กินเจดีๆ ได้ทั้งบุญและสุขภาพ

กินเจดีๆ ได้ทั้งบุญและสุขภาพ

กินเจดีๆ ได้ทั้งบุญและสุขภาพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พอเทศกาลกินเจวนเวียนมาถึงทีไร ปากที่เคยกินเนื้อสัตว์กันได้ อย่างมูมมามหรือหนำใจกันแบบบุฟเฟ่ต์นั้น ก็ต้องหยุดลงในทันที เพื่อร่วมกันละเว้นชีวิต ลดบาป ลดกิเลส และสร้างบุญให้กับตัวเอง ทั้งในด้านของร่างกายและจิตใจ ซึ่งการกินเจถือเป็นประเพณีที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แต่พอหลังจากเทศกาลกินเจผ่านพ้นไป หลายคนกับเป็นทุกข์ ไม่ใช่ว่าทุกข์เพราะงดเนื้อสัตว์ แต่กลับทุกเพราะน้ำหนักขึ้น

เพราะคิดว่าเกิดมาจากการกินที่มีแต่อาหารที่เน้นหนักไปทางแป้ง ซึ่งความจริงแล้วการกินเจไม่ใช่เหตุผลของความอ้วนเลยสักนิด แต่นั่นเป็นเพราะการเลือกกินที่ผิดวิธีจึงทำให้คนมักคิดว่าน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมานั้นเป็นเพราะอาหารเจนั่นเอง

กินเจนอกจากจะถูกจัดให้เป็นหนึ่งในประเพณีการถือศีลแล้ว การกินเจยังจัดเป็นหมวดการกินอาหารประเภทชีวจิต ที่เมื่อกินติดต่อกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง สามารถทำให้ร่างกายเกิดความสมดุล ทั้งในด้านการปรับตัว และขับสารพิษและขับของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยปรับระบบการไหลเวียนของเลือด และระบบการทำงานของทางเดินอาหาร ช่วยให้สารพิษต่างๆ ค่อยๆ จางลงไปด้วยเช่นกัน

ส่วนโลหิตในร่างกายของเราก็จะถูกฟอกให้สะอาดมากขึ้นจนทำให้เซลล์ภายในของร่างกายเสื่อมสลายช้าลง และยังมีผลพ่วงไปถึงอายุที่ยืนยาวขึ้น รวมทั้งการมีผิวพรรณที่ดูดีและสดชื่น สายตาก็แจ่มใสมากขึ้น ร่างกายก็แข็งแรง รู้สึกเบาสบาย ไม่อึดอัด แต่การจะมีร่างกายที่ดีก็ต้องรู้จักเลือกกินอาหารเจให้เป็น เพื่อให้ตัวเราได้รับทั้งบุญและสุขภาพไปพร้อมๆ กัน ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้

กินเจอย่างไรให้ได้สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ โดยเริ่มจาก

หมู่ที่ 1 เป็นหมู่ของโปรตีนที่มักได้มาจากเนื้อสัตว์ แต่ถึงแม้ไม่มีเนื้อสัตว์ก็ตาม เราก็สามารถทดแทนโปรตีนที่ได้มาจากถั่ว ซึ่งมักถูกนำมาผลิตเป็นอาหารแปรรูป อย่าง เต้าหู้หลายๆ ประเภท น้ำเต้าหู้ รวมทั้งโปรตีนเกษตร หมู่ที่ 2 จะเน้นไปที่คาร์โบไฮเดรต ซึ่งได้รับมาจาก ข้าว แป้ง น้ำตาล เผือก มัน แต่การเลือกกินข้าวขอแนะนำว่า ควรเลือกเป็นข้าวกล้องมากกว่าข้าวขาว เพราะในข้าวกล้องยังมีวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีนแถมมาอีกด้วย

หมู่ที่ 3 แร่ธาตุ ที่ได้มาจากผักใบเขียวต่างๆ

หมู่ที่ 4 วิตามิน ที่ได้มาจากผลไม้ต่างๆ ซึ่งทั้งในหมู่ที่ 3 และ 4 เป็นหมู่ที่ไม่ต้องกังวลอะไรมาก เพราะสามารถกินได้เลย เว้นแค่งดผักกลิ่นฉุน อย่าง กระเทียม พืชตระกูลหัวหอม หลักเกียว กุยช่าย และใบยาสูบ เพราะผักเหล่านี้ เป็นผักที่มีรสหนัก กลิ่นเหม็นคาวรุนแรง ส่งผลกระทบต่ออารมณ์อีกทั้งยังมีพิษทำลายพลังธาตุทั้ง 5 ในร่างกาย

ส่วนหมู่ที่ 5 หมู่สุดท้ายที่เน้นไปทางไขมัน ถึงไม่ใช้ไขมันสัตว์ แต่เราสามารถใช้ไขมันจากพืชได้อย่างสบายใจซึ่งหากเราสามารถเลือกกินอาหารเจที่มีสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่รับรองว่าสบายทั้งใจ ท้อง และร่างกายอย่างแน่นอน

ความสะอาดของอาหารเจ ที่ควรพึงระวังแน่นอนว่าเมื่อการกินอาหารเจสมัยนี้กลายเป็นเรื่องง่าย เพราะมีทางเลือกในการซื้ออาหารมากขึ้น ไม่ว่าจะมองไปทางไหนเราก็มักเจอร้านอาหารที่ปักธงสีเหลืองพร้อมคำกำกับว่า “เจ” ให้เลือกซื้อเต็มไปหมด แต่คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าอาหารเจเหล่านั้นสะอาดและส่วนประกอบของอาหารที่นำมาใช้มีความสดใหม่

จริงแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ โปรตีนเกษตรรวมทั้งเครื่องปรุงที่นำมาใช้หมดอายุหรือไม่ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ควรเลือกร้านอาหารเจที่ขายหมดทุกวันมีอาหารเจให้เลือกหลากหลาย หรือถ้าทำกินเองได้ก็ยิ่งดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน

เลือกกินอาหารเจสด ใช้เวลาในการปรุงน้อย ไม่ว่าจะเป็นผัก หรือผลไม้ ถ้าสามารถเลือกกินสดได้ย่อมดีที่สุด เพราะคุณค่าทางอาหารย่อมมีมากกว่าอาหารประเภทผักและผลไม้กระป๋องหรือผักดองต่างๆ อย่างแน่นอน นอกจากนี้อาหารประเภทที่ต้องใช้เวลาปรุงนานๆ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการเคี่ยวหรือตุ๋นมักทำให้สารอาหารต่างๆ จากผักจะค่อยๆ สูญเสียไปด้วยเช่นกัน

และสิ่งสุดท้ายที่ควรคำนึงคือ การงดแอลกอฮอล์ และน้ำอัดลม เน้นดื่มน้ำเปล่าดีที่สุด เพราะนอกจากเราจะได้งดแอลกอฮอล์ หรือสิ่งมึนเมาที่เป็น อบายมุขแล้ว การงดน้ำอัดลม แล้วหันมาดื่มน้ำเปล่ายังช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดีมากขึ้น โดยปราศจากสารอาหารที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย แต่ทุกคนก็อย่าลืมว่าถึงแม้เราจะเลือกกินเจได้อย่างถูกวิธีและดีต่อร่างกายแล้ว การออกกำลังกายร่วมด้วยก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยนะคะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook