พรีวิว Fairy Tail: Endless Adventures หลังจากที่เปิดทดสอบในประเทศจีน

ถ้าพูดถึงการ์ตูนมังงะญี่ปุ่นที่มีการถูกจับมาพัฒนาเป็นวิดีโอมากที่สุด อีกหนึ่งเรื่องที่เห็นบ่อยสุดๆ นอกเหนือจาก One Piece, Dragon Ball, Bleach หรือ Naruto ก็จะมีการ์ตูนอย่าง Fairy Tail นี่แหละที่เห็นถูกจับมาพัฒนาเป็นเกมเช่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้ไม่นานนักในช่วงต้นเดือนเมษายนปีนี้ก็ได้มีการเปิดให้ทดสอบเกมมือถือในชื่อ Fairy Tail: Powers Awaken ไปจากทีมพัฒนาเกมอย่าง Babeltime ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีพอสมควรนำเสนอภาพสไตล์ตัวการ์ตูนน่ารักลักษณะ Chibi เมื่ออยู่ภายในเกม และในวันที่ 2 - 7 มิถุนายน 2020 ก็มีการเปิดให้ทดสอบเกมอีกหนึ่งเวอร์ชั่นจากทีมงานค่าย GyGames ในชื่อเกมว่า Fairy Tail: Endless Adventures อีกหนึ่งเกมที่ได้รับลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องในการพัฒนา

Fairy Tail: Endless Adventures แน่นอนว่าตัวเกมก็จะนำเสนอเรื่องราวที่อิงมาจากต้นฉบับการ์ตูนมังงะของญี่ปุ่นของ Fairy Tail แฟรี่เทล ศึกจอมเวทอภินิหาร ที่ตัวต้นฉบับได้จบบริบูรณ์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวเกมก็จะนำเสนอในช่วงหลังจากที่เหล่าสมาชิกแฟรี่เทลได้ไปเกาะแห่งการทดสอบเพื่อเลื่อนระดับนักผจญภัยให้เป็นระดับ S ด้วยบททดสอบต่างๆ ของ Master แต่แล้วระหว่างการทดสอบก็ถูกโจมตีโดยมังกรที่ชั่วร้ายที่สุดอัคโนโลเกียทำให้เกาะดังกล่าวได้จมลง แต่ด้วยเวทมนตร์แห่งแฟรี่เทลทำให้พวกเขารอดชีวิตมาได้ แต่ก็หลังจากนั้นหลายปีถึงได้สติกลับคืนมา แล้วก็กลับมาที่กิลด์อีกครั้ง ถึงทราบว่ากิลด์อันดับ 1 กลายเป็นกิลด์อันดับโหล่เป็นที่เรียบร้อย

ตัวงานภาพกราฟิกทางผู้พัฒนา GyGames ได้พยายามพัฒนาเกมออกมาในรูปแบบ 3D มีสัดส่วนตัวละครที่ใกล้เคียงกับเวอร์ชั่นอนิเมะมากที่สุด ซึ่งในฉาก Lobby หรือหน้าต่างอื่นๆ ที่ยังไม่ใช้โหมด Gameplay ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีน่าสนใจ แต่เมื่อตัดเข้าฉากเกมเพลย์ก็รู้สึกว่ามันยังดูแปลกๆ อยู่ในจังหวะที่สลับกันโจมตีของตัวละคร เพราะเกมนี้นำเสนอในรูปแบบ RPG นั่นเอง แต่ถ้าพูดถึงฉากคัทซีนที่ปล่อยทักษะความสามารถต่างๆ ก็ยอมรับว่าทำได้ดี แต่ยังรู้สึกว่าตัว Gameplay ยังขาดอะไรบางอย่างที่ดึงดูดถ้าให้พูดก็คงน่าจะเป็นมุมกล้องหรือท่าทาง Animation ที่ยังดูแข็งๆ

ส่วนเรื่องงานภาพกราฟิกอันนี้ยอมรับว่าทำออกมาได้ดี Fairy Tail: Endless Adventures เพราะดูแล้วทางผู้พัฒนาอยากนำเสนอตัวละครให้เหมือนอนิเมะมากที่สุดเพื่อให้เหล่าแฟนเกมรู้สึกสนุกไปกับการเล่นไม่ให้เป็นการ์ตูนแบ๊วๆ จนเกินไป ส่วนตัวที่เป็นแฟนการ์ตูนก็โอเคในระดับหนึ่งสำหรับเรื่องนี้ แต่เมื่อเอาไปผสมกับ Gameplay แล้วมันไม่โอเคเท่าไหร่