เคล็ดลับดูแลผิวจากอากาศร้อนจัด สู่ผิวสวยสุขภาพดี เนียนนุ่มน่าสัมผัส จาก "ธัญ" (THANN)

เคล็ดลับดูแลผิวจากอากาศร้อนจัด สู่ผิวสวยสุขภาพดี เนียนนุ่มน่าสัมผัส จาก "ธัญ" (THANN)

เคล็ดลับดูแลผิวจากอากาศร้อนจัด สู่ผิวสวยสุขภาพดี เนียนนุ่มน่าสัมผัส จาก "ธัญ" (THANN)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สภาพอากาศที่ร้อนจัดในปัจจุบัน ไม่เพียงก่อปัญหาเรื่องผิวหมองคล้ำ กระ ฝ้า และจุดด่างดำเท่านั้น ความร้อนยังทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้อย่างรวดเร็ว สังเกตได้จากปริมาณเหงื่อที่ร่างกายสูญเสียไป หลายๆ คนจึงมักจะหลบร้อนไปอยู่ในห้องปรับอากาศ แต่กลับพบว่าผิวยิ่งแห้งหนักกว่าเดิม เนื่องจากการทำงานของเครื่องปรับอากาศจะดึงความชื้นในอากาศออกไป อากาศในห้องจึงแห้งขึ้น ส่งผลให้ผิวเกิดสภาวะ "ผิวขาดน้ำ" (Dehydrated skin)


ล่าสุดแบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม "ธัญ" (THANN) จัดกิจกรรมแนะนำวิธีดูแลผิวจากสภาพอากาศร้อนจัดในปัจจุบัน โดยเชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง แพทย์หญิงนิโลบล เจริญวุฒิ มาให้ความรู้พร้อมวิธีการดูแลผิวให้เนียนนุ่มน่าสัมผัส

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง แพทย์หญิงนิโลบล เจริญวุฒิ แนะนำวิธีการดูแลตัวเองจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดว่า  "สภาพอากาศในปัจจุบันที่ความร้อนเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อร่างกายทั้งภายในและภายนอก ทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดได้ง่ายมากขึ้น อีกทั้งยังส่งผลให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลียไม่สดชื่น และสามารถก่อให้เกิดโรคลมแดด หรือ Heatstroke โดยเฉพาะคนที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งอยู่ท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลานาน หากอุณหภูมิร่างกายเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 40 องศาเซลเซียส จะมีผลกระทบต่อการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบประสาท และอวัยวะต่างๆ ทำงานล้มเหลวจนทำให้เสียชีวิตได้


สำหรับคนที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง ต้องมีการเตรียมร่างกายให้พร้อม โดยพยายามดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อปกป้องร่างกายไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำ หรือ Dehydrated นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ พร้อมทั้งฟิตร่างกายให้แข็งแรงอยู่ในสภาวะพร้อมอยู่เสมอกับการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องเผชิญแสงแดดและความร้อนอยู่ทั้งวัน

นอกจากนี้แสงแดดและความร้อนยังส่งผลกระทบต่อผิวพรรณของเราด้วย เพราะความร้อนสามารถทำให้ผิวขาดความชุ่มรวมถึงความหมองคล้ำได้ ยิ่งสภาพอากาศที่ร้อนในปัจจุบันทำให้คนต้องหลบวิ่งเข้าห้องแอร์ ผิวจึงปรับตัวไม่ทันตามสภาวะอากาศที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน ทำให้สภาพผิวหน้ามีทั้งความแห้งและความมันผสมกัน ทำให้เกราะปกป้องผิวหน้า (Skin Barrier) อ่อนแอ นำมาซึ่งปัญหาผิวขาดน้ำ (Dehydrated skin) ส่งผลให้ผิวเกิดปัญหาผิวอักเสบ แพ้ง่าย ผดผื่น ความหมองคล้ำ รวมถึงการเกิดสิวตามมาได้


ส่วนการดูแลและปกป้องผิวจากปัญหาผิวขาดน้ำ คือ พยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศร้อนจัดและเย็นจัดสลับกัน ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อวันสามารถคำนวณได้จาก น้ำหนักตัว (ก.ก.) / 2 x 2.2 x 30 = ……ซีซี (1,000 ซีซี = 1 ลิตร, 1 ลิตร = 4 แก้ว) ตัวอย่างเช่น น้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม การคำนวณคือ 50/2 x 2.2 x 30 = 1,650 ซีซี หรือประมาณ 6 - 7 แก้วสิ่งที่ขาดไม่เลยคือ อย่าลืมทาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ควรเลือกชนิดที่ไม่ทิ้งความมันส่วนเกิน และไม่อุดตันรูขุมขน และมีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติ เพราะพื้นฐานผิวที่ดี คือ ผิวที่มีความชุ่มชื้น นอกจานี้ควรทาผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นประจำด้วย"

ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำสำหรับกิจกรรมครั้งนี้คือ "ไฮเดรติ้ง อิมัลชั่น" (Hydrating Emulsion) ผลิตภัณฑ์เติมเต็มความชุ่มชื้นสำหรับผิวหน้าสูตรที่พัฒนามาเพื่อแก้ปัญหาผิวขาดน้ำโดยเฉพาะ ไม่ทิ้งความมันส่วนเกิน และไม่อุดตันรูขุมขน อุดมด้วยสารสกัดธรรมชาตินานาชนิด อาทิ สารสกัดจากใบชิโซะ (Nano Shiso Extract) เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ และอาการระคายเคืองต่างๆ พร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะ, สารสกัดจากต้นไมโรทัมนัส (Myrothamnus Extract) พืชทะเลทรายจากทวีปแอฟริกาใต้ที่ได้รับฉายาต้นไม้คืนชีพ เพียงโดนน้ำแค่หยดเดียวก็สามารถฟื้นคืนความมีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง

อุดมด้วยสารอาร์บูติน (Arbutin) และโพลีฟีนอล (Polyphenol) เสริมความแข็งแรงให้ผิว เพิ่มความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 48 ชั่วโมง พร้อมคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ออกซิเด้นท์, น้ำมันเมล็ดชาออร์แกนิค (Organic Camellia Seed Oil) อุดมด้วยวิตามิน A, B, D, E, กรดโอเลอิก, โอเมก้า 3, 6, 9 และโพลีฟีนอล (Polyphenol) ทำหน้าที่เป็นสารแอนตี้ออกซิเด้นท์, น้ำมันสกัดจากถั่วอินคาออร์แกนิค (Organic Inca Inchi Seed Oil) อุดมด้วยโอเมก้า 3,6,9 ปกป้อง และลดการระคายเคืองของผิวจากแสงแดด, เชีย บัตเตอร์ (Shea butter), โจโจ้บา ออยล์ (Jojoba oil), น้ำมันมะกอก (Olive oil), สารสกัดจากสาหร่ายทะเล (Algin Extract) และ ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) ฟื้นฟูและปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน บำรุงผิวที่อ่อนล้าได้อย่างอ่อนโยน

และผลิตภัณฑ์ "ไรซ์ เอกซ์แทรกท์ มอยส์เจอร์ไรซิ่ง ครีม" (Rice Extract Moisturising Cream) ผลิตภัณฑ์สูตรล่าสุดที่นำสารสกัดสำคัญจากเซลล์ต้นกำเนิดของข้าวแดง (Rice Callus Culture extract) อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มอบความชุ่มชื้นสู่ผิวได้อย่างยาวนาน พร้อมคืนความกระจ่างใสสู่ผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง หรือระคายเคืองง่าย ด้วยคุณค่าของสารสกัดธรรมชาติทรงประสิทธิภาพ 4 ชนิด อาทิ สารสกัดจากเซลล์ต้นกำเนิดของข้าวแดง (Rice Callus Culture Extract) อุดมด้วยกรดไขมันที่ดีต่อผิว, วิตามิน อี และสารแกมม่าออริซานอล ช่วยมอบความชุ่มชื้น พร้อมคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระทรงประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ, น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil) ด้วยน้ำมันที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก สามารถซึมซาบสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหนอะหนะและไม่อุดตันรูขุมขน อุดมด้วยวิตามินอีที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระทรงประสิทธิภาพ ช่วยรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของผิว พร้อมด้วย เชีย บัตเตอร์ (Shea Butter) และ อีฟนิ่ง พริมโรส ออร์แกนิค (Organic Evening Primrose) ที่ได้รับการรับรองจาก USDA ประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น ด้วยสูตรพิเศษที่ปราศจากสารพาราเบน (Paraben Free)

เผยผิวสวยสุขภาพดี เนียนนุ่มน่าสัมผัสด้วยผลิตภัณฑ์ "ไฮเดรติ้ง อิมัลชั่น" (Hydrating emulsion) ขนาด 100g  ราคา 1,200 บาท และ ‘ไรซ์ เอกซ์แทรกท์ มอยส์เจอร์ไรซิ่ง ครีม’ (Rice extract moisturising cream) ขนาด 80g ราคา 1,200 บาท ได้แล้ววันนี้ที่ร้าน "ธัญ" (THANN) ทั้ง 16 สาขาทั่วประเทศ อาทิ สาขาสุขุมวิท 47, ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ชั้น 3 ศูนย์การค้าเกษร, ชั้น 5 ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม, ชั้น1 และชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามดิส คัฟเวอรี่, ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์, ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต, ร้านวูว์ ถนนเจริญราษฎร์ และตรงข้ามวัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ และสาขาใหม่ล่าสุด ชั้น 4 ไอคอน สยาม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook