"นัน ไมค์ทองคำ" เปิดตัวตนหนุ่มมากความฝันจนกลายเป็นแชมป์ไมค์ทองคำ

"นัน ไมค์ทองคำ" เปิดตัวตนหนุ่มมากความฝันจนกลายเป็นแชมป์ไมค์ทองคำ

"นัน ไมค์ทองคำ" เปิดตัวตนหนุ่มมากความฝันจนกลายเป็นแชมป์ไมค์ทองคำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรียกว่าเป็นเด็กเก่งมากความสามารถเลยจริงๆ สำหรับ นัน ไมค์ทองำ หนุ่มน้อยจากจังหวัดตากที่นอกจากการร้องเพลงแล้ว ชีวิตของเขายังเรียกได้ว่าเป็นตัวอย่างของเด็กยุคใหม่ในการเรียน ในการพัฒนาตัวเองให้ไปถึงสิ่งที่ตัวเองตั้งเป้าหมายเอาไว้ และเขาก็สามารถทำมันได้ด้วยการฝึกฝนตัวเองจนกลายเป็นแชมป์ไมค์ทองคำนั่นเอง ในครั้งนี้ Sanook! Campus จะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับหนุ่มน้อยมากความสามารถคนนี้ให้มากขึ้นกันสักหน่อย

46008183_2309845805911518_392

นัน มีชื่อจริงว่า อนันต์ อาศัยไพรพนา ชื่อตามภาษาถิ่นของเขาคือ หย่อพอ เขามีอายุ 20 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.6 เพราะเข้าเรียนช้ากว่าปกติ ซึ่งโรงเรียนที่เรียนอยู่มีชื่อว่า โรงเรียนบ้านแม่อุสุวิทยา จังหวัดตาก โดยการทำงานตอนนี้ หากมีงานก็จะเดินทางเข้ามาทำงาน แต่ถ้าช่วงไหนไม่มีงานก็จะกลับไปเรียนตามปกติ

อยากให้เราเล่าเหตุการณ์การเข้ามาประกวดบนเวทีนี้จนกระทั่งได้แชมป์ ทุกอย่างมีจุดเริ่มต้นมาอย่างไรบ้าง ?

"ผมรู้จักรายการนี้มานานแล้วครับ รู้จักผ่านยูทูป แต่บังเอิญว่าเมื่อช่วงปีที่แล้วเป็นช่วงปิดเทอมพอดีและทางรายการเขาก็ได้เปิดรับออดิชั่นรอบพิเศษขึ้นมา คุณครูเขาก็เลยพานักเรียนรวมตัวกันไปสมัคร ซึ่งก็มีผมรวมอยู่ในนั้นด้วย (ยิ้ม) ถามว่าผมเป็นคนที่ชื่นชอบการร้องเพลงมาตั้งแต่แรกไหม เอ่อ...โดยนิสัยส่วนตัวผมแล้ว ผมเป็นคนที่ชื่นชอบการร้องเพลงฟังเพลงมาตั้งยังเด็กครับ เพียงแต่ว่าตอนนั้นผมอาจจะฟังเพลงไทยไม่ค่อยรู้เรื่อง เนื่องจากผมเกิดบนดอยและยังไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ จนกระทั่งโตขึ้นผมจึงได้มีโอกาสเรียนและเริ่มฝึกร้องโดยการฝึกสอนของคุณครูครับ เป็นคุณครูในโรงเรียนเก่าตอนที่ผมยังเรียนอยู่ชั้น ป.6 จนถึง ม.3 และพอย้ายโรงเรียนมาก็ไม่ได้ฝึกกับครูเลย"

"ซึ่งการร้องเพลงของผม เอาจริงๆ มันก็ไม่ถึงกับว่าเป็นการเรียนร้องเพลงนะครับ แต่มันจะเป็นในลักษณะของการร้องเล่นกับเพื่อนๆ ในห้องหรือร้องคาราโอเกะมากกว่า แต่ว่าพอมีงานร้องเพลงตามหมู่บ้านต่างๆ ที่จัดขึ้น เราก็จะเดินสายไปร่วมร้องเพลงในงานนั้นๆ ด้วยเหมือนกัน ซึ่งการใช้ภาษาของเรามันก็จะไม่ได้เป๊ะมากหรอก เนื่องจากภาษาที่เราใช้ทุกวันมันเป็นภาษาเผ่าที่ไม่ใช่ภาษาไทย"

19554477_2011681812394587_842

เราใช้เวลาในการฝึกเรื่องภาษาอยู่นานไหมกว่าจะเริ่มมั่นใจและเข้ามาประกวดในรายการนี้อย่างจริงจัง ?

"นานครับ เพราะจริงๆ ก่อนหน้านี้ก็มีหลายคนบอกให้ผมมาประกวดตั้งแต่ผมยังเรียนอยู่มัธยมต้นแล้วนะครับ แต่ตอนนั้นผมไม่กล้าเพราะผมรู้ว่ายังไงผมก็ไม่รอด เนื่องจากผมยังไม่พร้อม แถมประสบการณ์ก็ยังมีน้อยกว่าคนอื่นๆ เลยเลือกที่จะไม่ประกวดในตอนนั้นดีกว่า"

หากจะให้พูดถึงศิลปินที่เราชอบสักหนึ่งคนเราคิดว่าเราชอบใคร ?

"ผมชื่นชอบ พี่ก๊อต จักรพรรณ์ ครับ ชอบมาก ชอบเพลงของพี่ก๊อต รวมถึงชอบน้ำเสียงของพี่เขาด้วย อีกอย่างเพลงของเขาที่นำมาร้องก็ค่อนข้างที่จะเข้าได้กับปากของผม แต่ก็ไม่ได้ถึงกับว่าร้องได้ทุกเพลงนะครับ ผมร้องได้แค่บางเพลงเท่านั้น"

17800164_1964182393811196_725

ช่วงที่ประกวดเราเคยมีความรู้สึกท้อไหมเพราะดูเหมือนเราเองก็มีข้อจำกัดมากกว่าคนอื่นหลายๆ ด้าน ?

"ผมไม่ได้ท้อเลยครับ ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย เพราะผมไม่ได้หวังอะไรมากอยู่แล้ว ผมแค่หวังว่าผมจะได้ประสบการณ์จากการเข้ามาในรายการนี้เท่านั้นเอง แต่สุดท้ายพอผมได้เป็นแชมป์ มันก็รู้สึกว่าเกินกว่าเป้าหมายที่คิดเอาไว้มากครับ"

เราคิดว่าเพราะอะไรเราถึงได้แชมป์ในการประกวดครั้งนี้ ทั้งๆ ที่ข้อจำกัดของเราค่อนข้างเยอะ ?

"ผมมองว่ามันเป็นเพราะเหตุผลหลายๆด้านครับ ทั้งจากประชาชนและจากตัวผมเอง เนื่องจากว่ารอบสุดท้ายมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับกรรมการ แต่ว่าเป็นการโหวตของประชาชนที่เขาติดตามการประกวด ดังนั้นมันน่าจะเป็น เหตุผลทางด้านความรักความเอ็นดูมากกว่าครับที่เขามีให้กับผม"

14570351_1864959020400201_318

เห็นว่าโรงเรียนที่เราเรียนอยู่กับบ้านที่เราอาศัยอยู่ห่างกันมาก ?

"ใช่ครับผม ก็อยู่ห่างกันประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร แต่ผมจะโชคดีหน่อยตรงที่ผมได้ไปพักอยู่ในโรงเรียนพักนอน คล้ายๆ กับโรงเรียนประจำซึ่งโรงเรียนเขามีทุนให้ครับ โดยบางครั้งผมก็จะกลับบ้านในช่วงเสาร์อาทิตย์หรือไม่ก็จะกลับบ้านในช่วงปิดเทอมครับ"

ครอบครัวเราเป็นอย่างไรบ้าง และเราเป็นลูกคนที่เท่าไหร่ของบ้าน ?

"ผมคือน้องคนสุดท้องครับ ซึ่งผมมีพี่อีก 5 คนอยู่ที่บ้าน เป็นพี่สาว 3 คนพี่ชาย 2 คน แต่ว่าพวกเขาไม่ได้เรียนหนังสือนะครับ มีแค่ผมคนเดียวที่มีโอกาสได้เรียน เนื่องจากฐานะทางบ้านของเราค่อนข้างยากจน พ่อและแม่กับพี่ๆ ก็ช่วยกันทำนาทำไร่ปลูกข้าวกิน เป็นอาชีพหลักของบ้านเรา โดยที่ดินที่ใช้ก็จะต้องผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ในแต่ละปี เนื่องจากว่าเราไม่ได้มีที่ดินเป็นของตัวเอง"

24232961_2088915378004563_258

การเดินทางของเรา ถ้าหากจะต้องเดินทางออกจากหมู่บ้านต้องทำอย่างไร ?

"เดินอย่างเดียวครับ เดินออกมาจากหมู่บ้านเพื่อขึ้นรถโดยสารประจำทาง ถามว่าผมรู้สึกว่ามันลำบากไหม คือผมก็เฉยๆ นะ เพราะผมทำอย่างนี้มาตั้งแต่ยังเด็กๆ มันจึงเป็นเรื่องของความคุ้นชินมากกว่า และถึงแม้การที่ผมต้องใช้ชีวิตแบบนั้นสำหรับคนอื่นมันอาจจะดูลำบาก แต่ผมกลับมองว่ามันเป็นเรื่องสนุก เพราะถึงครอบครัวเราจะไม่ได้มีรายได้เข้ามา แต่เราก็ไม่ได้มีรายจ่ายที่จะต้องใช้จ่ายออกไปด้วยเหมือนกัน เนื่องจากว่าข้าวที่เราปลูก ผักที่เราหามากิน มันก็เพียงพอแล้วต่อการใช้ชีวิตของครอบครัวเรา การใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางป่าเขาสำหรับผมมันคือเรื่องที่สนุกมากครับ"

ถ้าเกิดเราไม่สบายหรือเจ็บไข้ได้ป่วยล่ะใครจะเป็นคนดูแล ?

"เราก็ต้องรักษาตามอาการครับ อย่างเช่น การหาสมุนไพรมารักษาตามภูมิปัญญา หรือการทานยาพาราเพื่อช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ซึ่งถ้าหากมันไม่ได้หนักหรือไม่ได้รุนแรงมาก เราก็เลือกที่จะไม่ไปหาหมอ เพราะสุดท้ายเดี๋ยวมันก็จะหายเอง"

คุณพ่อคุณแม่พูดถึงเรื่องที่เรามีความสนใจด้านการร้องเพลงอย่างไรบ้าง ?

"คุณพ่อคุณแม่ท่านจะประมาณว่า ถ้าเราอยากจะทำอะไรก็ปล่อยให้เราทำ ให้เราเลือกทำในสิ่งที่เรารัก ซึ่งท่านไม่เคยต่อว่าหรือเข้ามายุ่งเรื่องการร้องเพลงหรือการประกวดของผมเลย แต่ว่าตอนที่ผมได้เป็นแชมป์ท่านก็ดีใจนะ เพราะถึงแม้ท่านจะไม่ได้เข้ามายุ่งแต่ท่านก็ให้กำลังใจผมมาตลอด (ยิ้ม)"

51910929_2375620802667351_525

ช่วงที่เราเดินทางมาแข่งขันในกรุงเทพฯการเดินทางหรือที่พักเป็นอย่างไรบ้าง ?

"ผมเดินทางไปกลับตลอดครับ นั่งรถจากจังหวัดตากมากรุงเทพฯ และก็นั่งรถจากกรุงเทพฯ กลับจังหวัดตาก ทุกครั้งที่มีการซ้อม ซึ่งก็เป็นอย่างนี้อยู่ประมาณ 1 เดือน เป็นการเดินทางที่เหนื่อยมากๆ เพราะผมไม่มีเงินเช่าห้อง ต้องอาศัยคุณครูเป็นคนเดินทางมาส่งและเดินทางกลับ แต่ถ้า ไม่ใช่วันซ้อม แต่เป็นวันประกวด ผมก็จะมาค้างก่อน 1 วันครับ ค้างใกล้ๆ กับสถานที่จัดแข่งขัน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย จริงๆ ก็จะมีหลายคนคอยช่วยผมออกค่าใช้จ่ายตั้งแต่ที่เข้ามาประกวดแล้วครับ ทั้งจากโรงเรียนและจากแฟนคลับ (ยิ้ม) เหมือนทุกคนพยายามช่วยผลักดันให้ผมไปถึงฝัน"

วางแผนชีวิตหลังจากนี้เอาไว้อย่างไรบ้าง ?

"ก็ยังต้องร้องเพลงต่อไปครับ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง เพราะผมก็ไม่ได้อยากจะยึดการร้องเพลงเป็นอาชีพ ผมอยากจะทำงานที่มันมั่นคงมากกว่า เนื่องจากการเป็นนักร้องมันก็ไม่มีอะไรแน่นอน ในอนาคตเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราจะมีงานหรือเปล่า แต่ถ้าถามว่าหากผมจะต้องหยุดร้องเพลง ผมจะหยุดเพราะอะไร เอ่อ...ผมก็คงจะหยุดในวันที่ผมไม่มีแฟนคลับแล้วครับ ถ้าไม่มีพวกเขา ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปร้องให้ใครฟังอีก"

51499513_2365571957005569_278

เราบอกว่าเราอยากจะมีอาชีพที่มั่นคง เราได้คิดไว้ไหมว่าเราอยากจะเป็นอะไร ?

"ผมขอเป็นแค่มีสิ่งที่ผมสามารถทำได้ดีก็พอ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นหน้าที่การงานที่ใหญ่โต ขอแค่เลี้ยงชีพตัวเองได้ เท่านั้นผมก็มีความสุขแล้ว"

เรามีทั้งโอกาสเรียนหนังสือ มีโอกาสเข้ามาในวงการ เราคิดไหมว่าจะใช้โอกาสนี้ปรับเปลี่ยนคุณภาพชีวิตของเราและครอบครัว ?

"ตอนนี้ผมก็กำลังสร้างบ้านให้กับครอบครัวครับ เป็นบ้านที่ติดกับถนนใหญ่ และหลังจากที่สร้างบ้านเสร็จ ผมก็อยากจะช่วยให้พี่ๆ มีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ คืออาจจะไม่ได้ดีมากถึงมากที่สุด แต่ก็อยากจะให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งเรื่องนี้เธอเรื่องที่ผมคิดเอาไว้อยู่แล้ว"

52525529_2379219702307461_913

ตอนนี้เราเองก็กำลังจะเรียนจบแล้ว เริ่มมีแพลนที่จะเรียนต่อระดับปริญญาไว้ไหม ?

"วางแผนไว้แล้วเหมือนกันครับ คือผมก็จะเรียนต่อที่จังหวัดตากเหมือนเดิม ซึ่งที่คิดไว้ก็น่าจะเป็นสถาบัน วิทยาลัยนอร์ทเทิร์น ของตาก ผมอยากเรียนด้านการบริหารธุรกิจ ผมอยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ไม่อยากจะเป็นลูกจ้างของใคร (ยิ้ม)"

อยากให้เราให้กำลังใจกับทุกคนที่อาจจะมีข้อจำกัดเหมือนกับเรา เราอยากจะให้เขาต่อสู้กับข้อจำกัดนั้นอย่างไรบ้าง ?

"ก็อยากจะบอกกับทุกคนว่า หากเราจะทำอะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเราต้องรักมันก่อน หากเราไม่รักสิ่งที่เราจะทำ เราก็อย่าทำมันเลยดีกว่า เพราะมันจะเสียเวลาเปล่าๆ และถ้าหากเราทำมันแล้วแต่มันยังไม่สำเร็จ ก็อย่าไปเสียใจ เพราะตัวผมเองก็ยังไม่ได้สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ กว่าที่ผมจะมีวันนี้ได้ผมก็ทางดิ้นรนและเสียใจแล้วมาก็หลายครั้ง ผมเองก็ใช้เวลาหลายปีครับกว่าจะได้เข้ามายืน ณ จุดนี้ได้ ดังนั้นผมจึงอยากให้ทุกคนทำในสิ่งที่ตัวเองรักให้เต็มที่ และสู้กับอุปสรรคด้วยความพยายามของเราครับ ผมเชื่อว่าสุดท้ายแล้วผลลัพธ์ที่ได้ มันย่อมดีกว่าการที่เราอยู่เฉยๆ อย่างแน่นอน"

อัลบั้มภาพ 30 ภาพ

อัลบั้มภาพ 30 ภาพ ของ "นัน ไมค์ทองคำ" เปิดตัวตนหนุ่มมากความฝันจนกลายเป็นแชมป์ไมค์ทองคำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook