9 คำถาม สะท้อนความคิดอ่านสุด ‘สตรอง’ ของ มาช่า วัฒนพานิช

9 คำถาม สะท้อนความคิดอ่านสุด ‘สตรอง’ ของ มาช่า วัฒนพานิช

9 คำถาม สะท้อนความคิดอ่านสุด ‘สตรอง’ ของ มาช่า วัฒนพานิช
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เราทุกคนล้วนปะปนไปด้วยอารมณ์ทั้งสุขและทุกข์ เพียงแต่ว่าเราจะคิดได้ไหมว่าจะอยู่กับมันอย่างไร ตรงนี้คือความยากของชีวิต โดย มาช่า วัฒนพานิช

1. ช่วงนี้เห็นคุณปรากฏตัวถี่ๆ (ทั้งงานซีรีส์ งานพรีเซนเตอร์ และล่าสุดกับการเป็นเมนเทอร์ของรายการ The Face Thailand Season 3) แต่ก่อนหน้านี้คุณหายไปไหนมา หรือว่ารู้สึกหมดไฟแล้วไปเติมเชื้อไฟมาหรือเปล่า

มาช่า: ไม่ได้หมดไฟหรอก แค่เราอยากกดปุ่มปิดสวิตซ์ตัวเองสักครู่หนึ่ง เราเป็นคนตัดสินใจกดปุ่มปิดเอง เหมือนเราเปิดไฟมานาน ถูกใช้งานเยอะจนร้อน เหนื่อย เพลีย อ่อนแรง ก็ต้องหยุดพักบ้าง เพราะเวลาที่ทำงาน เราก็เป็นคนลุยงานอย่างเอาจริงเอาจัง ทุ่มเทจนร่างกายเริ่มมีอาการฟ้องว่าอย่าทรมานตัวเองไปมากกว่านี้เลย พักผ่อนบ้างเถิด ลึกๆ แล้ว คนเมืองน่าจะรู้สึกแบบเดียวกันนี้เกือบทุกคนนะ พอถึงเวลาได้หยุดพัก หรือลาพักร้อน ก็จะแห่ออกไปใกล้ชิดธรรมชาติ ไม่ว่าจะจนจะรวยต่างโหยหาความเป็นธรรมชาติเหมือนกันทั้งนั้น เราต่างอยากมีวันที่รู้สึกสบายไร้กังวล ไม่ต้องมาพะวงเรื่องเวลาตื่นนอน ไม่ต้องแข่งขันกับตัวเองหรือกับใครให้มากมาย คนเราเป็นกันเกือบทุกคน แต่ด้วยยุคสมัยที่โลกหมุนมาเป็นแบบนี้ ทุกคนก็ต้องสู้ ไม่อย่างนั้นอยู่ไม่รอด

2. คิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่ 'สตรอง' ได้ขนาดไหน

มาช่า: แล้วแต่สภาวการณ์ ถ้าเจอเหตุการณ์ที่ต้องแข็งแกร่ง เราก็ต้องเผชิญหน้ากับมันให้ได้ ต้องเข้มแข็ง ความเข้มแข็งไม่ใช่การโหวกเหวกโวยวาย นัยหนึ่งอาจเป็นความอดทน เป็นความเงียบบ้างก็ได้ เพื่อรอคอยจังหวะเวลาในการแก้ปัญหา มันเป็นได้หลายมุม

3. รู้สึกอย่างไร เวลาที่ถูกชีวิตสั่งสอนด้วยบทเรียนต่างๆ

มาช่า: ทุกคนในโลกนี้ต้องมีบทเรียน เพื่อให้เรียนรู้ที่จะรับมือกับสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง ถ้าเราไม่ได้หกล้ม ก็จะไม่รู้ว่ามันเจ็บ ไม่มีคนไหนหรอกที่เกิดมาแล้วมีแต่ความทุกข์อย่างเดียว สุขอย่างเดียว ไม่เคยยิ้ม หรือร้องไห้ทุกวัน เราทุกคนล้วนปะปนไปด้วยอารมณ์ทั้งสุขและทุกข์ เพียงแต่ว่าเราจะคิดได้ไหมว่าจะอยู่กับมันอย่างไร ตรงนี้คือความยากของชีวิต อย่างตัวเราเอง ตอนเด็กๆ ประสบการณ์อาจจะยังน้อย ไม่มีวัยวุฒิ ช่วงนั้นก็จะใช้อารมณ์เป็นใหญ่ แต่พอโตมา เราก็เปลี่ยนมาใช้วิจารณญาณ และเหตุผลเป็นหลัก อาจมีหลักธรรมเข้ามาช่วยบ้าง เผอิญว่าเราเป็นพุทธศาสนิกชน จึงเรียนรู้ในเรื่องการปลง การให้อภัย ทุกวันนี้เลยไม่เครียดกับอะไรมากมาย พยายามรักตัวเอง รักในสิ่งที่เราจะทำ ถ้าอะไรที่ทำให้รู้สึกเครียดเกินไปก็จะบอกให้ตัวเองหยุด พรุ่งนี้ค่อยทำใหม่

4. คนเรามักปลอบใจตัวเองว่า ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต ในทุกๆ เรื่อง ให้อะไรกับคุณบ้าง

มาช่า: สอนเราว่า อย่ามองอะไรด้านเดียว ทุกอย่างบนโลกมีสองด้านอยู่แล้ว ในมุมที่แย่ๆ ยังมีสิ่งที่ดีๆ ซ่อนอยู่ อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เรียนรู้ ทำให้เรามีบทเรียน แต่ส่วนใหญ่คนเราเวลาเจออะไรที่ไม่สบายใจก็จะมองแง่ลบไว้ก่อน ทั้งที่บางทีอาจมีสิ่งสวยงามซ่อนอยู่ในนั้น สมมุติว่าโดนเพื่อนหักหลัง หรือโดนเพื่อนโกง ลองมองอีกมุม เขาอาจจะเป็นครูชีวิตที่เข้ามาสอนเราว่า เพื่อนที่แท้จริงควรเป็นอย่างไร เราก็เพียงแค่มองสิ่งที่ซ่อนอยู่ให้ออกแล้วให้อภัยเขา พอมองแบบนั้นได้ก็ทำให้เราเข้าใจอะไรมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องขึ้นอยู่กับจิตใจของแต่ละคน ว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน เพราะทุกคนย่อมมีอารมณ์ความรู้สึก ต้องค่อยๆ ฝึกจิตกันไป ที่เราพูดนี้ก็ใช่ว่าเราจะทำได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็พยายามฝึกอยู่ พยายามเดินสายกลาง ฝึกปฏิบัติไปเรื่อยๆ ใช้ตรรกะง่ายๆ ว่า คงเหมือนกับเราหยอดเหรียญห้าสิบสตางค์ เหรียญบาททุกวันๆ วันหนึ่งมันก็จะเพิ่มขึ้นมาโดยที่เราอาจนึกไม่ถึง หยิบออกมาอีกครั้งอาจเป็นเงินจำนวนหลายพันบาท

5. 30 ปีพอดีที่คุณอยู่ในวงการบันเทิง การยืนระยะในวงการยาวนานขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย คุณวางตัวอย่างไร จึงได้รับความนิยมมาเนิ่นนานจนถึงปัจจุบัน

มาช่า: ตอบตรงๆ ว่า ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะพรหมลิขิต เราไม่ได้ตั้งใจจะเดินเข้ามาในวงการบันเทิงตั้งแต่แรก แต่พอได้เข้ามาทำงานแล้ว เราก็จริงจัง มีวินัย มีความจริงใจให้แก่ผู้ร่วมงานทุกคน ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นมาช่าแล้วต้องอยู่เหนือกว่าทุกๆ สิ่งในโลก เราให้เกียรติคนที่ทำงานด้วยกัน แล้วเราก็เป็นคนเลือกงาน ไม่ใช่ว่ามีอะไรเข้ามาแล้วรับหมด แต่เราจะดูในเรื่องความเหมาะสม พิจารณาตามความสามารถ ทำให้งานของเรามีมาตรฐานจนถึงทุกวันนี้

6. ถามตรงๆ ว่าวงการนี้อยู่ยากไหม

มาช่า: ยาก โดยเฉพาะในจุดที่เรายืน มันยากตรงที่ไม่ว่าเราจะขยับตัวทำอะไร เราก็คือมาช่า ทุกคนรู้จักเราในฐานะมาช่าไปแล้ว อย่างบางคนอยู่ในวงการบันเทิงแต่ไม่ได้มีคนรู้จักเยอะ เขาก็อาจจะสามารถเดินถนนโดยที่ไม่ต้องมีคนจับตามอง มีเวลาส่วนตัวเป็นของตัวเองได้ แต่ในจุดที่เรายืนแทบไม่มีช่องทางให้ได้ผ่อนคลายในที่สาธารณะเลย เคยลองใส่หมวก ใส่แว่นตาดำ ไม่แต่งหน้า แล้วออกไปเดินถนน ใช้ชีวิตปกติดู คิดว่าคนคงจำไม่ได้หรอก แต่ไม่เลย เขาก็ยังจำได้ บางทีเราก็ทำตัวไม่ถูก เพราะทุกคนล้วนอยากเป็นตัวของตัวเอง แต่ด้วยความที่เราอยู่กับสถานะตรงนี้มานานมากแล้ว เราก็ทำความเข้าใจกับมันมาเรื่อยๆ จนตอนนี้เกินความเข้าใจไปแล้ว

7. เคยมีช่วงที่รู้สึกว่าตัวเองหลงระเริงไปกับชื่อเสียงเงินทองที่ได้มาไหม แล้วหลุดพ้นจากช่วงเวลานั้นมาได้อย่างไร

มาช่า: เราเป็นคนที่ไม่ค่อยบ้ากับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ถ้าจะมีหลงระเริง ก็คงจะเป็นเรื่องของความสนุกกับงานมากจนเกินไปมากกว่า ด้วยความที่ไม่ได้คิดว่าจะต้องเกิดมาเป็นดาราอยู่แล้ว เลยไม่ได้ตกหลุมบ่อแห่งความหลงระเริงแบบนั้น

8. ดูเหมือนว่าคุณจะเป็นคนซีเรียสกับการใช้ชีวิตอยู่พอสมควรทีเดียว

มาช่า: ถึงเวลาซีเรียสก็ต้องซีเรียสนะ ถ้าถึงเวลาปลดปล่อยก็จะปล่อยสบายๆ ไม่คิดอะไรเลย อันที่จริง วิถีการใช้ชีวิตอาจจะเข้มข้นมาเรื่อยด้วยตัวของเราเอง พอเราโตขึ้น ความเข้าใจที่มีต่อสิ่งต่างๆ ก็มากขึ้นตามลำดับ เลยทำให้คิดว่าสุดท้ายก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้หรอก แต่ถ้าจะให้ปลงโลกไปเลย ประเดี๋ยวจะไม่ได้ทำงานกันพอดี

9. คนเราชอบเปรียบเทียบความเข้าใจชีวิต กับการใช้ชีวิตหนักๆ โชกโชน อยากถามความเห็นคุณว่า การที่เจอประสบการณ์หนักๆ ในชีวิตมามาก เป็นมาตรวัดได้ไหมว่า คนนี้มีทักษะการใช้ชีวิต หรือเข้าใจโลกมากกว่าคนที่เขามีชีวิตแบบราบเรียบ

มาช่า: มันขึ้นอยู่ที่ปัญญาของแต่ละคน บางคนเจอเรื่องหนักหนามามากมาย แต่กลับคิดอะไรไม่ได้เลย ยังไม่เข้าใจชีวิตก็มี บางคนไม่ต้องเจอเหตุการณ์โชกโชนเหนื่อยหนัก เขาก็พอจะเข้าใจได้ว่าอะไรเป็นอะไร เพราะฉะนั้น ความเข้าใจชีวิตจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า ต้องให้ชีวิตโดนอุปสรรคกระหน่ำสุดๆ มาก่อน ถึงจะรู้เรื่อง เราแต่ละคนต่างมาจากที่ต่างกัน ต่างถิ่นกำเนิด ต่างสิ่งแวดล้อม ต่างบริบทการเลี้ยงดู ทั้งกรรมที่เคยกระทำมา ทั้งพันธุกรรมต่างๆ ก็ไม่ได้เหมือนกัน บางคนอาจอยู่ในสิ่งแวดล้อมไม่ดี แต่เติบโตขึ้นมาเป็นคนดีมากๆ บางคนอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีมาก แต่ก็ยังเป็นคนไม่ดี คงต้องอยู่ที่ปัญญาและสามัญสำนึก

ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ในนิตยสาร 247 ฉบับที่ 301
Text - สิริญา ใจบุญ
Photo - พิชญุตม์ คชารักษ์

ติดตามคอลัมน์อื่นๆ เพิ่มเติม ดาวน์โหลดนิตยสารในเครือจีเอ็มได้แล้วที่   

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook