วิธีการเตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศ สำหรับวัยรุ่นยุคใหม่

วิธีการเตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศ สำหรับวัยรุ่นยุคใหม่

วิธีการเตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศ สำหรับวัยรุ่นยุคใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปัจจุบันการไปเรียนต่อต่างประเทศยังคงเป็นความฝันของใครหลายๆคน เพราะการที่ได้ไปเรียนต่อในต่างแดนนั้น นอกจากจะได้ภาษาอังกฤษ หรือภาษาที่สามเพิ่มแล้ว ยังได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากประเทศไทยอีกด้วย แต่การไปเรียนต่างประเทศจะว่าเป็นเรื่องง่ายก็ไม่ง่าย หรือจะว่ายากมันก็ไม่ยากขนาดนั้น ทาง Sanook! Campus เลยจะมาแชร์ “วิธีการเตรียมตัวไปเรียนต่อจากประเทศ” ให้นักเรียน นักศึกษาทุกคนได้เรียนรู้กันค่ะ

istockphoto

1. เลือกเป้าหมายที่จะไปให้ชัดเจน
อันดับแรกต้องเลือกเป้าหมายที่เราจะไปศึกษาต่อซะก่อน อาจจะเริ่มต้นด้วยประเทศที่เราชอบเช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือ นิวซีแลนด์ เป็นต้น หลังจากนั้นให้ลองศึกษาดูว่ามีมหาวิทยาลัยไหนที่น่าสนใจบ้าง ดูสาขาที่ต้องการจะเรียนต่อด้วยว่ามีสาขาที่เราต้องการเรียนหรือใกล้เคียงกับที่เราเรียนมาไหม นอกจากนี้อย่าลืมดูคุณสมบัติของผู้สมัครด้วย แต่ถ้าหากใครต้องการ “ทุนการศึกษา” ก็ต้องดูว่ามีการจัดสอบที่ประเทศไทยไหมหรือเกณฑ์ในการพิจารณาทุนมีอะไรบ้าง

2. คำนวณค่าใช้จ่าย
ปัจจัยหลักในการไปศึกษาต่อต่างประเทศคือ “เงิน” เมื่อได้มหาวิทยาลัยที่ต้องการจะเข้าเรียนแล้ว ให้คำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆเช่น ค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าเดินทางต่างๆ ค่าเทอม หากได้ทุนการศึกษาก็ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายส่วนตัวไปด้วยนะ เพราะการที่เราต้องไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศโดยห่างจากครอบครัวปัจจัยทางการเงินเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยละ

3. เตรียมตัวสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ
การที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศได้นั้น ภาษาอังกฤษ ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยส่วนมากเอกสารที่ต้องยื่นต่อทางมหาลัยมักจะมีใบรับรองในการสอบวัดภาษภาษาอังกฤษอีกด้วย ดังนั้นเราควรที่จะเตรียมตัวในเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษและดูว่าเขาต้องการใบรับรองของอะไร คะแนนเท่าไหร่ ซึ่งการสอบวัดภาษาภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยส่วนมากจะใช้หลักๆมีดังนี้

3.1 TOEFL (Test of English as a Foreign Language) หรือที่เราเรียกกันว่า “โทเฟล” ส่วนใหญ่จะ ใช้สำหรับการศึกษาต่อในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ในปัจจุบันมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศส่วนใหญ่ ก็ยอมรับผลสอบ TOEFL ในการรับสมัครแล้ว ซึ่งการทดสอบจะมีทั้ง 4 ทักษะคือฟัง พูด อ่าน และเขียน โดยแต่ละส่วนจะมีคะแนนให้ 30 คะแนน รวมทั้งหมดเป็น 120 คะแนน

3.2 IELTS (International English Language Testing System) หรือ “ไอเอลส์” เป็นการวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษทั่วไป และผู้ที่สนใจไปเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งการทดสอบจะมีทั้ง 4 ทักษะฟัง พูด อ่าน และเขียน ส่วนคะแนนของ IELTS จะแตกต่างออกไปโดยจะเปรียบเทียบผลเป็น 9 ระดับ ระดับ 1 เป็นระดับที่ต่ำที่สุด และระดับ 9 ระดับที่สูงที่สุดซึ่งหมายถึงสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ยอดเยี่ยมนั่นเอง ส่วนมาก IELTS จะใช้สำหรับศึกษาต่อในประเทศฝั่งยุโรปมากกว่า โดยคะแนนที่ต้องการส่วนมากจะเป็น 5.5 ขึ้นไป

4. เตรียมเอกสารให้เรียบร้อย
เป็นสิ่งที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบเป็นอย่างมากสำหรับการเตรียมเอกสารต่างๆ ในทีนี้รวมไปถึงเอกสารในการขอ “วีซ่า” อีกด้วย ต้องเช็คให้ดีๆว่าต้องใช้วีซ่าประเภทไหน มีเอกสารอะไรที่ต้องเตรียมบ้าง และอย่าลืมใบที่ต้องขอจากทางโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยอย่าง ใบรับรองผลการเรียน(Transcript) และ ใบรับรองการเป็นนักศึกษา ด้วยนะคะ นอกจากนี้เอกสารไหนที่ต้องทำเป็นภาษาอังกฤษก็ต้องทำให้เรียบร้อยด้วยนะ สำหรับการตรวจสอบว่าต้องใช้อะไรบ้างสามารถดูได้จากเว็บไซด์ของมหาลัยได้เลยค่ะ

5. เตรียมสภาพร่างกายและเตรียมใจ
เมื่อทุกอย่างผ่านเรียบร้อยรอวันติดปีกบินแล้ว อย่าลืมที่จะดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองให้ดีๆนะคะ จัดกระเป๋าเสื้อผ้าและยาที่จำเป็นด้วย นอกจากนี้ก็ต้องเตรียมใจของเราให้พร้อมด้วย เพราะเราจำเป็นต้องห่างจากครอบครัวไปเป็นระยะเวลาหนึ่งเลยทีเดียว ดังนั้นใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่านะคะ

และนี่คือวิธีที่เรานำมาบอกต่อทุกคน อ่อ! อย่าลืมดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นที่จำเป็นด้วยนะคะ เช่น เส้นทางรถไฟ หรือ แอปตัวช่วยภาษาอังกฤษต่างๆ เพราะมีเทคโนโลยีแล้วเราก็ต้องใช้ให้คุ้มเนอะ!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook