เตรียมตัวพบกับบรรดาหุ่นยนต์รบทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็กที่จะมาเปิดศึกกันในสงครามพิทักษ์สันติสุขของจักรวาลเวอร์ชั่นเครื่อง NDS เร็วๆนี้ในวันที่ 1 มีนาคม 2007 Super Robot Taisen เกมวางแผนแบบสลับตาเดินที่ประวัติอันยาวนานตั้งแต่ยุคเครื่อง FC จนมาถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะเป็นผลงานของค่าย Banpresto ที่เป็นค่ายเกมไม่ใหญ่มากนักแต่ก็เป็นเกมดังที่มีแฟนๆติดตามเล่นเป็นจำนวนมากและยังเป็นเกมขายดีที่ทำรายได้หลักให้กับ Banpresto เลยก็ว่าได้ ซึ่งจุดเด่นของเกมก็คือการรวมตัวกันของบรรดาหุ่นยนต์จากหลายๆเรื่องนำมายำเป็นสงครามเรื่องเดียวกัน จึงดึงดูดทำให้แฟนๆการ์ตูนแนวหุ่นยนต์ทั้งหลายต้องตามมาเล่นเกมนี้อย่างช่วยไม่ได้ เพราะอยากเล่นเกมที่มีการ์ตูนโปรดของตนนั่นเอง แถมทาง Banpresto ก็ไม่ได้หยุดนิ่งแค่การ์ตูนเรื่องเดิมๆเท่านั้นยังมีการซื้อลิขสิทธิ์การ์หม่นำมาลงให้กับเกมภาคใหม่ๆอยู่เสมอด้วย จึงไม่แปลกที่ทำออกมากี่ภาคๆก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า สำหรับภาคนี้นั้น สาเหตุที่ชื่อภาคว่า W นั้นก็เพราะว่าเป็นภาคที่ลงเครื่อง NDS ที่มีสองจอจึงมีความหมายคือมีจอแบบ Double สองจอนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีความหมายถึงเนื่อเรื่องด้วยว่าจะมีให้ให้เลือกเล่นสองแนวทางนั่นเอง ส่วนหุ่นรบที่เพิ่มเข้ามาเป็นเอกลักษณ์ของภาคนี้ก็มีหลากหลาย แต่ที่เด่นสุดก็คงจะหนีไม่พ้นตระกูลกันดั้มตัวใหม่อย่าง Gundam Seed Astray นั่นเอง ต่อไปก็เป็นหุ่นยักษ์รวมร่างชื่อดัง Hyakujuu-Ou Golion ที่ต้องประกอบร่างจากหุ่น 5 ตัว ตามด้วย Tekkaman Blade II, Detonator Orgun, Nadesico และ Gaogaigar Final สองเรื่องหลังนั้นแม้จะเคยออกมาในภาคก่อนแล้วแต่ในภาคนี้จะมีเวอร์ชั่นอัพเกรดที่เจ๋งกว่าเดิมมาด้วย และที่ขาดไม่ได้ก็คือเหล่าหุ่นรบคลาสสิคทีมาในภาคเก่าๆนั้นอย่างพวก มาชินก้า เกตเตอร์ กันดั้มก็ยังมีมาให้ใช้อย่างครบครัน เสียดายอย่างเดียวก็คือในภาค NDS นี้ไม่มีเสียงพากย์ของบรรดาตัวละครให้ฟัง จึงทำให้บรรยากาศการเล่นลดลงไปพอสมควร Source: IGN, Famitsu

อัลบั้มภาพ Super Robot Taisen W [Preview] ภาพที่ 10 / 10

Super Robot Taisen W [Preview]

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

Star Wars Outlaws™ วางจำหน่าย 30 สิงหาคม

ข่าวดี! Modern Warfare III Season 3 กำลังจะมาแล้ว!

Garena RoV ดึง Bowkylion ศิลปินหญิงสุดฮอตแห่งยุค เปิดตัว “เสือสมิง ลิเลียน่า” สกินไทยประจำปี 2567

KOI Thé จับมือกับ Genshin Impact เอาใจแฟนคลับในแคมเปญ “เพลินพบหรรษา งานเลี้ยงน้ำชา”