7 ทริคลดน้ำหนักด้วยตัวเองแบบฉบับสาวจอมขี้เกียจ

ไม่มีสาวๆ คนไหนอยากเกิดมาแล้วมีรูปร่างที่ดูพองโตคล้ายกับบอลลูนพองลมเช่นนี้ แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อการกินก็คือ ความสุข ที่เราสามารถหาใส่ท้องได้ตลอดเวลา กินไปกินมาก็ลืมตัวจนน้ำหนักเพิ่ม หน้าท้องออก กว่าจะรู้ตัวก็สายไปมากแล้ว พอตั้งใจจะลดก็ดันมีมารผจญมาทำให้ความพยายามของเราต่างล้มเหลวกันมานับครั้งไม่ถ้วน ต่อให้ตั้งใจมากแค่ไหนก็เถอะ แต่ ! ยังมีความจริงข้อหนึ่งที่สาวๆ ยังไม่รู้ว่าที่ทำมาทั้งหมดนั้นเป็นความตั้งใจแบบผิดวิธี ประกอบกับความเชื่อแบบผิดๆ รวมถึงพฤติกรรมบางอย่างที่ส่งผลต่อน้ำหนัก ซึ่งไม่ต้องกังวลไป เพราะ Sanook! Women มี 7 ทริคลดน้ำหนักด้วยตัวเองมาฝาก เหมาะเป็นอย่างมากสำหรับสาวๆ คนไหนที่ไม่ค่อยชอบออกกำลังกาย เป็นผลดีแบบระยะยาวชัวร์ เพียงแต่ต้องทำให้เป็นประจำสม่ำเสมอ

น้ำหนัก ลดยังไงก็ไม่ลง ?

• เลือกกิน

สาวๆ บางคนก็มักจะเลือกกินอาหารที่ตัวเองชอบ โดยไม่ยอมกินอาหารประเภทอื่นๆ ที่มีประโยชน์เสียบ้างเลย ในอาหารบางชนิดก็มีประโยชน์ที่เป็นผลดีต่อการลดน้ำหนักด้วยตัวเอง ฉะนั้น ไม่ว่าเราจะกินอาหารชนิดไหน แต่ถ้ามีประโยชน์ต่อร่างกายและสุขภาพก็อยากให้ฝืนกินเข้าไปสักหน่อย ยังไงก็ต้องดีแน่

• กินไม่เลือก

สาวๆ บางคนนี่ยิ่งแล้วใหญ่ กินทุกอย่างที่ขวางหน้า ถึงแม้ว่าอาหารชนิดนั้นๆ ที่คุณเลือกกินจะมีประโยชน์ หรือไม่มีประโยชน์ ก็ควรปรับพฤติกรรมการกินของตัวเองให้มาอยู่ในระดับที่พอดี ไม่กินมาก หรือกินน้อยจนเกินไป

• ไม่มีความพยายาม

สิ่งที่สำคัญรองลงมาจากการควบคุมอาหารก็คือการออกกำลังกาย หากสาวๆ อยู่เฉยๆ เอาแต่กินไม่ยอมออกกำลังกายเสียบ้าง เราก็จะกลายเป็นคนที่ไม่ชอบและไม่อยากออกกำลังกายไปเลย ตัวก็จะใหญ่ขึ้น น้ำหนักก็จะมากขึ้น อย่าเลย ! หันมาออกกำลังกาย จัดตารางให้ได้เผาผลาญไขมันออกบ้างก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้าย สุขภาพเราก็จะดี ร่างกายเราก็จะแข็งแรงด้วย

• ความอดทนต่ำ

เรื่องของความอดทนถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ เพราะจะช่วยให้เราทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างสำเร็จ สาวๆ ก็จะต้องมีความอดทนต่อสิ่งยั่วยุต่างๆ ที่หลอกให้เราหลงลืมบางอย่างไป อย่างเช่น อาหารบางจำพวกที่ให้คุณค่าทางอาหารต่ำ มีปริมาณน้ำตาลและไขมันสูง ไม่ดีต่อร่างกาย

• ชอบผัดวันประกันพรุ่ง

ถ้าหากสาวๆ ตั้งใจไว้ว่าจะลดน้ำหนักด้วยตัวเองแล้ว แต่เป็นพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ก่อน นับว่าเป็นความคิดที่แย่และผิดอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่ของผู้ที่มีความคิดแบบนี้จะไม่สามารถลดความอ้วนได้สำเร็จ เนื่องจากว่ามีความอดทนและความพยายามที่ยังไม่เพียงพอ ฉะนั้นแล้ว หากสาวๆ อยากกลับมามีรูปร่างที่ดี มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ ก็ควรตั้งใจลดน้ำหนักด้วยตัวเองตามแผนที่วางเอาไว้ให้ได้

• เป็นคนขี้เกียจ

หากจะบอกว่าใครขี้เกียจก็ไม่ผิด หรือบอกว่าคนที่ขี้เกียจมักจะอ้วนก็ไม่ผิด วันๆ ก็ไม่ได้ทำอะไร นอกจากกิน นอน ดูทีวี กิน นอน ดูทีวี สลับกันไปเป็นวัฏจักรเดิมๆ แบบนี้ ถ้าสาวๆ ไม่อยากอ้วน พุงออก น้ำหนักเกิน ดูไม่สวย ก็ลองลุกขึ้นมาหาอย่างอื่นทำบ้างเพื่อเป็นเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกาย

• ท้อแท้ง่าย

ถึงแม้ว่าการลดน้ำหนักที่สาวๆ พยายามอยู่จะเป็นไปอย่างช้า แต่ ! ห้ามท้อ หรือถอดใจไปก่อนเด็ดขาด ขอให้จำเอาไว้ว่าการที่เราควบคุมอาหารและออกกำลังกายไปด้วยจะยังไม่ทำให้เราเห็นผลได้ในทันที แต่อย่างน้อย การออกกำลังกายก็ทำให้เราแข็งแรงขึ้น น้ำหนักที่เคยมาจากไขมันส่วนเกินก็จะแปลงร่างไปเป็นน้ำหนักที่มาจากกล้ามเนื้อของสาวๆ แทน

• เสียดายของ

สาวๆ บางคนนอกจากจะเป็นผู้หญิงที่ขี้สงสารแล้ว ก็ยังเป็นผู้หญิงที่ขี้เสียดายอีกด้วย ไม่ว่าจะซื้อขนม หรือไปกินอาหารที่ไหน แน่นอนว่าต้องมีเหลืออยู่ไม่มากก็น้อย แล้วก็ดันเป็นคนดีที่พยายามจะกินให้หมด บอกไว้ก่อนว่านั่นเป็นสิ่งที่ผิดต่อร่างกายนะ ถึงแม้ว่าเราจะรู้สึกเสียดายขนาดไหน ถ้ารู้สึกอิ่มแล้วก็ควรหยุดกิน เพราะหากกินเข้าไปมากๆ จะทำให้อาหารเหล่านั้นกลายเป็นของเหลือในร่างกายที่จะเปลี่ยนเป็นไขมันส่วนเกินในไม่ช้า

เริ่มต้นขั้นตอนลดน้ำหนักด้วยตัวเองแบบฉบับสาวจอมขี้เกียจ

1. หมั่นสร้างกำลังใจและแรงผลักดัน

สาวๆ รู้รึเปล่าว่าการลดน้ำหนักนั้นจะต้องใช้แรงใจและแรงผลักดันเป็นอย่างมาก ต้องต่อสู้กับสิ่งตรงหน้าที่คอยยั่วยุไม่ให้เราทำในสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้ได้สำเร็จ ขอให้เรานึกอยู่เสมอว่าสิ่งต่างๆ เหล่านั้น อย่าง อาหารที่มีคุณค่าทางอาหารต่ำ ขนมที่มีน้ำตาล ความหวานมากๆ หรือไขมันต่างๆ จะเป็นสิ่งที่ทำให้เราดูอ้วนและน่าเกลียด การสร้างแรงบันดาลใจที่ได้ผล ให้ลองเอาชุดที่เราชอบมากๆ แต่ใส่ไม่ได้ มาตั้งเป้าหมายไว้ว่าเราใส่แล้วน่าจะเหมาะมาก แล้วเอาชุดนั้นมาแขวนไว้ที่หน้ากระจก ให้ท่องซ้ำๆ บ่อยๆ ว่า “เราจะต้องใส่ชุดนี้ให้ได้” เหมือนเป็นการสะกดจิตตัวเอง แต่ไม่ควรเอาชุดที่มีไซส์ที่แตกต่าง หรือเป็นไปได้ยากในเวลาที่จำกัดเกินไปมาเป็นแรงผลักดัน เพราะจะทำให้เราเสียกำลังใจจนเลิกทำไปได้ง่ายๆ

2. ตั้งเป้าหมายอย่างมีเหตุมีผล

เรื่องนี้สำคัญมาก เราจะต้องเป้าหมาย หรือเส้นทางที่เรากำลังจะเดินไป ไม่อย่างนั้นแล้วเราจะทำไปเพื่ออะไร เรื่องของการลดน้ำหนักก็เช่นกัน อยากตอนนี้เรามีน้ำหนัก 55 กิโลกรัม แต่สูงเพียง 155 เซนติเมตร ดูรูปร่างอวบนิดๆ สาวๆ ก็ลองตั้งเป้าหมายว่าจะลดลงให้ได้สัก 3 กิโลกรัมก่อนอย่างต่ำ พอระยะเวลาผ่านไปสัก 1 เดือน ถ้าเราสามารถทำได้อย่างที่ตั้งไว้ก็จะมีกำลังใจที่จะลดน้ำหนักต่อไปได้ แนะนำว่า อย่าตั้งเป้าที่ดูเกินความจริง หรือมากจนเกินไป

3. ลดน้ำหนักเสียตั้งแต่ยังหนุ่มสาว

เมื่อสาวๆ มีอายุที่เพิ่มมากขึ้น ผิวหนังของเราก็จะยิ่งเสื่อมสภาพลง หากว่าเราไปลดน้ำหนักเอาตอนที่มีอายุมากๆ แล้ว พอน้ำหนักหายไป ผิวหนังที่ยุบตัวก็จะมีสภาพเหี่ยวย่น ไม่น่าดู ไม่สวยงาม และไม่เต่งตึง ฉะนั้น หากตอนนี้ที่ยังมีอายุน้อยๆ อยู่ก็เป็นการดีที่สาวๆ จะเริ่มต้นลดน้ำหนักด้วยตัวเองกันตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้สวยเช้งไม่ว่าจะมีอายุเท่าไหร่

4. ลดน้ำหนักลงเท่าไหร่ถึงจะกำลังดี

สาวๆ บางคนก็มีอาการใจร้อน อยากจะลดน้ำหนักลงให้ได้มากๆ ภายในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เชี่ยวเรื่องการควบคุมอาหาร หรือแม้แต่คนทั่วๆ ไปก็ไม่แนะนำให้ลดน้ำหนักด้วยตัวเองแบบหักโหมทีละมากๆ ถ้าจะเอาให้ดีก็ควรจะลดให้ได้ 1 กิโลกรัมภายใน 1 สัปดาห์เท่านั้น เพื่อไม่ให้ร่างกายของเราดูโทรมจนเกินไป แต่ถ้าหากสาวคนไหนที่ต้องใช้พลังงานในการทำงานทั้งวันอยู่แล้ว โปรแกรมการลดน้ำหนักก็ควรยืนหยุ่น และกินอาหารให้ครบทุกมื้อและครบทั้ง 5 หมู่ แต่ให้เน้นไปลดและงดอาหารประเภทที่จะทำให้เราอ้วนได้แทน

5. ต้องกินเท่าไหร่ถึงจะเป็นการกินเพื่อลดน้ำหนัก

หากว่าไม่ได้ซีเรียสกับการลดน้ำหนักสักเท่าไหร่ หรือต้องการให้น้ำหนักค่อยๆ หายไปทีละนิดอย่างไม่ลำบาก ขอแนะนำว่าในช่วงแรกๆ ให้ลองลดปริมาณอาหารลง จากที่เคยกิน 4 ส่วน ก็ให้ลดลงเหลือสัก 3 ส่วน พอผ่านไปได้ 1 เดือน ก็ให้ลดปริมาณลงไปอีกเรื่อยๆ ในแบบที่เรากินแล้วรู้สึกอิ่ม ไม่ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง แต่ถ้าสาวๆ คนไหนต้องการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ก็ให้ลองมาคำนวณปริมาณแคลอรี่ที่ต้องกินในแต่ละวันแทน ซึ่งผู้หญิงอย่างเราๆ ก็ควรจะกินเพียงวันละไม่เกิน 1,000 กิโลแคลอรี่

6. อย่าแตะต้องกับยาลดความอ้วนเด็ดขาด

กิตติศัพท์ความอันตรายของยาลดความอ้วนที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องเล็ก อีกทั้งยาลดความอ้วนก็ไม่ใช่ยาวิเศษที่จะทำให้น้ำหนักลดลงได้ในเวลาอันรวดเร็ว (ถึงแม้ผลที่เห็น คือ เราอาจจะผอมลง แต่ก็กลับมาอ้วนได้ในเวลาอันรวดเร็วเช่นกัน เผลอๆ อ้วนมากกว่าเดิม) แต่เป็นยาที่ลายสุขภาพของเราเสียมากกว่า เนื่องจากลดความอ้วนหลายๆ ตัวจะออกฤทธิ์ทำให้เรารู้สึกเบื่ออาหาร ร่างกายไม่มีแรง อีกทั้งยังอาจส่งผลต่อจิตใจด้วย ถือว่าเป็นยาที่เห็นแค่เพียงระยะสั้น เพราะหากคุณเลือกกิน ก็จะมีความอยากอาหารเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ ไม่เป็นผลดีต่อผู้ที่คิดจะลดความอ้วนแน่นอน

7. ห้ามอดอาหาร

การไม่กินอะไรเลยไม่ได้ทำให้ร่างกายของเราดูผอมเพรียว หลายๆ คนจึงบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การอดอาหารนั้นไม่ใช่ทางออกที่ดีของการลดความอ้วนในระยะยาว เนื่องจากว่าการอดอาหารแค่เพียงหนึ่งมื้อจะทำให้ร่างกายของเราสร้างระบบป้องกันขึ้นมา โดยการกักเก็บเอาไขมันเอาไว้ ซึ่งจะมีการเผาผลาญที่น้อยลง เมื่อเราไม่ได้อดอาหาร กลับมากินอาหารตามปกติ ร่างกายก็จะเผาผลาญได้น้อย ทำให้อ้วนง่ายยิ่งกว่าเดิม