3 โรคร้ายในหน้าฝนที่อาจทำลูกป่วยง่าย

เมื่อถึงฤดูฝน ก็เป็นความไม่ค่อยจะสบายใจเท่าไรนักของบรรดาพ่อแม่ เพราะกังวลว่าลูกจะเจ็บป่วยจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง บางครั้งก็อาจเปียกฝนจากการไปกลับโรงเรียน ซึ่งส่วนมากเด็กก็มักจะไม่ค่อยมีภูมิคุ้มกันเท่ากับผู้ใหญ่เสียด้วย เมื่อป่วยทีก็เป็นหนักเลย เพราะฉะนั้นมาดูกันว่าในช่วงฤดูฝนนี้ มีโรคอะไรบ้างที่พ่อแม่ต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ

1.โรคไข้หวัดใหญ่

โรคไข้หวัดใหญ่มักเป็นของคู่กันกับเด็ก ดูเหมือน ๆ จะไม่ค่อยมีอันตรายเท่าไรนัก แต่ถ้าไม่ได้รับการดูแล และเด็กมีภูมิคุ้มกันที่ไม่ดี ก็อาจจะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งประเทศไทยก็มีการพบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นจึงห้ามนิ่งนอนใจเป็นอันขาด หากพบว่าลูกมีอาการตัวร้อน มีไข้ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ เจ็บคอ หากเป็นในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ อาจมีอาการชักร่วมอยู่ด้วย

วิธีป้องกัน คือควรนำลูกไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ โดยควรฉีดล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือนก่อนถึงฤดูการระบาดของโรค

2.โรคมือ เท้า ปาก

โรคนี้ได้รับการวินิจฉัยแล้วว่า มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัส สามารถพบได้ตลอดทั้งปี ส่วนมากจะพบได้ในเด็กที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไปจนถึง 5 ปี เพราะสามารถติดต่อได้ผ่านการไอ จาม น้ำลาย และอุจจาระ เชื้อโรคนี้มีระยะเวลาในการฟักตัวสั้นมากเพียง 3-6 วัน ผู้ปกครองควรสังเกตลูกว่า หากมีอาการไข้ มีตุ่มใสตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า เป็นแผลในช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นเหงือก ลิ้น เมื่อเป็นแล้วจะทานอาหารได้น้อยหรือไม่ค่อยได้ จึงทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ และอาจชัก ในรายที่มีอาการแทรกซ้อนรุนแรง อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

วิธีป้องกันคือ ดูแลความสะอาดทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน โดยเฉพาะน้ำดื่มที่ไม่ควรดื่มร่วมกัน และควรฝึกให้ลูกใช้ช้อนกลางทุกครั้ง

3.โรคไข้เลือดออก

และแน่นอนว่าช่วงฤดูฝน เป็นช่วงระบาดที่สุดของโรคไข้เลือดออก ซึ่งมีการกลายพันธุ์จนมีความรุนแรงมากขึ้นทุกที และพาหะของโรคนี้ก็คือยุงลายนั่นเอง เพราะฉะนั้นหากพบเห็นว่าลูกมีอาการไข้สูงติดต่อกันหลายวัน ไม่ว่าจะทำอย่างไรไข้ก็ไม่ลด มีอาการอ่อนเพลีย ป่วยเมื่อยตามตัวแบบรุนแรง เด็กบางคนอาจมีอาการตับอักเสบร่วม และอาจมีอาการขาดน้ำถึงแก่ชีวิตได้

วิธีป้องกัน คือการกำจัดลูกน้ำยุงลาย และหลีกเลี่ยงให้ลูกถูกยุงกัดมากที่สุด

เพราะฉะนั้นในช่วงหน้าฝนอย่าลืมดูแลลูกน้อยให้มากขึ้น เพื่อให้เจ้าตัวน้อยห่างไกลจากโรคร้ายเหล่านี้และมีสุขภาพที่แข็งแรงมากขึ้นนั่นเอง