สรุปสเปก All-new Ford Ranger Raptor ใหม่ ก่อนวางขายจริงปี 2023 นี้

     สรุปสเปก All-new Ford Ranger Raptor เจเนอเรชันที่ 2 ใหม่ ก่อนมีกำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการภายในปี 2023 ที่จะถึงนี้ มีอะไรแตกต่างไปจากโฉมปัจจุบันบ้าง?

     All-new Ford Ranger Raptor เจเนอเรชันใหม่ ยังคงยึดแนวคิดการพัฒนาให้เป็นรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง โดยฟอร์ดระบุว่า “เป็นกระบะตระกูลเรนเตอร์ที่อัดแน่นด้วยสมรรถนะขั้นสูงสุดเท่าที่ฟอร์ดเคยพัฒนา” พร้อมทั้งเพิ่มทางเลือกด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบคู่ V6 EcoBoost ความจุ 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 397 แรงม้า จากเดิมที่มีให้เลือกเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo ความจุ 2.0 ลิตรเท่านั้น (ขึ้นอยู่กับตลาดแต่ละประเทศ)

เครื่องยนต์

     เครื่องยนต์เบนซิน V6 EcoBoost ขนาด 3.0 ลิตร ที่วางอยู่ใน Ranger Raptor เจเนอเรชันที่ 2 ให้กำลังสูงสุด 397 แรงม้า (PS) ที่ 5,650 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 583 นิวตัน-เมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มาพร้อมระบบป้องกันการรอรอบ (Anti-Lag System - ALS) เป็นส่วนหนึ่งของโหมด Baja โดยจะรักษาการหมุนของเทอร์โบชาร์จต่อเนื่องอีก 3 วินาที หลังจากผู้ขับขี่ปล่อยคันเร่ง เพื่อให้สามารถเร่งออกจากโค้งได้อย่างรวดเร็ว

โหมดการขับขี่

     Ford Ranger Raptor ใหม่ จะมีโหมดการขับขี่ให้เลือก 7 โหมด แบ่งออกเป็นโหมดการขับขี่ทางเรียบ ประกอบด้วย โหมดปกติ, โหมดสปอร์ต และโหมดทางลื่น รวมถึงโหมดการขับขี่ออฟโรดอีก 4 โหมด ได้แก่ โหมดหิน, โหมดทราย, โหมดโคลน และโหมดบาฮา

     นอกจากนี้ Ranger Raptor ใหม่ ยังถูกเพิ่มเติมด้วยระบบควบคุมความเร็วสำหรับการขับขี่ออฟโรด (Trail Control) ทำหน้าที่เสมือนระบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติสำหรับการขับขี่ออฟโรดที่ความเร็วไม่เกิน 32 กม./ชม. โดยตัวรถจะควบคุมการเร่งความเร็วและการเบรก เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถโฟกัสกับการควบคุมพวงมาลัยได้อย่างเต็มที่

     ไม่เพียงเท่านี้ Ranger Raptor ยังติดตั้งระบบท่อไอเสียควบคุมด้วยไฟฟ้า สามารถปรับเสียงได้ถึง 4 โหมด ได้แก่ โหมดเงียบ, โหมดปกติ, โหมดสปอร์ต และโหมดบาฮา ซึ่งจะให้ความทุ้มและความดังสูงสุดสำหรับการขับขี่ออฟโรดเท่านั้น

ช่วงล่าง

     ช่วงล่างของ Ford Ranger Raptor ใหม่ ถูกออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมดด้วยปีกนกบนและล่างทำจากวัสดุอะลูมิเนียม ติดตั้งโช้คอัป Live Valve แบบ Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว จาก FOX ที่ช่วยลดการสะเทือนตามการเคลื่อนไหวของตัวรถ พร้อมทั้งเลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นผสม Teflon ที่ลดการเสียดสีลงได้ 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยช่วงล่างชุดดังกล่าวจะปรับเปลี่ยนการทำงานตามโหมดการขับขี่อีกด้วย

     นอกจากนี้ Ranger Raptor ใหม่ ยังถูกติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะแบบตลอดเวลา โดยใช้ระบบเกียร์ไฟฟ้าที่ปรับได้ 2 ระดับ พร้อมระบบควบคุมเฟืองท้ายคู่หน้าและหลังแบบ Locking differential เป็นครั้งแรก
บริเวณใต้ห้องเครื่องยนต์มีการติดตั้งแผ่นกันกระแทกขนาดใหญ่เกือบ 2 เท่าของขนาดปกติที่ใช้กับ Ranger โดยทำจากวัสดุเหล็กที่มีความหนา 2.3 มิลลิเมตร ช่วยเสริมการปกป้องชิ้นส่วนสำคัญ เช่น หม้อน้ำ, ระบบบังคับเลี้ยว, คานด้านหน้า, อ่างน้ำมันเครื่อง และชุดเฟือง

อุปกรณ์มาตรฐาน

     Ford Ranger Raptor เจเนอเรชันที่ 2 ติดตั้งไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED และไฟเลี้ยวแบบไดนามิก เสริมด้วยระบบไฟสูงแบบปรับระดับแสงอัตโนมัติเพื่อป้องกันแยงสายตาผู้ร่วมทาง ด้านข้างติดตั้งบันไดทำจากอะลูมิเนียม และด้านหลังติดตั้งไฟท้ายที่ออกแบบให้กลมกลืนไปกับไฟหน้า พร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และยาง All-terrain BFGoodrich KO2

     ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งรายละเอียดด้วยสีส้ม โค้ด ออเรนจ์ บนแผงหน้าปัด เสริมความหรูหราอีกขั้นด้วยพวงมาลัยหนังเกรดพรีเมียมพร้อมแถบบอกตำแหน่งองศา (On-centre Mark) และแป้นเปลี่ยนเกียร์เคลือบแมกนีเซียม พร้อมด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.4 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสขนาด 12 นิ้ว รองรับระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนระบบ iOS และ Android ขับกำลังเสียงผ่านลำโพง Bang & Olufsen 8 ตำแหน่งรอบคัน

     ส่วนกำหนดการวางจำหน่าย All-new Ford Ranger Raptor ใหม่ จะมีขึ้นภายในปี 2023 ที่จะถึงนี้