“เมียลอย ใจดี” มือถือไมค์ กับหัวใจ “นางฟ้าตุ้งติ้ง”

“เมียลอย ใจดี” มือถือไมค์ กับหัวใจ “นางฟ้าตุ้งติ้ง”

“เมียลอย ใจดี” มือถือไมค์ กับหัวใจ “นางฟ้าตุ้งติ้ง”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“เมียลอย ใจดี” มือถือไมค์ กับหัวใจ “นางฟ้าตุ้งติ้ง”

ภาพจำของโรงพยาบาลสำหรับคนทั่วไปคงไม่ผิดแผกแตกต่างกันนัก ด้วยโรงพยาบาลคือสถานที่ๆ คนไข้หวังมาพึ่งพิงรักษาตัว บรรยากาศของโรงพยาบาลจึงส่องสะท้อนมาจากสีหน้าของผู้ป่วยที่หมดหวัง เศร้าซึมด้วยโรค และความเจ็บป่วยที่ซ่อนอยู่ภายใน

หากแต่เสียงเพลงจากกลุ่มดนตรีจิตอาสา ภายในโรงพยาบาลมหาราช จังหวัดเชียงใหม่ หรือโรงพยาบาลสวนดอก กลับทำให้บรรยากาศของโรงพยาบาล และความรู้สึกของคนไข้เปลี่ยนไป

ในความเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเหล่านั้น นับเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของ โอ-พรบัญชา ใหม่กันทะ หรือ “เมียลอย ใจดี” สาวประเภทสองจิตอาสา ที่เสนอตัวเข้ามาขับร้องบทเพลงมอบความบันเทิงให้กับผู้ป่วย และทุกคนในโรงพยาบาลเป็นประจำรวมระยะเวลาจนถึงปัจจุบันก็ร่วม 1 ปีเต็มแล้ว

โอเป็นสาวประเภทสองอายุย่าง 29 ปี เกิดและเติบโตที่อำเภอเสริมงาม อำเภอชายขอบของจังหวัดลำปาง ตั้งแต่วัยเยาว์หลงใหล มีความสุขกับเสียงเพลงลูกกรุงที่ดังจากลำโพงวิทยุเครื่องย่อมๆ ของคุณแม่

เมื่อเข้าสู่วัยแห่งการศึกษาจึงย้ายถิ่นมาเรียนระดับปริญญาตรีที่จังหวัดใกล้เคียง ในคณะวิจิตรศิลป์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สถานที่ๆ เธอได้รับชื่อประจำคณะว่า “เมียลอย ใจดี” และกลายเป็นชื่อประจำติดตัวเธอเรื่อยมา

จากพรสวรรค์ทางศิลปะ รักการร้องเพลง และความสามารถด้านการแต่งหน้า ทำผมแบบที่สาวประเภทสองแทบทุกคนทำได้ จึงทำให้เมียลอยร้องๆ รำๆ แลกข้าว แลกเงิน ตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยจนจบการศึกษา

ปกติชอบทำกิจกรรมอยู่แล้ว มีอยู่ครั้งหนึ่งไปร้องเพลงที่งานเลี้ยงของคณะ แต่งตัวแบบย้อนยุค จัดเต็มทั้งหน้าและผมเลียนแบบยุค 60s ตอนนั้นทุกคนชอบมาก ต่อมาอาจารย์เลยพ่วงเราไปตลอดเวลามีงานเลี้ยง จนเราเหมือนเป็นนักแสดงไปเลย ไปฟ้อน ไปร้องเพลงแลกเงิน แลกข้าว พอได้เงินก็เก็บไว้จนเรียนจบ

หลังจบการศึกษาเมียลอยเลือกที่จะมีอาชีพอิสระ ทำงานอย่างที่ตนเองถนัด แต่งหน้า ทำผม ออกแบบเสื้อผ้า รวมถึงร้องเพลงตามวาระต่างๆ เช่นเคย จนกระทั่งวันหนึ่งมีโอกาสไปส่งเพื่อนที่โรงพยาบาล จึงทำให้เมียลอยได้เข้าไปร่วมกิจกรรมกับกลุ่มดนตรีจิตอาสาของโรงพยาบาล

เมื่อปีก่อนพาเพื่อนมาโรงพยาบาล พอดีเหลือบไปเห็นเปียโนตั้งอยู่ เลยคิดในใจว่าที่นี่ต้องมีการร้องเพลงแน่ๆ ตอนนั้นในใจคิดเลยว่า อยากมาร้องเพลงที่นี่จัง แต่ก็ยังสงสัยว่าต้องติดต่อใคร

ด้วยมิตรภาพกับบุคคลที่หลากหลาย มากมาย ทำให้เพียงไม่นาน เมียลอย ก็ได้เข้าไปพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับการร้องเพลงร่วมกับกลุ่มดนตรีจิตอาสาที่โรงพยาบาลมหาราช

“วันแรกที่ไปคุยกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ตอนนั้นแต่งตัวเป็นผู้ชายปกติ เขาก็บอกว่ามาเลยๆ มาช่วยกัน แล้วให้ไปเริ่มร้องเพลงอาทิตย์หน้า แต่พอวันแรกเขาเห็นเรา เขาก็อึ้งไปแป๊บนึง เพราะเราจัดเต็มไปเลยทั้งเสื้อผ้า หน้าผม เขาคงไม่คิดว่ากระเทยจะแต่งหญิงไปร้องเพลง”

โครงการดนตรีจิตอาสาที่โรงพยาบาลมีทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ โดยแบ่งประเภทบทเพลงในช่วงวันจันทร์และวันอังคารเป็นเพลงเก่า วันพุธเป็นเพลงพื้นเมือง วันพฤหัสบดีเป็นเพลงโฟล์คซอง และวันศุกร์เป็นเพลงลูกทุ่ง เมียลอยที่ถนัดร้องเพลงสุนทราภรณ์จึงเลือกไปร้องเพลงในทุกๆ วันจันทร์และวันอังคารตั้งแต่เวลา 12.00 – 13.30 น.

โอ้เคยภิรมย์สุขสมจินต์ แผ่นฟ้าแผ่นดินเชียงใหม่ ขวัญข้าคือดอยสุเทพเด่นไกลภูพิงค์นั่นไง ชีวิตแห่งเรา ไม่ลืมร้างสามัคคี…ท่อนหนึ่งของบทเพลง “ลาภูพิงค์” จากวงดนตรีสุนทราภรณ์ ที่ในอดีตขับร้องโดยคุณบุษบา รังสี แต่เมียลอย กลับเลือกนำมาขับร้องเป็นบทเพลงแรกของการเริ่มต้นทำงานดนตรีจิตอาสาที่โรงพยาบาล

“เราชอบเพลงสุนทราภรณ์มาตั้งแต่เด็ก เพราะฟังจากวิทยุที่แม่เปิดทุกวัน มันซึมซับ แล้วก็ฝึกร้องเองมาเรื่อยๆ ไม่ได้ไปเรียนร้องเพลงที่ไหน พอเข้ามาเรียนที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็มาเจอเพื่อนๆ ที่ชอบร้องเพลงแบบเดียวกัน เราก็เลยร้องรำ ทำเพลงมาตั้งแต่เรียนปี 1 ตอนนี้ถึงจะเรียนจบแล้ว ก็ยังหาโอกาสร้องเพลงที่เรารักอยู่เรื่อยๆ”

เมียลอย โปรดปรานบทเพลงและนักร้องของสุนทราภรณ์แทบทั้งสิ้น หลายร้อยบทเพลงที่ขับขานผ่านน้ำเสียงของเมียลอย รวมไปถึงความสวยงามจากเสื้อผ้า หน้าผมแบบจัดเต็มของเธอ สร้างความประทับใจให้กับผู้ป่วย และทุกคนที่ได้พบเห็น จนวันไหนหากเธอไม่ไปร้องเพลง ผู้ป่วยขาประจำก็มักถามหา

“เราเป็นแบบนี้ เราก็ต้องสร้างความแตกต่าง ไม่ใช่ไปร้องเพลงแบบทั่วไป วันที่ไปร้องเพลง จะตื่นขึ้นมาเตรียมตัว แต่งหน้า ทำผมตั้งแต่ 10 โมงเช้า ชุดที่เลือกเป็นชุดที่นิยมใส่กันในช่วงยุค 50s 60s สไตล์เรโทรแบบที่เราชอบ และเข้ากับเพลงที่ร้อง พอแต่งตัวเสร็จ ก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์เวสป้าไปที่โรงพยาบาล ช่วงแรกคนเห็นเขาก็ว่าเราแปลก เหมือนเราหลุดออกมาจากหนัง แต่เราทำแบบนี้มาตั้งแต่เรียนแล้ว ก็เลยไม่คิดว่ามันแปลกอะไร”

ตลอดระยะเวลาของการร้องเพลงร่วมกับกลุ่มดนตรีอาสามาจนเกือบครบขวบปี เมียลอย รู้สึกดี และมีความสุขทุกครั้งที่ไปร้องเพลงให้ผู้ป่วยฟัง แม้จะไม่ได้ค่าตอบแทนเลยสักบาทเดียว แต่คุณค่าที่ได้รับกลับประเมินค่ามิได้

“เวลาร้องเพลงแล้วได้สบตากับคนป่วยที่บางทีนั่งวิลล์ แชร์มา แล้วเขายิ้มกลับมาให้เรา แม้ว่าเขาจะเจ็บ จะป่วยอยู่ แต่เราก็รู้สึกว่าอย่างน้อย เราก็ทำให้ทุกคนที่เห็นเราเผลอยิ้มออกมา โดยพวกเขาอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ตั้งแต่เห็นรอยยิ้มเหล่านั้นก็ตั้งปณิธานเลยว่า ถ้าจันทร์ อังคารไหนว่างจะต้องไปร้องเพลงที่โรงพยาบาล”

“ทุกครั้งที่ร้องเพลง จะมีกล่องรับบริจาคตั้งอยู่ มีอยู่ครั้งหนึ่งร้องเพลงแล้วมีคนมาบริจาคเยอะมาก และเป็นแบงค์ใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย ทำให้ยิ่งรู้สึกดีเพราะมันเหมือนเราได้นำเงินนั้นไปช่วยโรงพยาบาลด้วย วันนั้นกลับมารู้สึกปริ่มมาก และทำให้เรามีความสนุกสนานในการไปร้องเพลงทุกวัน ไปให้ความสุข เราก็ได้รับความสุขกลับมาด้วย”

ทุกวันนี้นอกจากการร้องเพลงด้วยจิตอาสาแล้ว ด้วยพรสวรรค์ ความสามารถ ความถนัดและประสบการณ์เมียลอย ยังเปิดร้านเล็กๆ ของตัวเองในชื่อว่า “Dara Villa” ที่อาจเรียกกันเล่นๆ ว่าเป็นร้านโชว์สวยที่รวบรวมความสวยงามทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเอาไว้ แล้วแต่ใครจะปรารถนาให้รังสรรค์ปั้นแต่ง ตามคอนเซ็ปต์ “ถ้าอยากสวยเหมือนดารา Dara Villa จัดให้

ความสุขของเมียลอยในวันนี้จึงไม่ได้วัดกันด้วยตัวเลขในสมุดบัญชีธนาคาร หรือมีหน้าที่การงานมั่นคง เจริญก้าวหน้า หากแต่เป็นการได้ทำทุกสิ่งที่ตัวเองมีความสุขที่จะทำ เมียลอย ใจดี จึงเป็นสาวประเภทสองหัวใจนางฟ้าที่น่าอิจฉา เพราะเธอรู้ว่าความสุขที่แท้จริงของตัวเองอยู่ที่ไหน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook