คาราวานไฮลักซ์ รีโว่ in อิหร่าน! เคลียร์หมดทั้งเส้นทางภูเขาและทะเลทราย

คาราวานไฮลักซ์ รีโว่ in อิหร่าน! เคลียร์หมดทั้งเส้นทางภูเขาและทะเลทราย

คาราวานไฮลักซ์ รีโว่ in อิหร่าน! เคลียร์หมดทั้งเส้นทางภูเขาและทะเลทราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

          ผ่านครึ่งทางมาแล้วกับทีมคาราวานไฮลักซ์ รีโว่ ที่ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มาถึงเติร์กเมนิสถาน ประเทศสุดท้ายที่แวะในเอเชียกลาง จากประเทศที่แทบไม่มีใครมีข้อมูลอะไรนอกเหนือไปจากที่เคยเสิร์ชดูในอินเตอร์เน็ต แต่ถึงตอนนี้กลายเป็นว่าทุกคนประทับใจกับความสวยงามของเมืองและมิตรไมตรีของคนในประเทศนี้เอามากๆ

          และในวันที่ 22 ของการเดินทางก็ได้เวลาบอกลาชาวเติร์กเพื่อเตรียมตัวมุ่งหน้าสู่อิหร่าน ประเทศต่อไปบนแผนที่การเดินทาง และเป็นการข้ามแดนเข้าสู่เอเชียตะวันตกอย่างเป็นทางการด้วย 

          ประเทศอิหร่าน หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า เปอร์เซีย นั้น มีความสำคัญมายาวนานแล้ว ด้วยพิกัดที่ตั้งอยู่ใจกลางยูเรเซียและเอเชียตะวันตก ทั้งยังอยู่ใกล้กับช่องแคบฮอร์มุซ ทำให้ในอดีตเปอร์เซียเป็นเมืองที่มีอิทธิพลในเส้นทางสายไหมมาก ยังไม่รวมถึงการแสวงหาความมั่งคั่งจากเส้นทางการค้าทางทะเล ที่มีอ่าวเปอร์เซียเป็นตัวเชื่อมระหว่างทะเลกับเส้นทางสายไหมนั่นเอง

          ทันทีที่ผ่านชายแดนอิหร่านเข้ามา คาราวานไฮลักซ์ รีโว่ ก็ต้องเจอกับการรับน้องด้วยสภาพถนนคดเคี้ยวและขึ้น-ลงเขาตลอดทาง ท้าทายระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน หรือ DAC ด้วยการควบคุมแรงดันเบรกที่ล้ออัตโนมัติ ช่วยให้ความเร็วขณะเคลื่อนลงเนินชันสม่ำเสมอโดยไม่ต้องแตะเบรก ทีมคาราวานจึงยังสามารถชื่นชมสองข้างทางที่เป็นทะเลทรายสลับกับหุบเขาได้โดยไม่ต้องพะวงกับสภาพถนนเท่าไหร่นัก

          คาราวานไฮลักซ์ รีโว่ จบการเดินทางวันนี้ที่เมืองมัชฮัด เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิหร่าน โปรแกรมวันนี้ถือว่าไม่แน่นเท่าไหร่ เพราะต้องเก็บพลังส่วนหนึ่งไว้สำหรับการเดินทางไกลในวันรุ่งขึ้นที่มีระยะทาง 930 กิโลเมตรรอยู่!

          อย่างที่บอกว่าระยะทางของวันที่ 23  นี้ไม่ใช่เรื่องหมูๆ ทีมคาราวานจึงออกเดินทางจากเมืองมัชฮัดกันแต่เช้า ปลายทางของวันนี้คือเมืองยาซ์ด เมืองที่มีประวัติมานานกว่า 5,000 ปี นอกจากความท้าทายเดิมอย่างถนนคดเคี้ยว การขึ้น-ลงเขาจะยังอยู่ครบ วันนี้ทีมคาราวานยังต้องรับมือกับอากาศร้อนระอุของทะเลทราย ซึ่งจะว่าไปแล้วตั้งแต่ออกจากคีร์กีซสถานมาเมื่อหลายวัน ไฮลักซ์ รีโว่ทุกคัน ก็ต้องวิ่งในสภาพอากาศแบบนี้ตลอดทาง แต่ก็ยังไม่มีคันไหนออกอาการอะไรแม้แต่น้อย ซึ่งเรื่องนี้ยกเครดิตให้กับความทนทานของเครื่องยนต์ใหม่ GD Efficient Boost ที่ลุยได้ทุกสภาพอากาศ

          นอกจากเครื่องยนต์ที่ช่วยให้ทีมคาราวานสู้กับอากาศร้อนขั้นโหดได้แล้ว ภายในห้องโดยสารยังมีระบบปรับอากาศที่ทำงานได้ดีและช่องเก็บรักษาความเย็นที่ตุนเครื่องดื่มโปรดไว้ได้ตลอดวัน ทั้งยังมีช่วงล่าง DCS หนึบและยังนุ่มนวล ลดแรงสั่นสะเทือนได้ในสภาพถนนขรุขระ ทีมคาราวานของเราจึงไม่ล้ากันทั้งที่ต้องเดินทางไกลมาก

         ขับรถกันมาตลอดวัน คาราวานไฮลักซ์ รีโว่ ก็มาถึงเมืองยาซ์ดตอนพระอาทิตย์ตกดินพอดี โปรแกรมการสำรวจเมืองยาซ์ดจึงไปอยู่ในช่วงเช้าของวันที่ 24 ของทริป ซึ่งเช้าวันนี้ทีมคาราวานเริ่มจากการแวะที่จัตุรัส Amir Chakhmagh ที่นี่เป็นที่ตั้งของมัสยิด อ่างอาบน้ำโบราณในอดีต และยังเป็นจุดแวะพักของคาราวานในยุคทองของเส้นทางสายไหม



         สัมผัสวิถีชีวิตของชาวเมืองนี้แล้ว ก็ได้เวลาเดินทางต่อไปยังเมืองชีราซที่ห่างออกไปประมาณ 400 กว่ากิโลเมตร ระหว่างทางทีมคาราวานแวะที่เพอร์เซโปลิส โบราณสถานสำคัญแห่งหนึ่งของโลก ที่อดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเปอร์เซียในยุคที่เปอร์เซียเรืองอำนาจ ความสวยงามและความอลังการที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีตทำให้ทีมคาราวานอยู่สัมผัสประวัติศาสตร์ของเมืองนี้อยู่จนค่ำ ก่อนจะออกเดินทางไปยังเมืองชีราซที่อยู่ใกล้ๆ กันและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางวันต่อไป

         เข้าวันที่ 25 แล้ว ทีมคาราวานยังคงอยู่กันที่ประเทศอิหร่าน แผนการเดินทางของวันนี้เป็นแบบซอฟท์ๆ เพราะอยากให้คณะคาราวานได้มีจังหวะพักบ้าง ก่อนจะออกเดินทางไปยังเมืองอีสฟาฮาน อีกหนึ่งเมืองที่เป็นศูนย์กลางการค้าขายและเป็นเมืองที่ใหญ่รองจากเมืองหลวงอย่างเตหะราน

          สภาพถนนในอิหร่านยังคงความเสมอต้นเสมอปลาย มาเต็มทั้งทางโค้ง ทางขึ้น-ลงเขา ถนนสี่เลน และถนนสองเลน วันนี้ทีมคาราวานได้ลองใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) กัน ระบบนี้ช่วยผ่อนแรงด้วยการรักษาความเร็วคงที่โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง เรียกว่ามาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่จริงๆ

          ทีมคาราวานมาถึงเมืองอีสฟาฮานตั้งแต่ช่วงบ่าย เลยมีเวลาเดินเล่นเพื่อสัมผัสกับวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนที่นี่ เริ่มจากสะพานคาจู สะพานเก่าแก่ที่สร้างมานานกว่า 300 ปี ต่อด้วยจัตุรัสนัค เอ ฌะฮาน ที่ครองตำแหน่งจัตุรัสที่มีพื้นที่มากเป็นอันดับสองของโลก เป็นรองก็แต่จัตุรัสเทียนอันเหมินของจีน 

          เสน่ห์อีกอย่างของเมืองอีสฟาฮานอยู่ที่ช่วงเย็น ซึ่งจะได้เห็นภาพวิถีชีวิตของคนที่นี่มากขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่จะออกมาพักผ่อนหย่อนใจกันทั่วบริเวณจัตุรัส มีครบทั้งพ่อแม่ลูกจูงมือกันมาเป็นครอบครัว เพื่อนฝูงที่มาปั่นจักรยานเฮฮากัน และคู่รักที่มาปิคนิคมื้อเย็นหลังเลิกงาน เป็นมุมน่ารักๆ ของอิหร่านที่คนไม่เคยมาอาจจะนึกไม่ถึงมาก่อน

          วันที่ 26 ของการเดินทางและวันที่ 5 ของการสัมผัสวิถีชีวิตคนอิหร่าน เป้าหมายของวันนี้คือเมืองเตหะราน เมืองหลวงของประเทศ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองอีสฟาฮานออกไป 515 กิโลเมตร

          วันนี้มีเรื่องตื่นเต้นกันเล็กน้อยเพราะรถคันหนึ่งในทีมคาราวานขับทับอะไรสักอย่างบนถนนจนทำให้ยางรั่ว แต่ไฮลักซ์ รีโว่ Mobile Service ก็ช่วยแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงทีและเดินทางกันต่อไปได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว

          จริงๆ แล้วเรื่องยางรั่วเป็นแค่อุปสรรคเบาๆ เท่านั้น เพราะของจริงคือเส้นทางไปยังหมู่บ้านอะบียาเนห์ที่ต้องไต่ขึ้น-ลงเขาและทางโค้งสุดหิน แต่ด้วยความหนึบกับประสิทธิภาพในการเข้าโค้งช่วงล่าง DCS ที่ทั้งแกร่งและเกาะถนนแน่น ก็ทำให้ทีมคาราวานเคลียร์อุปสรรคนี้ได้จนถึงหมู่บ้านอะบียาเนห์ หมู่บ้านเก่าแก่อายุกว่า 2,500 ปีที่ใช้อิฐและดินดิบเป็นวัสดุในการก่อสร้าง 

          หลังจากมื้อกลางวันที่หมู่บ้านนี้ ทีมคาราวานเดินทางกันต่อในสภาพเส้นทางที่ราบกึ่งทะเลทรายที่ดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ของอิหร่าน แต่พอใกล้ถึงเตหะราน สภาพถนนก็เปลี่ยนไปคล้ายกับเมืองใหญ่ในหลายๆ ประเทศที่จอแจและวุ่นวาย ปาดหน้า ปาดหลัง ปาดซ้าย ปาดขวากันแบบไม่ยั้ง ทำให้ทีมคาราวานต้องใช้ระบบเบรคและการเร่งเครื่องยนต์ตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

          มาถึงเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศแถบตะวันออกกลางอย่างเตหะรานแล้ว มั่นใจได้เลยว่าจะต้องมีอะไรมันๆ เจ๋งๆ รอคาราวานไฮลักซ์ รีโว่ อยู่แน่ๆ เพราะฉะนั้นอย่าพลาดการเกาะติดทริปประวัติศาสตร์ครั้งนี้ทาง www.toyota.co.th/hiluxrevocaravantrip หรือที่ทางเฟซบุ๊ก www.facebook.com/toyotahiluxthailand นอกจากนี้ยังสามารถร่วมสนุกกับแคมเปญ “อ่านแล้วแชร์” แค่คลิกแชร์แล้วใส่ #hiluxrevocaravantrip เพื่อลุ้นรับกล้อง GoPro Hero4 และของรางวัลอื่นๆ อีกมาก

 

 

[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook