10 ทะเลไทย สวยติดอันดับโลก ต้องไปให้ได้ซักครั้ง

10 ทะเลไทย สวยติดอันดับโลก ต้องไปให้ได้ซักครั้ง

10 ทะเลไทย สวยติดอันดับโลก ต้องไปให้ได้ซักครั้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เสียงใครที่บอกว่าทะเลอื่นใดสวยกว่า ทะเลไทย ไม่มีอีกแล้ว อยากจะบอกว่าทะเลที่ไหนก็ไม่สวยเท่ากับทะเลไทย สังเกตได้จากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในบ้านเราช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา ทะเลตามจังหวัดต่างๆ ฟากฝั่งตะวันออกและภาคใต้ล้วนขายดีกันเป็นเทน้ำเทท่า เพราะด้วยบรรยากาศที่ดูเป็นธรรมชาติแบบไม่ปรุงแต่ง น้ำทะเลก็เขียวใส มองเห็นเหล่าปลาสีสันสวยงามแหวกว่ายกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน เหมาะสุดๆ กับการเดินทางมาพักผ่อน ทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายหลังจากที่เหนื่อยล้าในหน้าที่การงานกันมาแทบทั้งปี อีกทั้งด้วยอิทธิฤทธิ์ความสวยงามของเจ้าทะเลในบ้านเรานี่แหละที่ส่งผลให้ชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวครั้งแรกแล้วติดใจ

เชื่อว่าแม้แต่คนไทยเองก็ยังไปเที่ยวทะเล ในประเทศเรากันไม่ครบทุกที่ วันนี้ก็เลยถือโอกาสจัด 10 อันดับทะเลไทยที่สวยไปติดอันดับโลกมาฝาก จะได้เป็นส่วนประกอบหนึ่งก่อนการตัดสินแพคกระเป๋ามาเที่ยวผ่อนคลายในวันหยุดยาวกับครอบครัว กับเพื่อน หรือกับคนรักก็ได้ทั้งนั้น

ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ จะชอบเหมือนกันรึเปล่า เอาเฉพาะ Landscape นะครับเพราะรูปที่ถ่ายไม่เน้นใต้น้ำ รูปเซ็ตนี้เก็บมา เกือบๆ 5 ปีแล้วเที่ยวเรื่อยๆ ครับ ยังไม่ได้ไปอีกหลายๆ ที่เลย ถ้ามีโอกาส ไม่อยากให้พลาดกันเลยครับ เอาลงที่ละ รูป สองรูปนะครับ

1. หมู่เกาะสิมิลัน ทะเลน้ำใส

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ตั้งอยู่ในจังหวัดพังงา อำเภอท้ายเหมือง ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแถบบริเวณนี้ หรือแม้แต่นักเที่ยวที่เดินทางมาสัมผัสเองต่างก็เปรียบเปรยว่าที่นี่เหมือนสรวงสวรรค์ใต้สมุทรที่อุดมไปด้วยสิ่งมีชีวิตใต้น้ำหลากสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นหมู่ปะการัง หรือหมู่ปลาหลากสีสันน้อยใหญ่ มีน้ำทะเลใสราวกับกระจก พอมองภาพกว้างๆ แล้วนึกว่าเรือลอยได้ บริเวณชายหาดยังมีหาดทรายสีขาวนวลเนียนน่าเดินเลยลุยรับลมทะเลเป็นอย่างมาก  อีกทั้งที่นี่ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของแหล่งน้ำลึกที่สวยงาม ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก แนะนำว่า ใครที่จะเดินทางมาที่นี่อยากให้มาอยู่สัก 3 วัน 2 คืน รับรองว่าจุใจแน่ ทั้งดำน้ำ ทั้งดูทัศนียภาพธรรมชาติรอบๆ ที่สวยๆ น่าจะเต็มอิ่มจนไม่อยากกลับเลยทีเดียวล่ะ

หมู่เกาะสิมิลัน ทะเลน้ำใสหมู่เกาะสิมิลัน ทะเลน้ำใส

เกาะสิมิลันทะเลน้ำใส

หมู่เกาะสิมิลัน ทะเลน้ำใสหมู่เกาะสิมิลัน ทะเลน้ำใส

เกาะสิมิลันทะเลน้ำใส

2. หมู่เกาะสุรินทร์ ทะเลฝั่งอันดามัน

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ถูกค้นพบโดย พระยาสุรินทราชา เทศาเมืองภูเก็ต เมื่อคราวที่ท่านเดินทางมาสำรวจทะเลฝั่งอันดามัน จังหวัดพังงา อีกทั้งยังเป็นผู้ตั้งชื่อให้กับหมู่เกาะนี้ด้วย อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์มีพื้นที่เป็นป่าสงวน เป็นหมู่เกาะที่อยู่ในทะเลฝั่งอันดามันและอยู่ติดกับชายแดนประเทศพม่า มีทิวทัศน์ทางทะเลที่สวยงาม เต็มไปด้วยหมู่ปะการังและมีสภาพป่าที่มีความสมบูรณ์ มีหาดทรายขาวสะอาด มากไปด้วยนกนานาชนิด รวมถึงยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่มีความสวยงามที่สุดในประเทศ พอได้ดำลงไปสัมผัสกับโลกใต้สมุทรคุณจะได้พบกับปะการังเขากวางที่ยาวสุดลูกหูลูกตา มีความงดงามเกินที่จะบรรยาย อยากให้ลองมาสัมผัสเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ด้วยตัวเอง หากใครที่จะมาเที่ยวที่นี่ แนะนำให้มาอยู่ค้างคืนสัก 3 วัน 2 คืน เพราะที่นี่มีจุดให้ดำน้ำหลากหลาย รวมวิวรอบชายหาดก็งดงามจนอยากจะเก็บภาพเอาไว้ทั้งหมด รับรองว่ามาที่นี่แล้วจะได้รับความประทับใจกลับไปอย่างแน่นอน

สุรินทร์สุรินทร์

สุรินทร์

3. เกาะตาชัย

เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของหมู่เกาะสิมิลัน ไม่ไกลจากหมู่เกาะสุรินทร์มากนัก นับว่าเป็นเกาะที่ 10 ที่ถูกค้นพบมาได้สักพัก แต่เพิ่งจะถูกผนวกรวมเข้ากับหมู่เกาะสิมิลัน และเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาพักผ่อน เดินชมธรรมชาติที่สวยงามมาได้ 2 - 3 ปีแล้ว เหตุผลที่มีชื่อว่า “เกาะตาชัย” นั่นเพราะว่าเป็นการตั้งตามชื่อของบุคคลที่ค้นพบเกาะนี้เป็นคนแรก เกาะตาชัยเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางในแบบไปเช้าเย็นกลับได้เพียงอย่างเดียว โดยจะมีช่วงเปิดปิดเกาะเพื่อให้ธรรมชาติได้ทำการฟื้นฟู สำหรับช่วงที่เกาะตาชัยจะงดงามที่สุด คือ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - เดือนเมษายน หลังจากนั้นก็จะทำการปิดเกาะเป็นเวลา 6 เดือน ก่อนเปิดให้นักเที่ยวได้เดินทางเข้ามาชื่นชมความสวยงามครั้ง จุดเด่นที่ทำให้ใครต่อใครต่างก็อยากเดินทางมาที่เกาะตาชัย นั่นเพราะว่าชายหาดที่มีทรายขาวเม็ดละเอียดเนียนนุ่มทอดตัวยาวขนานไปกับพื้นน้ำที่มีระยะทางประมาณ 700 เมตร รวมถึงบนเกาะยังมีกิจกรรมเดินป่าเข้าไปดู “ปูไก่” ปูน้ำจืดที่ชอบอาศัยอยู่ตามธารน้ำ เวลาร้องจะมีเสียงคล้ายไก่ ออกหากินตอนกลางคืน รวมถึงกิจกรรมดำน้ำดูปะการังก็น่าสนใจเช่นเดียวกัน

เกาะตาชัยเกาะตาชัย

เกาะตาชัย

4. อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ทะเลอันดามัน

“ตะรุเตา” เพี้ยนมาจากคำว่า “ตะโละเตรา” ในภาษามลายู มีความหมายว่า “มีอ่าวมาก” อุทยานแห่งชาติตะรุเตาตั้งอยู่ในฝั่งทะเลอันดามัน บริเวณช่องแคบมะละกา แถบมหาสมุทรอินเดีย ในท้องที่ของจังหวัดสตูล โดยทางใต้ของอุทยานแห่งชาติอยู่ห่างจากชายแดนไทย - มาเลเซีย เพียง 4.8 กิโลเมตร นับว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งความใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่อยากจะเดินทางมาพักผ่อนชื่นชมธรรมชาติ ที่นี่เป็นศูนย์รวมความงามที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ทั้งบนเกาะและในน้ำ มีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์เป็นที่อาศัยของสัตว์นานาชนิด อีกทั้งใต้สมุทรก็ยังอุดมไปด้วยหมู่ปะการังที่มีสีสันสวยสดจนเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่วโลก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตาประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า 51 เกาะ ว่ากันว่าบนเกาะตะรุเตายังเคยเป็น “ทัณฑสถาน” อีกด้วย ใครอยากสัมผัส หรืออยากศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมา ก็เดินทางมาที่นี่ได้ คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม เพราะมาที่เดียวเที่ยวได้ทุกเกาะ 

เกาะรอกลอยเกาะรอกลอย

เกาะรอกลอย

เกาะกระเกาะกระ

เกาะกระ เป็นเกาะเล็กๆ ในทะเล ที่อยู่ ติดๆ หลีเป๊ะเลย

หาดทรายขาว เกาะราวีหาดทรายขาว เกาะราวี

หาดทรายขาว เกาะราวี

เกาะหลีเป๊ะเกาะหลีเป๊ะ

เกาะหลีเป๊ะ

เกาะไข่เกาะไข่

เกาะไข่ จะแวะเวลาไป ตะรุเตาครับ

ตะรุเตา ทะเลอันดามันตะรุเตา ทะเลอันดามัน

ตะรุเตา ท่าเรือ ตะโล้ะวาว

5. อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตนธารา – หมู่เกาะพีพี

อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตนธารา – หมู่เกาะพีพี ตั้งอยู่ในจังหวัดกระบี่ มีพื้นที่ส่วนใหญ่ครอบคลุมบริเวณทะเลอันดามันด้านทิศตะวันตกของภาคใต้ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในตำนานที่เป็นยุคบุกเบิกการเดินทางมาเที่ยวทะเล นับเป็นอีกหนึ่งอุทยานแห่งชาติที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ อีกทั้งรอบๆ เกาะ ยังอุดมไปด้วยหมู่ปะการัง กัลปังหา มีทิวทัศน์ใต้ทะเลที่มีความสวยงามแปลกตา มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาตที่โดดเด่น คือ ภูเขาหินปูนที่มีหน้าผาเป็นชั้นๆ มีถ้ำที่สวยงาม ตลอดจนชายหาดทอดยาวขาวสะอาด รวมไปถึงสุสานหอยที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมเดินทางไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก เราขอแนะนำให้ไปหาดมาหยา และอ่าวปิเละ รับรองว่าคุณจะติดใจไม่รู้ลืม

หมู่เกาะพีพีหมู่เกาะพีพี

จุดชมวิว เกาะพีพีจุดชมวิว เกาะพีพี

จุดชมวิว เกาะพีพี

อ่าวปิเละอ่าวปิเละ

อ่าวปิเละ

6. เกาะราชา น้ำทะเลใส

เกาะราชา ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองภูเก็ตมากนัก สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 เกาะ คือ เกาะราชาใหญ่และเกาะราชาน้อยที่ตั้งอยู่ห่างกันประมาณ 6 กิโลเมตร มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ โดยทางด้านทิศตะวันตกของเกาะมีหาดทรายที่อยู่ระหว่างหุบเขา มีลักษณะคล้าย “เกือกม้า” เรียกว่า “อ่าวปะตก” บริเวณชายหาดบนเกาะมีทรายละเอียดขาวสะอาด น้ำทะเลใส มีพื้นที่ราบและเนินเขาที่มีความสูงไม่มากนัก มีชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะราชาใหญ่ประมาณ 16 ครอบครัว ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนมะพร้าวและสวนผลไม้ ส่วนพื้นที่ราบที่อยู่ติดทะเล ชาวบ้าน รวมถึงนักลงทุนได้พัฒนาบางส่วนเป็นที่พักและร้านอาหารสำหรับนักท่องเที่ยว ใครที่ยังไม่เคยมา อยากให้ลองมาสัมผัสความสวยงามของที่นี่ นอกจากนั้น รอบๆ เกาะยังมีชายหลาดเล็กๆ อยู่หายแห่ง เป็นบรรยากาศชิลๆ เหมาะแก่การมาพักผ่อน รับลมทะเลเป็นอย่างมาก 

เกาะราชา น้ำทะเลใสเกาะราชา น้ำทะเลใส

เกาะราชา น้ำทะเลใสเกาะราชา น้ำทะเลใส

7. เกาะห้อง ทะเลสีเขียวมรกต

เกาะห้อง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จังหวัดกระบี่ เรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า “เกาะเหลาบิเละ” เป็นเกาะที่มีบรรยากาศโดยรอบสวยงาม โอบล้อมด้วยผืนน้ำทะเลสีคราม อุดมไปด้วยเหล่ากัลปังหาและปะการังที่อยู่ไม่ไกลจากจากชายหาดมากนัก จุดที่เหมาะแก่การเดินทางมาพักผ่อน คือ อ่าวบิเละ เป็นอ่าวที่มีลักษณะเป็นหาดทรายโค้งรูปนกบิน มีน้ำทะเลสีเขียวมรกต มองเห็นฝูงปลาเล็กๆ แหวกว่ายอยู่ทั่วผืนน้ำ ส่วนกิจกรรมที่แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวเมื่อเดินทางมาที่นี่ คือ การพายเรือคายัค และการดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่สวยงามติด 1 ใน 10 ของโลกที่นักท่องเที่ยวควรเดินทางมาพักผ่อน

ทะเลแหวกทะเลแหวก

ทะเลแหวก

เกาะห้องเกาะห้อง

เกาะห้อง

หาดไร่เลย์หาดไร่เลย์

หาดไร่เลย์

8. เกาะไข่นอก รับลมทะเล

หากจะเอ่ยถึง เกาะไข่ ในประเทศไทยนั้นมีอยู่หลายแห่งที่อาจมีชื่อเรียกซ้ำกัน นั่นเป็นเพราะว่า เกาะทุกเกาะในบริเวณทะเลอันดามันจะมีลักษณะคล้ายรูปไข่ดาว แต่เกาะไข่ที่มีความสวยงาม ควรค่าแก่การเดินทางไปท่องเที่ยวมีอยู่ 2 เกาะ ได้แก่ เกาะไข่ ตะรุเตา จังหวัดสตูล และเกาะไข่ จังหวัดพังงา โดยเกาะไข่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดพังงานนั้นมีขนาดเล็กที่อยู่ในอันดับที่ 8 นี้ อยู่ในพื้นที่ของอ่าวพังงา มีอยู่ด้วยกัน 3 เกาะ คือ เกาะไข่ใน เกาะไข่นอก และเกาะไข่นุ้ย โดยในปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปพักผ่อน รับลมทะเล ดำน้ำดูปะการังได้เฉพาะสามเกาะนี้เท่านั้น แต่ที่เราขอแนะนำเป็นพิเศษ อยากให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางไปสัมผัส คือ เกาะไข่นอก เป็นเกาะที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ มีหาดทรายขาว น้ำทะเลใส มองเห็นเหล่าปลาสวยงามได้หลากหลายชนิด บริเวณด้านหน้าเกาะมีชายหาดที่เป็นหาดทรายขาวบริสุทธิ์ เหมาะแก่การนอนอาบแดด สามารถลงเล่นน้ำทะเลได้ แต่ต้องระมัดระวังคลื่นลมแรงบ้างในบางวัน ควรลงเล่นน้ำในฝั่งที่คลื่นลมสงบ อีกทั้งบนเกาะยังมีร้านอาหารและเครื่องดื่มง่ายๆ ไว้คอยให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างครบครันอีกด้วย

เกาะไข่นอก รับลมทะเลเกาะไข่นอก รับลมทะเล

9. เกาะหมาก งดงามกลางท้องทะเล

เกาะหมาก เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ยังคงความงดงามตามธรรมชาติท่ามกลางท้องทะเลในฝั่งอ่าวไทยไว้ได้อย่างครบถ้วน มีพื้นที่กว้างใหญ่เป็นอันดับ 3 รองลงมาจาก เกาะช้าง และเกาะกูด จังหวัดตราด เกาะหมาก มีลักษณะคล้ายรูปดาวสี่แฉก มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสวนมะพร้าว ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ประกอบอาชีพสวนมะพร้าวและสวนยางพารา บริเวณชายหาดมีความสวยงามตลอดแนว โอบล้อมไปด้วยน้ำทะเลใสสะอาด อีกทั้งหมู่เกาะใกล้ๆ ยังมีปะการังหลากหลายสายพันธ์ุที่สวยงามเหมาะแก่การที่นักท่องเที่ยวควรมาเยี่ยมชม บรรยากาศโดยรอบเกาะเงียบสงบ แต่ก็ยังคงไม่ไร้ซึ่งความสะดวกสบาย หากใครที่ชอบการพักผ่อนโดยปราศจากสิ่งรบกวนรอ

อันตรายที่ควรระวังจากการไปเที่ยวทะเล

ระวังเศษแก้ว เศษเปลือกหอย เศษขยะมีคมที่อยู่บริเวณชายหาด

ขยะต่างๆ ที่อยู่บริเวณชายหาด หรือในทะเล เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรชะล่าใจ เพราะบางทีเศษเล็กเศษน้อยเหล่านั้นถึงแม้จะบาดเท้าเพียงเล็กๆ แต่ก็สามารถทำให้เป็นบาดทะยักได้เช่นกัน หากเศษนั้นมีสนิม หรือเชื้อโรคติดอยู่ด้วย ทางที่ดีหากจะเดินบนชายหาดก็สังเกตรอบๆ เดินอย่างระมัดระวัง หรือไม่ก็ไม่ควรเดินเท้าเปล่า

ระวังสัตว์ทะเลมีพิษ โดยเฉพาะแมงกะพรุน

อย่างที่เราน่าจะเคยเห็นกันอยู่บ่อยๆ แมงกะพรุนเหล่านี้มักจะถูกพัดมาอยู่บริเวณชายฝั่งทะเล ซึ่งพิษของมันนั้นจะอยู่ที่หนวด หากสัมผัสถูกผิวหนังก็จะมีอาการปวดแสบปวดร้อน บริเวณที่โดนก็จะไหม้เกรียม เป็นตุ่มพอง และแตกเป็นแผล ไปจนถึงมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยหากได้รับพิษที่รุนแรงก็อาจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นก่อนลงเล่นน้ำ หรือเดินเล่นบริเวณชายหาดควรสังเกตให้ดีว่ามีซากของแมงกะพรุนหรือไม่ จะมีลักษณะเป็นตัวสีขาว ใส เป็นเมือกๆ ลอยอยู่ใกล้ๆ บริเวณชายฝั่งทะเล หากพบ ก็ควรหลีกเลี่ยงไปเล่นน้ำที่บริเวณอื่น ถึงแม้ว่าแมงกะพรุนตัวนั้นจะตายแล้ว แต่ก็ยังคงมีพิษที่ร้ายแรงอยู่

ระวังการจมน้ำ

พอพูดถึงการไปเที่ยวทะเล โดยเฉพาะการที่ต้องลงไปเล่นน้ำทะเลด้วยแล้ว เรื่องของการจมน้ำเป็นเรื่องที่นักท่องเที่ยวจะประมาทไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะเป็นสาเหตุต้นๆ ของการเสียชีวิต ถึงแม้ว่าจะเป็นระดับน้ำทะเลที่ไม่ได้มีความลึกมาก แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ถึงแก่ชีวิตได้ เมื่อจมน้ำก็จะมีอาการหมดสติ หยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้น แต่หากว่าไม่หมดสติก็อาจจะอาเจียน ความดันต่ำ ปวดศีรษะ และอาจเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจได้ ทางที่ดีเมื่อลงน้ำทะเลก็ควรสวมใส่อุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันตนเองเอาไว้ อย่าง ห่วงยา ห่วงคอ หรือเสื้อชูชีพ และที่สำคัญ คือ ไม่ควรลงเล่นน้ำในขณะที่มีคลื่นลมแรง นอกจากนี้ก็ควรมีเบอร์โทรศัพท์ของโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดติดกระเป๋าไว้เผื่อเหตุฉุกเฉินได้ก็จะยิ่งดี

อัลบั้มภาพ 21 ภาพ

อัลบั้มภาพ 21 ภาพ ของ 10 ทะเลไทย สวยติดอันดับโลก ต้องไปให้ได้ซักครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook