15 เทคนิคบรรเทาอาการแพ้ท้อง

15 เทคนิคบรรเทาอาการแพ้ท้อง

15 เทคนิคบรรเทาอาการแพ้ท้อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การตั้งครรภ์นั้นเป็นช่วงเวลาที่น่าอัศจรรย์ มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ และสิ่งหนึ่งที่คุณแม่หลาย ๆ คนต้องเจอก็คืออาการแพ้ท้องนั่นเอง Dr. Marjorie Greenfield ผู้แต่งหนังสือ The Working Woman's Pregnancy Book บอกว่า ประมาณร้อยละ 70 ของหญิงตั้งครรภ์ มีอาการแพ้ท้อง และประมาณร้อยละ 50 แพ้ถึงขั้นอาเจียน

ดังนั้น การแพ้ท้องแม้จะเป็นเรื่องแปลก แต่ก็เป็นเรื่องที่แม่ทุกคนรู้ดีอยู่แล้ว บางคนมีอาการแพ้ทั้งวัน บางคนก็แพ้เฉพาะในช่วงเช้า บางคนก็มีอาการเฉพาะเวลาที่พักผ่อนไม่เพียงพอ อาการแพ้ท้องอาจจะเริ่มขึ้นเมื่อการตั้งครรภ์เข้าสู่สัปดาห์ที่ 6 และจะมีอาการมากในช่วงสัปดาห์ที่ 8 และ 9 แต่อย่างไรก็ตาม เราสามารถรับมือกับอาการนี้ได้ ด้วยเทคนิคที่ทั้งแพทย์ และทั้งผู้มีที่มีประสบการณ์ช่วยกันแนะนำมา ดังนี้

-           อย่ายุ่งอยู่แต่กับงาน : ถ้าเราต้องตื่นขึ้นมา แล้วลากตัวเองไปทำงานทั้ง ๆ ที่มีอาการคลื่นไส้เวียนศีรษะ ก็คงจะทำให้วันนั้นเป็นวันที่แย่ ดังนั้น ถ้าวันไหนรู้สึกไม่สบายก็ควรพัก เพราะร่างกายต้องทำงานหนักในการสร้างทารก การพักผ่อนจึงเป็นเรื่องจำเป็น และถ้าหากสามารถหยุดไปนอนพักผ่อนยาว ๆ ได้ในช่วงสัปดาห์ที่ 7 และ 8 ซึ่งเป็นช่วงที่แพ้มาก ก็จะยิ่งดีต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตของคุณ

-           สูดดมกลิ่นสดชื่น : หากคุณแม่ต้องไปทำงาน และต้องเจอกับกลิ่นน้ำหอมของบรรดาเพื่อนร่วมงาน  เจอกับกลิ่นของผู้คนที่แออัดกันอยู่ในลิฟต์ ก็จะไปกระตุ้นให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้ Miriam Erick ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลหญิงตั้งครรภ์ของโรงพยาบาลในบอสตันบอกว่า ฮอร์โมนแอสโตรเจน นั้นส่งผลกระทบต่อการรับรู้ในเรื่องกลิ่น ถ้ามีระดับฮอร์โมนดังกล่าวสูง จมูกก็จะรับกลิ่นได้ดี ดังนั้นช่วงเวลานี้ ควรหลีกเลี่ยงกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ หากไม่สามารถเปิดหน้าต่างออกไปสูดอากาศสดชื่นภายนอกได้ ก็ให้หาของที่มีกลิ่นสดชื่นติดตัวไว้สูดดมเวลาที่อาการไม่ค่อยจะดี

-           บอกให้คนอื่นทราบ : ในช่วงเวลาที่ตั้งครรภ์ คุณควรจะมีความเห็นแก่ตัวให้มาก ๆ เข้าไว้ บอกคนอื่นว่าคุณมีอาการเป็นอย่างไร เพราะกลิ่นของบางอย่างอาจจะทำให้คุณอาการไม่ดี แม้กระทั่งกลิ่นสบู่บางชนิด กลิ่นอาหารบางอย่าง การบอกให้คนอื่นรู้ ก็จะทำให้พวกเขาให้ความร่วมมือ อาการและอารมณ์ของคุณก็จะดีขึ้น

-           คอยสังเกตอาการคลื่นไส้ : อาการแพ้ท้องนี้ อาจจะเกิดขึ้นตอนไหนก็ได้ แต่ให้ลองสังเกตอาการของตนเองดูว่า มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาไหน และเกิดขึ้นเมื่อได้กลิ่นอะไร เพื่อจะได้หาทางรับมือกับสถานการณ์นั้น เช่น บางคนมีอาการทุกวันตอนเช้ามืด แต่บางคนก็มีอาการในช่วงบ่ายของวันทำงาน ซึ่งอาจเกิดจากกลิ่นของว่างที่เพื่อนร่วมงามรับประทานก็ได้ เมื่อพบสาเหตุของอาการก็จะได้หาทางหลีกเลี่ยง

-           ดื่มน้ำให้เพียงพอ : อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะต้องพยายามดื่มน้ำเข้าไป ในช่วงเวลาที่ท้องรู้สึกไม่สบาย แต่จริง ๆ แล้ว น้ำเป็นสิ่งสำคัญมาก ต้องไม่ปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ ยิ่งร่างกายขาดน้ำอาการก็จะยิ่งมาก หาวิธีที่จะนำน้ำเข้าร่างกาย โดยอาจจะเลือกรับประทานของว่างที่มีน้ำเป็นส่วนผสมมาก ๆ ก็ได้

-           รับประทานทีละน้อยแต่รับประทานบ่อย ๆ : หากปล่อยให้ท้องว่าง ท้องหิว อาหารก็จะเกิดขึ้น ในขณะเดียวกันการรับประทานมากเกินไป ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่า ถ้าจะรับประทานทีละน้อย แต่รับประทานให้บ่อย ๆ เพื่อให้ท้องไม่ว่าง รวมทั้งหาของว่างรับประทานก่อนนอน จะช่วยให้ระดับน้ำตาลคงตัวในช่วงกลางคืนและ ช่วยป้องกันอาการแพ้ในช่วงเช้าได้ และในช่วงระหว่างวัน ก็ให้รับประทานมือเล็กๆ หลายมือ เพื่อช่วยให้ท้องอิ่มตลอดทั้งวัน

-           ขิงช่วยได้ : เราทราบกันมานานแล้วว่า ขิงช่วยให้สบายท้อง และมีการศึกษาพบว่า ขิงช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ ให้หั่นขิงเป็นแผ่นบาง ๆ ดื่มกับน้ำร้อนหรือน้ำชา หรืออาจจะเลือกรับประทานลูกอมรสขิง ขนมปังขิง หรือหาวิธีใส่ขิงลงในซุป ในอาหารอื่นก็ได้

-           ปรับคอมพิวเตอร์ : บางครั้งคอมพิวเตอร์ก็เป็นสาเหตุของอาการคลื่นไส้ได้เช่นกัน ลองปรับเปลี่ยนภาพหน้าจอ ปรับความสว่างของหน้าจอ เพราะคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งาน หรือจ้องอยู่ทั้งวันนั้น ก็ส่งผลต่ออาการได้ ลองเลือกปรับรูปแบคกราวน์ให้อ่อนลง ใช้สีโทนชมพูอ่อน หรือสีแทน อาจจะช่วยได้ และที่สำคัญ ควรหาเวลาพักจากการใช้คอมพิวเตอร์ แล้วทำอย่างอื่นบ้าง เพื่อลดการใช้สายตา หรืออาจจะแค่นั่งหลับตา ให้ได้พักบ้างก็ได้เช่นกัน

-           อย่าไปกังวลและกลัวการแพ้ท้องมากนัก : บางคนกลัวจนไม่กล้าจะออกไปทำอะไร ดังนั้นอย่าไปคิดถึง และกังวลใจกับอาการมากนัก หาทางลืม ๆ ไปบ้าง เช่น อ่อนหนังสือ เล่นเกม หรืออกไปเดินเล่น จากประสบการณ์ของหญิงตั้งครรภ์หหลายคนบอกว่า การออกกำลังกายช่วยลดอาการลงได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่า เราจะสามารถออกกำลังกายได้ในระดับไหน

-           เตรียมอุปกรณ์ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน : อาการแพ้ท้องนั้นเกิดขึ้นได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ดังนั้น จึงควรมีของใช้จำเป็นติดตัวเสมอ เช่น เสื้อผ้าสำรอง แปรงสีฟัน ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก ถุงพลาสติก และของว่าง

-           รับประทานยา : หากมีอาการแพ้มาก ต้องปรึกษาแพทย์ และแพทย์อาจจะสั่งยาให้รับประทานเพื่อช่วยบรรเทาอาการ ไม่ควรหาซื้อยาใด ๆ มารับประทานด้วยตนเอง

-           ยอมรับในความไม่ปกติที่เกิดขึ้น : ไม่ควรวิตกกังวล หรือหงุดหงิดกับสถานการณ์และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น การทำใจยอมรับ จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น

-           หาตัวช่วย : บางคนมีของที่เป็นตัวช่วย อย่างเช่น เคยนั่งเรือเที่ยวทะเลแล้วเมาเรือ คนในท้องที่หาสร้อยข้อมือแก้คลื่นไส้มาให้ใส่แล้วอาการดีขึ้น ของแบบนี้ บางครั้งก็ช่วยในเรื่องจิตใจได้ ดังนั้น ไม่แปลก ที่จะหาตัวช่วยแปลก ๆ มาใช้ในช่วงเวลานี้

          นอนลง : เมื่อเกิดอาการแพ้ขึ้นมา วิธีที่ง่ายที่สุด อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดเช่นกัน นั้นก็คือการนอนลง หลับตา หายใจลึก ๆ ให้ผ่อนคลายสักพัก ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าให้นอน เมื่อร่างกายต้องการนอนเพราะการนอนหลับ นับเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับปัญหานี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook