จับตาอุตฯรถยนต์ปีแพะ ฝุ่น-ควัน...ยังตลบอบอวล

จับตาอุตฯรถยนต์ปีแพะ ฝุ่น-ควัน...ยังตลบอบอวล

จับตาอุตฯรถยนต์ปีแพะ ฝุ่น-ควัน...ยังตลบอบอวล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ผ่านพ้นไปอีกปีสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ยอดขายรถยนต์ในปี 2557 ที่ผ่านมาไม่ได้เป็นอย่างที่หลายคนคาดหวัง จากที่ประเมินกันว่าน่าจะเป็นปีแห่งการ "ฟื้นตัว" โดยฟันธงตัวเลขยอดขายกันทั้งปียังไงก็ทะลุล้านคัน


     หลังจากก่อนหน้านั้นอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเผชิญปัญหา 2 เด้ง จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ทำให้ภาคอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์สะดุด ซึ่งไม่เฉพาะแต่ประเทศไทย แต่สะเทือนเลื่อนลั่นไปทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์โลก เพราะระบบซัพพลายเชนชิ้นส่วนยานยนต์หลัก ๆ อยู่ในบ้านเรา

     บวกเด้งที่สอง ผลกระทบนโยบายคืนภาษีรถยนต์คันแรก ที่บิดเบือนตลาดจนทำให้ผู้ประกอบการประเมินตลาดผิดพลาด เกิดภาวะโอเวอร์สต๊อก

     แม้ว่าทุกค่ายรถยนต์จะพยายามกระตุ้นตลาด สร้างบรรยากาศในการซื้อขาย รวมทั้งมีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ เพิ่มเซ็กเมนต์รถใหม่ออกสู่ตลาด แต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายยอดขายรวมก็ทำได้ไม่ถึง 9 แสนคัน

     หลายค่ายบาดเจ็บ แต่ผู้บริหารส่วนใหญ่ยอมรับความจริง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น มาจากปัจจัยที่เหนือการควบคุม ตั้งแต่ความวุ่นวายทางการเมือง ความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ

 

     ทุกคนพูดคล้าย ๆ กัน "ปีหน้า (2558) ว่ากันใหม่" โดยเชื่อว่าตลาดน่าจะสดใสกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งปัญหาการเมืองที่เริ่มคลี่คลาย การปิดฉากอย่างสมบูรณ์แบบของโครงการรถคันแรก และปี 2558 น่าจะเป็นปีที่ค่ายรถยนต์ทยอยออกรถใหม่กันอุตลุด รวมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)

     บทเรียนนโยบายรถคันแรก ที่ทำให้ทั้งอีโคคาร์ เก๋งเล็ก และปิกอัพที่ราคาไม่เกินแสนบาท ทรุดตัวอย่างหนักในปี 2557 ทำให้หลายค่ายพลิกเกมหันมานำเสนอรถยนต์ในเซ็กเมนต์ใหม่ ๆ

 

     โดยเฉพาะรถยนต์กลุ่ม "ครอสโอเวอร์" สร้างสีสันและความร้อนแรงให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ ไล่เรียงตั้งแต่ นิสสัน จู๊ค ตามมาด้วยฟอร์ด เอคโคสปอร์ต, มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 และล่าสุด ฮอนด้า เอชอาร์-วี

     เชื่อว่าความสดใหม่และอรรถ ประโยชน์ในการใช้งาน น่าจะทำให้ตลาดรถยนต์กลุ่มนี้ขยับขึ้นมาเบียดรถยนต์ในกลุ่มซับคอมแพ็กต์ (รถยนต์นั่งขนาดเล็ก)

     ส่วนเซ็กเมนต์รถยนต์นั่งขนาดกลางก็ยังไม่ละความพยายาม เดินเครื่องเปิดไลน์ผลิตกันอย่างต่อเนื่อง ทั้ง "เอ็มจี 6" ยนตรกรรมสัญชาติอังกฤษ และ มาสด้า3 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ รวมถึงการลงทุนตั้งโรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัติอีกหลายหมื่นล้าน ขณะที่นิสสันก็เปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห่งที่ 2 ผลิตรถปิกอัพนิสสัน นาวาร่า รุ่นใหม่

 

     อีกปัจจัยหนึ่งซึ่งหลายคนคาดหวังว่าตลาดรถยนต์ปี 2558 น่าจะฟื้นตัวจากแรงหนุนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ที่อนุมัติอีโคคาร์เฟส 2 รวมทั้งสิ้น 9 ราย ทั้ง มาสด้า, ฟอร์ด, เชฟโรเลต, นิสสัน, มิตซูบิชิ, ฮอนด้า, ซูซูกิ, เอ็มจี และโตโยต้า โดยคาดว่าจะมีการลงทุนไม่น้อยกว่า 138,889 ล้านบาท

     ซึ่งมาสด้าขอใช้สิทธิ์นั้นทันที จับนิวมาสด้า2 สกายแอคทีฟ เครื่องยนต์ดีเซลเข้าร่วมโครงการ เตรียมเปิดราคาอย่างเป็นทางการ กลางเดือนมกราคม 2558 ด้วยยอดจองและพร้อมส่งมอบลอตแรก 2,000 คัน

 

     แต่ไม่ว่าความพยายามของค่ายรถยนต์จะเปิดฉากช่วงชิงตลาดกันหนักหน่วงแค่ไหน สิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณานั่นก็คือดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมยานยนต์

     ซึ่งล่าสุดจากการประกาศตัวเลขประมาณการผลิตรถยนต์ของกล่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย คาดว่ายอดผลิตในปี 2558 มีแค่ 2.2 ล้านคัน แบ่งเป็นตลาดส่งออก 1.2 ล้านคัน และรองรับความต้องการภายในประเทศแค่ 1 ล้านคัน

     โดยตัวเลขนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่พยายามผลักดันมาตั้งแต่กลางปี 2557 ต้องสัมฤทธิผลทุกโครงการไม่เช่นนั้น ความสดใสของตลาดในปี 2558 ก็ยังดูขมุกขมัว

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook