วิธีกำจัด ATK ชุดตรวจโควิด-19 อย่างถูกต้องและปลอดภัย

วิธีกำจัด ATK ชุดตรวจโควิด-19 อย่างถูกต้องและปลอดภัย

วิธีกำจัด ATK ชุดตรวจโควิด-19 อย่างถูกต้องและปลอดภัย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการที่กระทรวงสาธารณสุข  อนุมัติให้ประชาชนสามารถซื้อชุด ATK ใช้ตรวจโควิด-19 ด้วยตัวเองได้ กรณีที่มีการนำชุดตรวจโควิด-19 มาตรวจด้วยตนเองนั้น จะก่อให้เกิดขยะทั่วไปและขยะติดเชื้อจากครัวเรือนมากขึ้น เช่น ตลับทดสอบ หลอดใส่น้ำยา ฝาหลอดหยด ไม้ Swap รวมถึงเอกสารกำกับชุดตรวจ และกล่องบรรจุภัณฑ์ โดยชุดตรวจ ATK ที่ใช้แล้วถือเป็นขยะที่มีความเสี่ยง ต่อการแพร่กระจายเชื้อโรคต่อผู้จัดเก็บขยะได้ 

วิธีกำจัด ATK ชุดตรวจโควิด-19 อย่างถูกต้องและปลอดภัย

ภายหลังการตรวจเชื้อด้วย Antigen Test Kit หรือชุดตรวจโควิด-19 ให้คัดแยกขยะออกเป็น 2 ประเภท

  1. ขยะที่ไม่ได้ปนเปื้อนน้ำมูก น้ำลาย หรือสารคัดหลั่งที่ใช้ทดสอบ เช่น เอกสารกำกับชุดตรวจ และกล่องบรรจุภัณฑ์ ขยะประเภทนี้ให้เก็บรวบรวมทิ้งถังขยะทั่วไปที่มีฝาปิดมิดชิดได้เลย
  2. ขยะที่ปนเปื้อนน้ำมูก น้ำลาย หรือสารคัดหลั่งที่ใช้ทดสอบ เช่น ตลับหรือแผ่นทดสอบ หลอดใส่น้ำยา ฝาหลอดหยด ไม้ Swap ขยะประเภทนี้ถือเป็นขยะที่มีความเสี่ยงสูง ต้องแยกจัดการจากขยะทั่วไป เพราะมีโอกาสแพร่กระจายเชื้อโรคได้

จึงขอให้ผู้ที่ใช้ ATK กำจัดอย่างถูกวิธี เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค โดยมีแนวทางการจัดการ แบ่งออกเป็น 2 กรณี

  1. กรณีในพื้นที่หรือชุมชนมีระบบการเก็บขนขยะติดเชื้อ
  • เก็บรวบรวมขยะติดเชื้อเป็นประจำทุกวัน ใส่ถุงขยะสีแดง 2 ชั้น โดยถุงชั้นแรกที่สัมผัสขยะติดเชื้อ มัดปากถุงด้วยเชือกให้แน่น
  • ฉีดพ่น บริเวณปากถุงด้วยสารฆ่าเชื้อ เช่น สารโซเดียมไฮโปคลอไรท์ 5,000 ppm หรือเตรียมจากน้ำยาฟอกขาว ผสมน้ำอัตราส่วน 1 : 10 หรือแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์
  • มัดปากถุงชั้นนอกด้วยเชือกให้แน่น และฉีดพ่นบริเวณปากถุงด้วยสารฆ่าเชื้ออีกครั้ง
  • เคลื่อนย้ายไปไว้ยังจุดพักขยะที่จัดไว้เฉพาะ
  • ประสานไปยังหน่วยงานที่ทำหน้าที่ให้บริการเก็บ ขน ขยะติดเชื้อในพื้นที่ เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อกำหนดวิธีการนำขยะติดเชื้อไปกำจัดอย่างถูกต้องต่อไป 
  1. กรณีในพื้นที่หรือชุมชนไม่มีระบบการเก็บขนขยะติดเชื้อ หรือระบบการเก็บขนขยะติดเชื้อเข้าไม่ถึง
  • เก็บรวบรวมและทำลายเชื้อ โดยใส่ถุงขยะ 2 ชั้น ถุงใบแรกที่บรรจุขยะติดเชื้อแล้วให้ราดด้วยสารฆ่าเชื้อ หรือน้ำยาฟอกขาว เช่น ไฮเตอร์
  • มัดปากถุงให้แน่น
  • ฉีดพ่นบริเวณปากถุงด้วยสารฆ่าเชื้อ เช่น สารโซเดียมไฮโปคลอไรท์ 5,000 ppm หรือเตรียมจากไฮเตอร์ผสมน้ำอัตราส่วน 1 : 10 หรือแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์
  • ซ้อนด้วยถุงขยะอีก 1 ชั้น มัดปากถุงชั้นนอกด้วยเชือกให้แน่น
  • ฉีดพ่นด้วยสารฆ่าเชื้อบริเวณปากถุงอีกครั้ง
  • ขยะที่ผ่านการทำลายเชื้อแล้ว ให้ประสานและนำส่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ นำไปกำจัดเป็นขยะทั่วไป

ทั้งนี้ ภายหลังจัดการขยะติดเชื้อแล้ว ต้องล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์ทันที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook