ดวงตากับปัญญาประดิษฐ์ อุปกรณ์ตรวจวัดสายตาเพื่อตรวจคัดกรองต้อหิน

ดวงตากับปัญญาประดิษฐ์ อุปกรณ์ตรวจวัดสายตาเพื่อตรวจคัดกรองต้อหิน

ดวงตากับปัญญาประดิษฐ์ อุปกรณ์ตรวจวัดสายตาเพื่อตรวจคัดกรองต้อหิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชายหนุ่มอัธยาศัยดีกับความมุ่งมั่นที่จะยกระดับการรักษาดวงตาคนไทย บอนด์ - กัญจน์พัฒน์ เตมหิวงศ์ นิสิตคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ชั้นปีที่ 6 ผู้สร้างโอกาสการเรียนรู้ในจุฬาฯ จากผู้ชนะดนตรีไทย“จามจุรีคีตประเลง” สู่อาสาสมัครให้คําแนะนําด้านสุขภาพและออกหน่วยบริการชุมชน รวมทั้งผู้ได้รับทุนโครงการเยาวชนรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2561

801692

Q : โครงการเยาวชนนี้มีความสำคัญอย่างไร
A : สิ่งที่ผมเสนอทุนเจ้าฟ้ามหิดล เป็นความฝันของผมที่อยากจะวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์เพื่อพัฒนาสาธารณสุขทางการแพทย์ไทย เพื่อใช้เทคโนโลยีความจริงเสมือนและปัญญาประดิษฐ์สร้างความเท่าเทียมสำหรับคนที่อยู่ในชนบทให้ได้รับการดูแลรักษาเท่ากับคนที่อยู่ในเมือง โครงการของผมมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Virtual Reality (VR) and Artificial Intelligent (AI) for Glaucoma Screening เป็นการพัฒนาอุปกรณ์ตรวจวัดสายตาร่วมกับโปรแกรมการแปลผลแบบอัตโนมัติเพื่อตรวจคัดกรองต้อหินให้ดียิ่งขึ้น

Q : ทำไมสนใจโรคต้อหิน
A : เพราะเป็นโรคที่ทำให้เกิดตาบอดอันดับหนึ่งของประเทศไทย และประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ดังนั้นมีแนวโน้มที่จะพบโรคต้อหินได้มากขึ้นเรื่อยๆ 90% ของผู้ที่เป็นโรคต้อหินไม่ได้รับการวินิจฉัย เพราะโรคต้อหินเป็นโรคที่ไม่แสดงอาการ ถ้าไม่ไปตรวจก็จะไม่เจอ จะมีอาการก็ต่อเมื่อสายตาเราแย่ใกล้บอดแล้ว

Q : อุปกรณ์นี้จะช่วยวงการแพทย์อย่างไร
A : ผมพยายามมองเรื่องการนำไปปฏิบัติจริง ก็คือต้องการพัฒนาอุปกรณ์ที่มีราคาถูกเพื่อจะได้กระจายไปทั่วทั้งประเทศ ถ้ามีอุปกรณ์ที่ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย เราก็จะสามารถเข้าไปคัดกรองผู้ป่วยได้มากขึ้นและสามารถนำผู้ป่วยเข้ามารักษาได้มากขึ้นครับ และผมก็พิจารณาพวกปัจจัยเสี่ยง ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ วิเคราะห์ด้วยว่าพื้นที่ไหนในประเทศมีความเสี่ยงสูงที่สุด เพื่อจะได้ทำการตรวจคัดกรองพื้นที่นั้นก่อน และส่งทีมงานเข้าพื้นที่นั้นให้มากขึ้นครับ

20181207_2_im01_hotnews

Q : เรียนหนัก งานหนัก สร้างสมดุลของชีวิตอย่างไร
A : ชีวิตคนเรามีหลายด้าน ผมใช้หลักการจัดเวลาว่าตอนนี้อยู่กับใคร ผมก็โฟกัสเพียงสิ่งนั้นสิ่งเดียว รวมถึงเวลาท่องเที่ยว พักผ่อนของตัวเอง แต่เรื่องครอบครัว ผมจะไม่ให้เสียไปเลย ถ้าเปรียบเหมือนคนเราโยนลูกบอลอยู่ 4-5 ลูกในชีวิต งานเหมือนเป็นลูกบอลยางที่ตกไปก็ไม่เป็นไร มันยืดหยุ่นได้ ถ้าเป็นเรื่องจิตใจ ครอบครัว มันเป็นเหมือนแก้วถ้าตกไปมันก็แตกครับ

Q : อะไรคือแรงบันดาลใจในการเรียนและการใช้ชีวิต
A : ผมเป็นผมทุกวันนี้เพราะพ่อแม่เกือบทั้งหมดเลย ทั้งการประพฤติตัว ทัศนคติ วิธีคิด ความมุ่งมั่นหรือว่าความเชื่อต่างๆ เป็นสิ่งที่ได้สอนมาตั้งแต่เด็กปลูกจิตสำนึกให้ เช่น
การเรียนเป็นเรื่องสำคัญ พ่อผมเวลาทำอะไรก็จะตั้งใจมุ่งมั่น ส่วนคุณแม่จะเป็นเรื่องของจิตใจ คอยถามเรื่องเพื่อนเรื่องชีวิตเป็นอย่างไงบ้างและตอนเด็กช่วยฝึกให้ผมมีระเบียบครับ

Q : มีหลักคิดในการใช้ชีวิตอย่างไร
A : ตั้งแต่เด็กแล้ว ผมชอบที่จะได้พัฒนาตนเองและเรียนรู้ ค้นหาความฝันของตัวเองให้เจอ เราเรียนรู้หลายๆ อย่างเพื่อจะตามหาสิ่งที่ตัวเองชอบ มีความชอบในสิ่งนั้นจริงๆ ก็จะมีความสุข ถ้าเราเชื่อว่าทำได้เราก็จะสามารถทำได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook