คุณกำลังจะทิ้งสิ่งที่มีค่าของลูกไปหรือเปล่า

คุณกำลังจะทิ้งสิ่งที่มีค่าของลูกไปหรือเปล่า

คุณกำลังจะทิ้งสิ่งที่มีค่าของลูกไปหรือเปล่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
( เซลล์ต้นกำเนิดหรือสเตมเซลล์จากเลือดในสายสะดือ = Umbilical Cord Blood Stem Cells ) ณ ขณะที่คุณแม่ให้กำเนิดลูกน้อย รกและสายสะดืออันอุดมด้วยเซลล์ต้นกำเนิดหรือสเตมเซลล์จะถูกทิ้งไปอย่างน่าเสียดายยิ่ง เลือดจากสายสะดือสามารถนำมาแยกสเตมเซลล์ และเก็บแช่แข็งไว้ได้นานนับปี ซึ่งสเตมเซลล์ดังกล่าว มีความสามารถเจริญเติบโตเป็นเซลล์อื่นได้หลายชนิด เช่น เซลล์ตับ เซลล์กระดูก เซลล์ผิวหนัง เซลล์เม็ดเลือด สเตมเซลล์ได้ถูกนำมาใช้รักษาโรคมากมายแก่ผู้ป่วยทั่วโลกเป็นผลสำเร็จมานานกว่า 30 ปีแล้ว สเตมเซลล์สามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคต่างๆได้อย่างมากมาย อาทิเช่น - รักษาแผลเบาหวานให้หายได้ และยังอาจสามารถเปลี่ยนรูปเป็นเซลล์ที่ผลิตอินซูลินได้อีกด้วย - โรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจตาย เส้นเลือดหัวใจอุดตัน ซึ่งการรักษาที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่สามารถทดแทนหรือซ่อมแซมกล้ามเนื้อหัวใจหรือเส้นเลือดที่อุดตันได้ การฉีดสเตมเซลล์เข้าสู่เส้นเลือดหัวใจของผู้ป่วยโรคหัวใจวายหรือหัวใจล้มเหลว สเตมเซลล์จะสร้างเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจและเส้นเลือดใหม่ สามารถทำให้หัวใจทำงานดีขึ้นได้ - โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ผลการศึกษาชี้ว่า สเตมเซลล์สามารถรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้ และรักษาภาวะแทรกซ้อนของการรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่ในผู้ป่วยบางราย - โรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์ สเตมเซลล์สามารถเร่งการซ่อมแซมการสึกกร่อนของกระดูกได้ ซึ่งการรักษาด้วยสเตมเซลล์ ผู้ป่วยมีการตอบสนองดีกว่าการใช้ยา - โรคโลหิตที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น โรคทาลาสซีเมีย - โรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบเมตาบอลิซึม - ภาวะภูมิคุ้มกันโรคต่อต้านตนเอง - โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง - โรคสมองเสื่อม เช่นพาร์คินสัน อัลไซเมอร์ ซึ่งพบมากขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุเฉลี่ยของประชากร การรักษาที่มีอยู่ขณะนี้อาจลดอาการได้บ้างแต่ไม่สามารถแก้ไขพยาธิสภาพของสมองได้ ในขณะนี้ผลจากงานวิจัยพบว่าสเตมเซลล์สามารถสร้างตัวเองเป็นเซลล์ประสาทได้ทุกชนิดและเซลล์ประสาทที่สร้างใหม่จะถูกโยกย้ายไปยังสมองเพื่อซ่อมแซมและป้องกันการสูญเสียของเซลล์ประสาทได้อีกด้วย การปลูกถ่ายสเตมเซลล์นับเป็นการรักษามาตรฐานสำหรับผู้ป่วยโรคเลือดและโรคมะเร็งหลายชนิดมานานกว่า 20 ปี การวิจัยที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้งทำให้ทราบว่า สเตมเซลล์สามารถรักษาโรคที่มนุษย์เคยเชื่อว่ารักษาไม่ได้ และขณะนี้ทั่วโลกมีพัฒนาการใช้สเตมเซลล์อย่างมหาศาล โดยเฉพาะในโรคที่เกิดจากความจำเสื่อมและการชราภาพของมนุษย์ การเก็บสเตมเซลล์และแช่แข็งเก็บไว้ นับว่าเป็นการทำประกันสุขภาพเพื่อตัวเราเองที่ดีที่สุด การเก็บรักษาสเตมเซลล์ที่แข็งแรงในวันนี้ เป็นการเพิ่มศักยภาพในการรักษาโรคหลายโรคที่อาจเกิดในอนาคต ซึ่งเหล่าแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ยังคงศึกษาความมหัศจรรย์ในการทำงานอย่างไม่รู้จบของสเตมเซลล์ แนวโน้มในการนำไปใช้รักษาโรคและการค้นพบใหม่ๆ ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

อัลบั้มภาพ 2 ภาพ

อัลบั้มภาพ 2 ภาพ ของ คุณกำลังจะทิ้งสิ่งที่มีค่าของลูกไปหรือเปล่า

คุณกำลังจะทิ้งสิ่งที่มีค่าของลูกไปหรือเปล่า
คุณกำลังจะทิ้งสิ่งที่มีค่าของลูกไปหรือเปล่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook