เคยสังเกตมั้ย? เพราะอะไร สัตว์กินพืชมักมีขนาดใหญ่กว่าสัตว์กินเนื้อ

ในธรรมชาติ เรามักจะเห็นว่าสัตว์กินพืชหลายชนิดมีขนาดตัวใหญ่มาก เช่น ช้าง ยีราฟ ฮิปโปโปเตมัส หรือวัว แต่สัตว์กินเนื้อที่ดูแข็งแรงและดุร้ายอย่างสิงโต เสือ หรือหมาป่า กลับมีขนาดเล็กกว่าในหลาย ๆ กรณี เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ทั้งที่สัตว์กินเนื้อกินโปรตีน ซึ่งควรจะช่วยให้โตเร็วกว่าเสียด้วยซ้ำ บทความนี้จะอธิบายให้เข้าใจว่าเหตุผลทางชีววิทยาเบื้องหลังเรื่องนี้คืออะไร
เคยสังเกตมั้ย? เพราะอะไร สัตว์กินพืชมักมีขนาดใหญ่กว่าสัตว์กินเนื้อ
สัตว์กินพืชตัวใหญ่กว่าสัตว์กินเนื้อ
สัตว์กินพืชต้องมีขนาดใหญ่เพื่อป้องกันตัวเอง
สัตว์กินพืช (herbivores) ส่วนใหญ่ไม่มีอาวุธไว้ป้องกันตัว เช่น เขี้ยวหรือกรงเล็บ พวกมันจึงต้องพึ่ง “ขนาดตัว” เพื่อความปลอดภัย ร่างกายที่ใหญ่และแข็งแรงช่วยให้สัตว์เหล่านี้สามารถหลบเลี่ยงนักล่าได้ หรือบางครั้งแค่มีขนาดตัวใหญ่ ก็ทำให้นักล่าต้องลังเลที่จะเข้าโจมตี เช่น สิงโตไม่ค่อยล่าช้างเต็มวัย เพราะช้างตัวใหญ่มากและต่อสู้ได้รุนแรง
ระบบย่อยอาหารของสัตว์กินพืชต้องใหญ่
อาหารหลักของสัตว์กินพืชคือ พืชใบ หญ้า และผลไม้ ซึ่งให้พลังงานน้อยกว่าพวกเนื้อสัตว์ การย่อยพืชให้ได้พลังงานจึงต้องใช้ระบบย่อยอาหารที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น กระเพาะหลายห้องในวัว หรือระบบหมักในลำไส้ของช้าง
สัตว์กินพืชจึงต้องมีร่างกายที่ใหญ่พอจะรองรับระบบย่อยเหล่านี้ รวมทั้งต้องกินอาหารในปริมาณมากกว่าสัตว์กินเนื้อ
สัตว์กินเนื้อเน้นความเร็ว ไม่เน้นขนาด
สัตว์กินเนื้อ (carnivores) ต้องล่าเหยื่อเพื่อกินอาหาร ดังนั้นสิ่งสำคัญไม่ใช่ขนาดตัวใหญ่ แต่เป็น “ความเร็ว ความคล่องแคล่ว และความแม่นยำ” เช่น เสือชีตาห์ (cheetah) เป็นสัตว์ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก แต่น้ำหนักตัวก็ไม่ได้มาก
หากตัวใหญ่เกินไปจะทำให้เคลื่อนไหวช้า จึงไม่เหมาะกับการล่าเหยื่อที่เคลื่อนไหวเร็ว
วิวัฒนาการและการปรับตัว
ขนาดตัวของสัตว์เป็นผลจากการวิวัฒนาการที่ยาวนาน สัตว์กินพืชต้องปรับตัวเพื่อป้องกันตัวเองให้รอดจากนักล่า ส่วนสัตว์กินเนื้อก็ต้องปรับตัวเพื่อให้ล่าเหยื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้สัตว์ทั้งสองกลุ่มมีลักษณะต่างกันชัดเจนตามหน้าที่และบทบาทของแต่ละชนิดในระบบนิเวศ
แม้ว่าสัตว์กินเนื้อจะกินอาหารที่ให้พลังงานมากกว่า แต่สัตว์กินพืชก็ยังมีแนวโน้มจะมีขนาดใหญ่กว่า เนื่องจากต้องใช้ร่างกายที่ใหญ่เพื่อป้องกันตัวเอง และมีระบบย่อยอาหารที่เหมาะกับพืชซึ่งย่อยยากกว่า การอยู่รอดในธรรมชาติไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า “ใครแข็งแรงกว่า” แต่ขึ้นอยู่กับว่า “ใครปรับตัวได้ดีกว่า” นั่นเอง