น้ำผึ้ง ณัฐริกา วันหนึ่งเคยดังมาก แต่ไร้ความสุข

น้ำผึ้ง ณัฐริกา วันหนึ่งเคยดังมาก แต่ไร้ความสุข

น้ำผึ้ง ณัฐริกา วันหนึ่งเคยดังมาก แต่ไร้ความสุข
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าพูดถึงนักแสดงคุณภาพเชื่อว่าชื่อของน้ำผึ้ง ณัฐริกา ต้องถูกนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมส่งให้ละครหลายเรื่องประสบความสำเร็จอย่างสูง ได้รับทั้งคำชื่นชมและรางวัลในหลายเวที



หากย้อนไปสมัยละครเรื่อง มนต์รักลุกทุ่ง โด่งดังสุดขีด ชีวิตวัยรุ่นคนหนึ่งต้องเปลี่ยนไป จากความดังที่ถาโถมเข้ามา จนในที่สุด น้ำผึ้งขอพักงานในวงการบันเทิง เพื่อกลับไปทบทวนและค้นหาสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความสุขอย่างแท้จริง

ชีวิตในวงการ เริ่มต้นจากความบังเอิญ
น้ำผึ้งเล่าว่าชีวิต บนเส้นทางสายบันเทิงเริ่มต้นขึ้นเมื่ออายุได้เพียง 14 ปีเท่านั้น โดยเธอไปเดินเล่นหลังจากเรียนพิเศษที่สยามสแควร์ แล้วก็ตามสูตรสำเร็จของดาราเป๊ะ น้ำผึ้งถูกแมวมองชักชวนให้เข้าสู่วงการบันเทิงโดย ชิมลางงานแรกคือ ถ่ายโฆษณา ก่อนจะรับหน้าที่ผู้ประกาศรายการทางช่อง 7

และอีกไม่นานนัก น้ำผึ้ง ได้รับโอกาส จาก คุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ให้เข้าไปทดสอบละครเรื่อง ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน ซึ่งที่สุดแล้วน้ำผึ้งผ่านการคัดเลือกได้เล่นละครร่วมกับนักแสดงชื่อดังอย่าง ศรราม เทพพิทักษ์ และ นุ๊ก สุทธิดา

หลังจากละครเรื่องแรกลาจอไป น้ำผึ้งได้รับบทนางเอกในละครเรื่อง มนต์รักลูกทุ่ง และจากความสำเร็จของบททองกวาว ทำให้น้ำผึ้งโด่งดังในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งน้ำผึ้งยอมรับว่า ตอนนั้นตั้งตัวไม่ทันเหมือนกัน เพราะ ไปไหนมาไหนมีแต่แฟนๆ ห้อมล้อม

เรียกว่าถ้าไปโชว์ตัวต่างจังหวัดทุกคนจะวิ่งกรูเข้ามาหาด้วยความรัก ดังขนาดไม่มีเวลาทำอะไรเป็นส่วนตัว คิวงานยาวเป็นห่างว่าว จนในที่สุดก็ถึงจุดอิ่มตัว น้ำผึ้งจึงเลือกพักงาน หลังจากที่เล่นละครเป็นนางเอกต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปีเต็ม



เมื่อดังมาก ก็หลงมาก

น้ำผึ้งยอมรับว่าสมัยก่อนตอนที่ดังมาก เธอรับมือกับความดังได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก ใช้ชีวิตที่เมื่อมองกลับไปหลายอย่างคิดว่าเราทำแบบนั้นไปได้ยังไง เช่น ไม่กินอาหารตามฟู้ดคอร์ท ใช้แต่ของแบรนด์เนม หากจะช็อปปิ้งครั้งใหญ่ต้องบินไปช็อปที่ต่างประเทศเท่านั้น

กระเป๋า รองเท้า ซื้อมามีความสุขแค่ชั่วครู่ พอแบบใหม่ รุ่นใหม่มาก็ทุกข์ใจอยากได้อีก รถก็เหมือนกันสมัยก่อนเปลี่ยนบ่อยมาก ซึ่งจริงๆ แล้ว น้ำผึ้งบอกว่า มีพร้อมทั้งเงินทอง ชื่อเสียง แต่ทำไม่ยังรู้สึกไม่มีความสุข

ในขณะที่กำลังสับสนไม่รู้จะเลือกเดินไปทางไหน ในที่สุดน้ำผึ้งได้รับคำแนะนำจาก คนรู้ใจอย่าง เป้ ฐิติ ชุมสาย ให้ลองศึกษาธรรมะโดยเริ่มจาก หนังสือคู่มือมนุษย์ ของท่านพุทธทาสภิกขุ จากนั้นก็ค่อยๆ ศึกษาธรรมะเรื่อยมา

น้ำผึ้งยอมรับว่าชีวิตมีความสุขขึ้นมาก หลังจากลดทิฐิลง มองเห็นอะไรหลายมุม ไม่ติดหรูเหมือนเมื่อก่อน น้ำผึ้งบอกว่าไม่น่าเชื่อว่าการที่ศึกษาธรรมะกับทำให้มีเพื่อนเยอะขึ้น แม้ว่าสถานะจะไม่ได้หรูหราเหมือนก่อน แต่กลับมีความสุขในการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย สุขขนาดที่เธอเอ่ยปากว่า เอาเงินเป็นพันล้านมาแลกก็ไม่ยอม

ความสุขในวันนี้ คือการให้

ถึงแม้จะมีกิจกรรมและยุ่งกับงานมากแค่ไหน แต่น้ำผึ้งมีเวลาเสมอสำหรับสัตว์โลกผู้น่าสงสาร เธอร่วมโครงการ ปันน้ำใจให้สัตว์ป่าถูกทอดทิ้ง โรงพยาบาลสัตว์เขาเขียว มานานหลายต่อหลายปี ระดมทุนเพื่อช่วยสัตว์ป่าที่ถูกทอดทิ้ง

หลายคนรักสัตว์ตอนเล็กๆ แต่เมื่อเลี้ยงไม่ได้หรือไม่ชอบแล้ว เบื่อแล้ว ก็นำมาทิ้ง สิ่งที่น้ำผึ้งทำได้คือช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้ ให้ได้รับการรักษาและมีที่อยู่ นอกจากนี้น้ำผึ้งวางอนาคตว่า อยากสร้างบ้านให้สัตว์อนาถา พร้อมบ้านพักสัตว์ชราที่ถูกทอดทิ้ง

และเพื่อเป็นการช่วยเหลืออย่างยั้งยืน และไม่ต้องขอเงินบริจาคทุกครั้งไป น้ำผึ้งจึงคิดทำผลิตภัณฑ์ออกจำหน่ายโดย สเปรย์เย็น อโรมา Garden of Peace เป็นธุรกิจที่น้ำผึ้งริเริ่ม รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จะเอามาช่วยเหลือสัตว์ เรียกว่าถ้าคุณซื้อมาใช้นอกจากความหอมเย็นสดชื่น คุณยังได้บุญจากการช่วยเหลือสัตว์ทางอ้อมอีกด้วย

 



จุดเริ่มต้นของความรักสัตว์ เกิดจากคุณแม่
สำหรับจุดเริ่มต้นของการรักสัตว์ น้ำผึ้งเท้าความไปเมื่อสมัยเด็กๆ โดยบอกว่า คุณแม่เป็นคนชอบต้นไม้มาก ในบ้านจะร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาชนิด สิ่งที่น้ำผึ้งซึมซับโดยไม่รู้ตัว คือการรักสิ่งแวดล้อม และสัตว์ น้ำผึ้งเล่าเหตุการณ์ที่จำฝังใจให้ฟังว่า สมัยเด็กๆ เธอจับคางคกไปอาบน้ำโดยคิดว่าคางคกเป็นกบที่มีสิว จึงอยากรักษาให้ จนในที่สุดคางคกตายหมดเลย

ด้วยความที่น้ำผึ้งเป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัว ซึ่งพี่ๆ ของน้ำผึ้งทุกคนเรียนเก่ง และประสบความสำเร็จทั้งหมด ความคาดหวังของครบครัวจึงน้อยกว่าพี่ๆ น้ำผึ้งจึงได้เรียนรู้โลกผ่านของธรรมชาติ จากจุดเล็กๆ นำพาให้น้ำผึ้งรักสัตว์ และรักสิ่งแวดล้อมโดยไม่รู้ตัว

ความรัก คนรัก และสัตว์เลี้ยง

เมื่อถามถึงความรักกับพี่ชายคนสนิท เป้ ฐิติ ชุมสาย น้ำผึ้งบอกว่า ด้วยความที่ต้องดูแลสัตว์เยอะมาก จึงรู้สึกว่ายังไม่พร้อมกับการแต่งงานใช้ชีวิตคู่ เราต้องดูแลสัตว์เยอะในบ้านมีสัตว์ 50 ตัวบางทีเจ็บป่วย เราต้องพาไปหาหมอ ชีวิตมีอะไรให้เรียนรู้มากมาย เรื่องการแต่งงานจึงไว้เก็บเป็นเรื่องของอนาคต รอวันที่พร้อมเราคงได้ยินข่าวดี

ฝันที่เป็นจริง
ตอนเด็กๆ ฝันอยากเป็นคุณหญิง เพราะเราไม่อยากใช้คำนำหน้าว่านาง แต่ตอนนี้เปลี่ยนความตั้งใจแล้วไม่อยากเป็นคุณหญิงแล้ว ความฝันปัจจุบันคือการได้เลี้ยงควาย มีบ้านสวน ซึ่งตอนนี้เรามีหมดแล้ว เหมือนความฝันกำลังเบ่งบานซึ่งน้ำผึ้งมีความสุขกับชีวิตปัจจุบันอย่างมาก อีกหนึ่งความฝันที่เริ่มก่อตัวแล้ว คือได้มีสินค้าที่สามารถนำรายได้มาช่วยเหลือสัตว์ โดยที่ไม่ต้องขอบริจาคตลอดเวลา

ทุกวันนี้ไม่อยากได้อะไรแล้ว มันจบแล้ว ทำงานเพราะรัก เราทำงานน้อยแต่ทุกงานต้องมีคุณภาพ และเราต้องมีความสุขกับทุกอย่างที่ทำ

หากมีโอกาสลองช่วยเหลือสังคมในแบบที่คุณสามารถทำได้ เพียงแค่นี้เชื่อว่าคุณจะมีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้น แม้ว่าไม่ใช่ดาราดังอย่าง น้ำผึ้ง ณัฐริกา แต่คุณก็สามารถทำให้สังคมดีขึ้นได้แบบ น้ำผึ้ง แน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook