์ ว่าใครมาล้อเล่นอะไรแบบนี้ แต่ตอนจบที่เฉลยว่าเป็นข้อความที่มาจากญาติ หรือคนที่เขาต้องสูญเสีย มันเหมือนเป็นผลกระทบสองชั้น ทั้งเตือนใจ และสะเทือนใจ” “เราเลือกเคสไว้ 4 เคส พอวันถ่ายทำ ได้เจอญาติผู้เสียชีวิตจริงๆ แล้วมันหดหู่มาก ที่ผ่านมาเรารับรู้จากข่าว หรือจากคนที่อยู่ไกลตัว แต่ตอนนี้เขาอยู่ตรงหน้าเรา และฟังจากปากเขา มันสะเทือนใจ”



ชุลีพร คูยิ่งรัตน์ หรือแม่ตุ้ม หนึ่งในผู้ถ่ายทอดเรื่องราวการสูญเสียลูกชาย จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ พูดถึงโครงการนี้ว่า “อยากให้ทุกคนในสังคมได้ตระหนักถึงเรื่องอุบัติเหตุ ว่าเป็นการพลัดพรากแบบไม่มีการบอกลา จากคนที่เรารัก เพื่อว่าทุกคนจะได้ไม่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้”

ผู้กำกับเล่าถึงบรรยากาศในวันถ่ายทำ ว่าการถ่ายทำใช้เวลาไม่มาก เพราะทั้ง 4 เคส เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง การสะกดคนดูให้มีอารมณ์ร่วม รวมถึงการดึงพลังออกมาจึงไม่ใช่เรื่องยาก แต่จุดที่พีคที่สุด คือ การร้องไห้ของทั้งผู้กำกับ และทีมงานตลอดการถ่ายทำ

“ผมคิดว่างานทุกชิ้นของสสส. มีเจตนาที่ดีต่อสังคม หลังจากที่ได้ทำแคมเปญนี้ ผมคิดว่าไม่ว่าจะเป็นเทศกาลหรือเวลาไหนก็ตาม การขับขี่รถโดยประมาทนั้นอันตรายมาก มันไม่ได้ส่งผลเฉพาะผู้ขับขี่คนเดียว โชคดีก็จะแค่บาดเจ็บ พิการ แต่ว่าถ้าเสียชีวิต คนที่อยู่ข้างหลังเรา ไม่ว่าจะเป็นญาติ เป็นพ่อเป็นแม่ หรือเป็นเพื่อน เป็นคนรู้จัก มันมีผลกระทบต่อพวกเขาทั้งนั้น เพราะงั้นดีที่สุดก็ไม่ควรประมาท มีสติในการขับขี่ตลอดเวลา”

บทสรุปจากผู้กำกับที่ได้ชื่อว่า กำกับหนังโฆษณาที่เศร้าที่สุดแห่งปี

รับชมคลิปได้ที่ด้านล่าง

 

 

[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook