5 นางงามสู้ชีวิต กว่ามงจะลง ไม่ได้สวยงามอย่างที่หวัง

5 นางงามสู้ชีวิต กว่ามงจะลง ไม่ได้สวยงามอย่างที่หวัง

5 นางงามสู้ชีวิต กว่ามงจะลง ไม่ได้สวยงามอย่างที่หวัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงนี้หลายคนอินกับกระแสนางงามหนักมาก เพราะส่งแรงใจไปช่วยเชียร์ "น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์" "มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016" ให้พิชิตมงกุฎ "Miss Universe 2016" ที่จะตัดสินในวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2560 ที่ประเทศฟิลิปปินส์

ยิ่งช่วงนี้กระแสของ "น้ำตาล" แรงมากๆ เธอสวย โดดเด่น เข้าตาจนโพล หลายสำนักยกให้เป็นตัวเต็งมงเตรียมลง แต่กว่า "น้ำตาล ชลิตา" จะมาไกลถึงวันนี้ได้นั้น เส้นทางของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คิด และก็มีเหล่า "นางงาม" อีกหลายคนที่ชีวิตไม่ได้สวยเหมือนหน้าตา จะมีนางงามคนไหนที่มีเรื่องราวดราม่าหนักมาก กว่าจะครอบครองมงกุฎไปได้ ตาม Sanook! Women มาค่ะ

 

1 "น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์" Miss Universe Thailand 2016 

ชีวิตในช่วงเด็กของ "น้ำตาล ชลิตา" ไม่เคยได้เล่นเหมือนเด็กๆ ทั่วไป ไม่เคยได้เที่ยว ต้องช่วยแม่ทำงาน เริ่มตั้งแต่ตอน ป.4 (อายุประมาณ 10 ขวบ) แม่มีชีวิตที่ลำบากมาก พอมีพอกิน ชีวิตผกผันคุณแม่โดนเพื่อนโกง ก็ต้องเริ่มต้นหาเลี้ยงครอบครัวใหม่ คุณแม่จะพาไปทุกที่ที่แม่ทำงาน คุณแม่ทำงานมาหลายอาชีพ เป็นกระเป๋ารถเมล์ เป็นแคดดี้ในสนามกอล์ฟ หรือเป็นแม่บ้าน รับจ้างทำความสะอาดที่บ้าน คอนโด จนอายุ 13-14 ปี เริ่มโต ก็จะนั่งรถจากบ้าน จ. สมุทรปราการ ไปทำความสะอาดที่โบสถ์แถวทองหล่อ 3 ชั้น วันละ 8 ชม. ทุกวันอาทิตย์ ทำเป็นปี ได้ค่าแรงมาก็จะให้คุณแม่ เป็นชีวิตที่เหนื่อยมาก แต่ต้องอดทน ต้องทำให้ได้หมด เพื่อแบ่งเบาภาระคุณแม่....และวันนี้กำลังจะเป็นวันของเธอแล้วค่ะ!

 

 

2 "แนท อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์" Miss Universe Thailand 2015

สาวงามหน้าคมผู้ชนะการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ปี 2558 เห็นช่วงนี้งานเยอะ ทั้งถ่ายแบบ ออกอีเว้นท์ แต่ก่อนหน้าที่มงฯ จะลง ชีวิตก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดเช่นกันค่ะ  พ่อแม่ของแนทแยกทางกันตั้งแต่เด็กๆ  แนทไม่เคยเห็นหน้าพ่อมาก่อน แนทและพี่สาวจึงอยู่ในการดูแลของคุณตาคุณยาย ในวัยเด็กแนทช่วยแม่ขายของในตลาด เคยเป็นแม่ค้าขายหมูทอด เก็บผักขาย และรับจ้างตามโรงงานในช่วงปิดเทอม จนเมื่อเรียบต่อในระดับอุดมศึกษา เธอจึงคิดหารายได้ด้วยการเดินแบบ และทำงานในห้างสรรพสินค้า จนได้มีโอกาสประกวดบนเวทีสาวงาม ครองตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2558 และเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย คว้ารางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม บนเวที Miss Universe 2015 

 

3 "อร อรอนงค์ ปัญญาวงศ์" นางสาวไทยคนที่ 30 พ.ศ. 2535

หลายคนรู้จักเธอกับบทบาทพิธีกร นักแสดงมากความสามารถ แต่เบื้องหลังก่อนหน้าชีวิตที่สวยงามนี้ เธอก็เป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่เคยมีชีวิตต้องสู้มาก่อน 

อรอนงค์ มีพี่น้อง 7 คน ครอบครัวมีฐานะยากจน พ่อมีอาชีพถีบสามล้อปั่นและรับเหมาก่อสร้าง ส่วนแม่ก็ขายเผือกมันตามฤดูกาล ตอนเธออยู่ชั้นประถม แม่ไปเป็นนักการภารโรงอยู่บริษัทเอกชน ลำบากถึงขนาดที่หุงข้าวแล้วยังต้องเก็บน้ำข้าวเอาไว้ใส่เกลือกินอีกด้วย แต่ด้วยความที่ตอนเป็นเด็ก "อรอนงค์" เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน จึงได้รับทุนเรียนตั้งแต่ ป.4-ม.6 จบการศึกษาที่วิทยาลัยนาฏศิลป์เชียงใหม่และได้เป็นนางสาวไทยปี พ.ศ. 2535 เมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2535

 

4 "น้ำฝน สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ" นางสาวไทย คนที่ 34 พ.ศ. 2540

ชินตากับบทบาทของแม่ในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะแม่ร้าย แม่ที่แสนดีในละครเธอไม่เกี่ยงบท เพราะเธอเคยมีชีวิตเหมือนละครน้ำเน่ามาแล้ว น้ำฝนเกิดในครอบครัวเกษตรกร เป็นคนจังหวัดนครนายก ย้อนวันวานในวัยเด็ก เธออยู่กับแม่ และน้องเพราะว่าพ่อต้องไปทำงานที่ซาอุ แม่เป็นแม่บ้าน ครอบครัวไม่มีบ้านต้องอาศัยอยู่กับปู่ย่า ช่วงเวลานั้นแม่ค่อนข้างลำบาก เพราะต้องเป็นทั้งพ่อและแม่ในขณะเดียวกัน และบ้านอยู่ในชนบท ไฟยังไม่เข้า แม่ต้องทำงานหนักมากขึ้น เธอก็ช่วยแม่ 

ประมาณ 10 กว่าขวบ อยากได้เงินเลยไปทำงาน อย่าง ช่วงทำนาเสร็จเขาจะมีฟางมาวางกองๆ ไว้สูงๆ เขาก็เอาฟางจากกองนั้นมาแยกๆ เป็นกองย่อยๆ ให้เรามัดพอได้สองมัดก็เอาไม้เสียบสองข้างหาบไปให้เข้า ค่าจ้าง 4 มัด 1 บาท ฝนอยากได้ตังค์เพราะขอแม่แล้วแม่ไม่ให้ แม่บอกว่าอยากได้ก็ไปทำงานเอาสิ จะได้รู้ แม่อยากสอนให้เธอรู้จักค่าของเงิน ทุกวันนี้เธอจึงรู้ถึงค่าของเงินทุกบาททุกสตางค์ดีเป็นที่สุด

 

 

5 "กบ ปภัสรา เตชะไพบูลย์" มิสไทยแลนด์เวิลด์ 1988

เธอคือเจ้าของฉายา  "ซินเดอเรลล่ายุคแรกของเมืองไทย" กบมาจากครอบครัวที่ยากจน ต้องเดินไปเรียน บ้านไม่มีน้ำประปา ต้องหาบน้ำมาใส่ตุ่ม  ทำให้เธอต้องต่อสู้ดิ้นรนเข้ากรุงเทพเพื่อหางานทำ ทั้งเป็นเซลล์ขายของ แจกใบปลิว เพื่อหาเงินเรียน หลังจากนั้นชีวิตก็เริ่มเปลี่ยน เมื่อเธอเดินสายประกวดนางงาม จนได้ตำแหน่งและก้าวสู่วงการบันเทิง

แต่กว่าจะได้มงฯ นั้น หลังเวทีไม่ได้โลกสวยเหมือนหน้าเวที เพราะกบถูกกลั่นแกล้งด้วยการเอาสายสะพายและคทานางงามลงไปทิ้งในโถส้วม สาเหตุว่ากันว่าเป็นเพราะเพื่อนนางงามด้วยกันไม่พอใจคำตัดสินที่ให้ กบ คว้ามงกุฎ

ต่อมา "กบ ปภัสรา" ได้แต่งงานกับ "เอ๋ พรเทพ เตชะไพบูลย์" อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่คบหาดูใจกันมาแค่ 2 เดือน แต่ระยะเวลาที่น้อยนั้นไม่เป็นอุปสรรคใดๆ เลย เพราะปัจจุบันทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขมา 16 ปี และมีโซ่ทองคล้องใจที่น่ารักมากๆ 

อัลบั้มภาพ 64 ภาพ

อัลบั้มภาพ 64 ภาพ ของ 5 นางงามสู้ชีวิต กว่ามงจะลง ไม่ได้สวยงามอย่างที่หวัง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook