รามอน เวก้า อดีตนักเตะอาชีพที่หลงใหลการลงทุนจนรวยเละเทะ

รามอน เวก้า อดีตนักเตะอาชีพที่หลงใหลการลงทุนจนรวยเละเทะ

รามอน เวก้า อดีตนักเตะอาชีพที่หลงใหลการลงทุนจนรวยเละเทะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้กระทั่งคนที่ติดตามพรีเมียร์ลีกมาอย่างยาวนาน ชื่อของ รามอน เวกา อาจจะเลือนรางไปจากความทรงจำ

เขาคือกองหลังทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่เคยค้าแข้งกับ ท็อตแนมป์ ฮ็อตสเปอร์ แต่ไม่ได้มีผลงานโดดเด่นมากนัก โทรฟีเดียวที่คว้ามาได้ในลีกสูงสุดของอังกฤษคือ แชมป์ลีกคัพ ฤดูกาล 1998-1999 ก่อนจะเลิกเล่นกับทีมลีกล่างของฝรั่งเศสด้วยวัยเพียง 32 ปี

ทว่าหลังจากนั้นเขากลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ จากรายได้เพียงแค่ 15,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (6 แสนบาท) สมัยค้าแข้ง กลายเป็นคนที่ทำเงินไปแล้วกว่า 15 ล้านปอนด์ (ราว 600 ล้านบาท) หลังแขวนสตั๊ด  

เขาเพียงแค่โชคดีหรือตั้งใจ ร่วมติดตามไปพร้อมกับ Main Stand

ผู้อพยพจากสเปน

หากดูเส้นทางนักฟุตบอลของเวกา อาจจะไม่ได้ดูหวือหวากว่าคนอื่น แม้ว่าเขาจะเกิดบนผืนแผ่นดินสวิตเซอร์แลนด์ แต่การที่พ่อแม่ที่เป็นผู้อพยพชาวสเปน ที่หนีการปกครองที่เหี้ยมโหดในยุคสมัยของนายพลฟรังโก ทำให้ชีวิตในวัยเด็กเขาต้องลำบากไม่น้อย

“ผมไม่เคยลืมว่าผมมาจากไหน ผมเป็นผู้อพยพ พ่อแม่ของผมต้องหางานทำในประเทศที่พวกเขาพูดภาษาเขาไม่ได้” เวกาย้อนความหลังกับ The Sun


photo : Finanz und Wirtschaft

“ผมเติบโตในบ้านที่เราต้องดิ้นรนหางาน มองหาโอกาสที่ดีกว่าต่อไปเรื่อยๆ นั่นทำให้ผมได้รับทัศนคติของการเป็นผู้อพยพมา

“ฟุตบอลกลายเป็นทางหนี แต่มันก็สิ่งที่ทำให้ถูกยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของสังคมสวิสเช่นกัน”

เวกา เริ่มต้นชีวิตอาชีพกับกราสฮ็อปเปอร์ ซูริค ทีมดังของแดนนาฬิกา และถูกเรียกติดทีมชาติครั้งแรกตอนอายุ 22 ภายใต้การคุมทีมของรอย ฮอดจ์สัน กุนซือชาวอังกฤษ

หลังจากเล่นให้ กราสฮ็อปเปอร์อยู่ 6 ฤดูกาล เขาก็ได้ย้ายไปเล่นในต่างประเทศครั้งแรกกับ กายารี และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาพูดได้หลายภาษา เวกาเล่นในอิตาลีอยู่เพียงฤดูกาลเดียว ก็ถูกสเปอร์สควักเงิน 3.75 ล้านปอนด์ดึงตัวเขาไปร่วมทีม

อย่างไรก็ดี แม้ช่วงแรกเวกา จะได้รับโอกาสลงสนามบ่อยครั้ง แต่หลังซีซั่นที่ 3 เป็นต้นไป สถานะเขาก็เป็นเพียงแค่อะไหล่ของทีมเท่านั้น ก่อนจะถูกปล่อยให้ กลาสโกว์ เซลติก ยืมตัวไปใช้ในฤดูกาล 2000-2001 และที่นั่นอาจจะเป็นความสำเร็จที่สุดในชีวิตนักเตะอาชีพของเขา เมื่อร่วมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในประเทศกับม้าลายขาวเขียวได้ในฤดูกาลดังกล่าว

หลังจากนั้น ชื่อของเวกาก็ดูจะค่อยๆ เงียบหายไป เขายังคงเล่นอยู่ในเกาะอังกฤษกับ วัตฟอร์ด ที่ตอนนั้นอยู่ในลีกดิวิชั่น 1 ก่อนจะไปแขวนสตั๊ดเงียบๆ กับ เครเตล ในลีกรองของฝรั่งเศส และจบสถิติรับใช้ทีมชาติไว้ที่ 23 นัด

ดูเหมือนอาจจะเป็นจุดจบ แต่นั้นคือจุดเริ่มต้นของชีวิตเขาต่างหาก

จากวิกฤติสู่โอกาส


photo : Twitter

มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับนักฟุตบอลชื่อเสียงโด่งดัง ที่ประสบปัญหาหลังเลิกเล่น โดยมีสาเหตุหลักมาจากการปรับตัวไม่ทันกับชีวิตหลังแขวนสตั๊ด เพราะก่อนหน้านั้นพวกเขาคือนักเตะที่มีทั้งชื่อเสียง เงินทอง และเกียรติยศ แต่มันก็กลายเป็นเพียงเรื่องเล่าหลังจากนั้น

เวกา ก็เป็นคนหนึ่งที่ประสบปัญหานี้ แม้ว่าเขาอาจจะไม่ใช่นักเตะที่มีชื่อเสียงระดับโลก หรือมีรายได้ระดับท็อป แต่การมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก ก็ช่วยเพิ่มมูลค่าให้เขาไม่น้อย และนั่นก็กลายเป็นดาบสองคมให้เขาหลังเลิกเล่น

“ส่วนที่ยากคือตอนคุณเล่นฟุตบอลคุณใช้ชีวิตอยู่ในฟองสบู่ มันสวยงาม คุณใช้ชีวิตอยู่ในความฝัน” อดีตกองหลังไก่เดือยทองอธิบายกับ The Sun

“แต่คุณเริ่มรู้สึกถึงความจริงตอนที่คุณไม่ได้ตระหนักว่าชีวิตยังมีส่วนนอกสนาม บางครั้งคุณก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันอย่างไร ตอนที่คุณเลิกเล่น มันคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาก คุณไม่ใช่เด็ก 20 อีกต่อไป ส่วนใหญ่น่าจะราว 35 ปีแล้ว”


photo :
Bwin

“คุณจะทำอะไรตอนนี้? คุณทำสำเร็จไปแล้วกับสิ่งที่เหมือนฝันตลอด 15 ปี และมันก็หยุดลงเพียงแค่ชั่วข้ามคืน”

“ทันใดนั้น คุณเป็นเพียงผู้ชายข้างถนน และไม่มีใครมาแตะคุณที่ไหล่อีกแล้ว คุณคืออดีตนักเตะ แต่ตอนนี้คุณก็แค่คนนิรนาม”  

ในช่วงท้ายของชีวิตนักเตะอาชีพ เวกา จึงตัดสินใจตั้งบริษัทที่ชื่อว่า Duet Group มันเป็นบริษัทจัดการกองทุนบริหารความเสี่ยง แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่เขาเตรียมตัวมาตั้งแต่เนิ่นๆ แต่เวกาก็ใช้เวลาอยู่นานหลายปีกว่าจะลงตัว

“มันเป็นเรื่องยากที่ต้องเจอ แต่ถ้าคุณเตรียมตัวเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งกับบางสิ่งก่อนที่คุณจะเลิกเล่น อย่างน้อยคุณก็มีเป้าหมายหลังแขวนสตั๊ด”

“ผมโชคดี แต่ผมก็รู้ว่ามันยากมากๆ แม้ว่าผมจะเตรียมตัวกับมันมาบ้างก็ตาม มันยากที่จะรับมือหลังจบชีวิตนักฟุตบอล ผมใช้เวลา 1-2 ปีในการปรับตัว”

แต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความรุ่งโรจน์ในเส้นทางใหม่ Duet Group มีมูลค่าสินทรัพย์สูงถึง 1.9 พันล้านปอนด์ให้บริหาร ก่อนที่อีก 6 ปีหลังจากนั้น เวกา ได้ก่อตั้ง เวกา สวิส แอสเซ็ต แมเนจเมนจ์ ที่ปัจจุบันมีทรัพย์สินของลูกค้าในความดูแลถึง 635 ล้านปอนด์ (25,000 ล้านบาท)


photo : Aargauer Zeitung

สมัยค้าแข้งเวกา ได้รับค่าเหนื่อยเพียงแค่ 15,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (6 แสนบาท) แต่จากสถิติเมื่อปี 2015 ระบุว่านับตั้งแต่เลิกเล่นเมื่อปี 2003 เขาทำเงินไปถึง 15 ล้านปอนด์ (ราว 600 ล้านบาท) ตลอดระยะเวลาในเส้นทางสายนี้

หากเทียบให้เห็นภาพ เฉลี่ยแล้ว เวกา มีรายได้ตกปีละ 1.25 ล้านปอนด์ มากกว่าสมัยค้าแข้ง (ปีละ 780,000 ปอนด์) เกือบเท่าตัวเลยทีเดียว กลายเป็นอดีตนักฟุตบอลที่ยังคงมีรายได้มหาศาลหลังเลิกเล่น

เขาเพียงโชคดีหรือเป็นคนมองการณ์ไกล?  

อนาคตสร้างได้

บริษัทจัดการสินทรัพย์ของเวลาไม่ใช่แค่งานพาร์ทไทม์ของคนที่เกษียณตัวเองจากอาชีพนักฟุตบอล แต่งานนี้กลับเป็นอาชีพที่เขาทุ่มเวลาไปกับมัน มากกว่าสมัยเป็นนักเตะเสียอีก เวกา เริ่มงานตอน 7 โมงเช้า ก่อนจะไปเลิกงานตอน 4 ทุ่ม เขาทำงานถึง 15 ชั่วโมงต่อวัน

สิ่งที่ผลักดันทำให้เขาสามารถทำแบบนี้ได้ ไม่ใช่เป็นเพราะผลตอบแทนเพียงอย่างเดียว แต่คือความหลงใหลในเส้นทางการเงินที่มีมาตั้งแต่สมัยยังเด็ก

“การเงินเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตนักฟุตบอลของผมมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตในบ้านเกิดที่สวิตเซอร์แลนด์” เวกากล่าวกับ Daily Mail


photo : Daily Mail

“ตอนที่ผมเซ็นสัญญากับกราสฮ็อปเปอร์ ซูริก ตั้งแต่ผมยังเด็กๆ พวกเขากำลังทดสอบโครงการฝึกงาน ผมจึงไปลงเรียนปริญญาเกี่ยวกับธนาคารและการเงิน

“ตอนนั้นผมอายุแค่ 16 ผมไม่รู้ว่าทำไมสโมสรมีคอร์สนี้ ผมซ้อม ไปทำงานที่ธนาคารในตอนบ่าย และมาซ้อมอีกครั้งตอนกลางคืนเป็นเวลา 3 ปี

“ส่วนใหญ่เพื่อนร่วมทีมผมจะมีแต่ฟุตบอล ฟุตบอล และฟุตบอล ผมไปทำงานที่ Credit Suisse ก่อนที่หุ้นจะเปลี่ยนเป็นระบบอิเล็คโทรนิคเสียอีก ผมเคยต้องนั่งรับโทรศัพท์เครื่องเก่าที่โต๊ะซื้อขายหุ้น ผมอยู่ตรงนั้นซื้อหุ้น 1,000 หุ้น และจดมันลงไปในสมุดสีดำเล็กๆ ของผม ที่ชั้นซื้อขายมันว้าวมาก ทุกคนเหล่านี้ต่างแนบหูไว้กับโทรศัพท์ มันตื่นตามาก”

เวกา เป็นนักฟุตบอลที่ทุ่มเททุกครั้งยามลงสนาม เขาเต็มที่มาโดยตลอดกับเส้นทางชีวิตนักฟุตบอลอาชีพ แต่เขาก็ยอมรับว่าบางครั้งเขาก็อดที่จะคิดถึงเรื่องการเงินไม่ได้ในสมัยที่ยังค้าแข้ง

“ผมสนใจในเรื่องการเงินมาโดยตลอด แน่นอนว่าผมเต็มที่กับการเล่นฟุตบอล แต่ผมยังติดต่อกับเพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน พวกเขากลายเป็นกรรมการผู้จัดการอยู่ทั่วโลก

“ผมไม่เคยเบื่อกับชีวิตนักฟุตบอล มันตรงกันข้ามเลย บางครั้งเรากำลังเดินทางไปเบิร์นลีย์ และเพื่อนของผมกำลังจัดการเรื่องเงินที่ปารีส ผมอิจฉาพวกเขา แต่มันเป็นเรื่องยาก ทุกวันในชีวิตฟุตบอลผมตื่นขึ้นมาด้วยความสุข แต่ในหัวของผมอยากจะคิดเรื่องบางอย่างควบคู่ไปด้วย”

ในตอนแรก เวกา เป็นเพียงผู้ซื้อขายในตลาดการเงินเท่านั้น แต่จุดเปลี่ยนมาถึงเมื่อมีคนเข้ามาขอคำแนะนำจากเขา เขาเริ่มเห็นช่องทางในอนาคต ซึ่งมันก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นในการตั้งบริษัทของเขาในเวลาต่อมา


photo : Daily Mail

“ผมใช้เวลาครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงเพื่ออ่านสิ่งที่ผมต้องจัดการ ผมมีซองเอกสารการเงินเล็กๆ  มันเป็นเรื่องยากเมื่อคุณเล่นฟุตบอล และต้องจัดการสิ่งที่คุณมีทุกวันอย่างเหมาะสม ผมจึงมีผู้จัดการกองทุน และคุยกับเขาอาจจะแค่ 10 นาที ตั้งแต่เรื่องตราสารอนุพันธ์ ตลาดตราสารทุน ผมจะตัดสินว่าผมต้องการซื้ออะไรและตรวจสอบรายงานความเป็นไปได้ที่จะทำเงินของมันที่ผมจะซื้อที่อเมริกา นั่นคือความสนุก

“มันมาถึงจุดที่มีคนขอคำแนะนำจากผม ‘คุณคิดยังไงกับเรื่องนี้’ ผมมีออฟฟิศเล็กๆ อยู่ข้างหลังที่พักของโค้ช ผมพูดภาษาอังกฤษ เยอรมัน อิตาลี ฝรั่งเศสและสเปน ดังนั้นผมจึงสามารถต่อรองสัญญาเช่ากับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นชาวต่างชาติได้ ผมควรจะเรียกค่าคอมมิชชั่น นั่นคือสิ่งที่ผมคิดในตอนนั้น”  

และมันก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ เวกา จริงจังกับเส้นทางสายนี้จนกลายเป็นหนึ่งในคนที่ประสบความสำเร็จ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังอยากมีส่วนร่วมกับอีกสิ่งหนึ่งที่เขายังรักและรู้สึกเป็นหนี้บุญคุญกับมัน นั่นก็คือฟุตบอล

คิดถึงวงการฟุตบอลเสมอ

“ผมก็ยังอยากกลับไปในวงการฟุตบอล” เวกากล่าวกับ The Sun

“มันไม่ใช่แค่เพียงความรู้ที่ผมมีในอุตสาหกรรมฟุตบอล แต่ยังรวมไปถึงช่วงเวลาทั้งหมดที่ผมมีในอุตสาหกรรมทางการเงิน และผมคิดว่าวันนี้นี่คือสิ่งจำเป็น”

แม้จะประสบความสำเร็จในเส้นทางใหม่ แต่เวกา ก็ยังอยากจะนำความรู้และประการณ์ที่เขาสั่งสมมาใช้กับวงการฟุตบอลที่เขารัก ไม่ว่าจะในเชิงธุรกิจ หรือบริหารก็ตาม


photo : Daily Mail

ปี 2009 เขาพยายามซื้อสโมสรพอร์ทสมัธที่ตอนนั้นยังเล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก แต่ไม่สามารถหาเงินทุนมาการันตีข้อเสนอของตัวเองได้ ทำให้ดีลต้องล่มลงไป ในปี 2015 เขาสร้างความฮือฮาด้วยการเสนอตัวเป็นผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับเลือก

ทุกวันนี้เขายังอยู่ในวงการการเงิน และมองหาลู่ทางหวนคืนสู่วงการฟุตบอล เขาเพิ่งจะให้สัมภาษณ์กับ The Sun เมื่อปี 2018 ว่าอยากจะเข้าไปบริหารสโมสรฟุตบอล เขาพร้อมสนอง หากมีคนเสนอ

“ผมสามารถกลับสู่วงการฟุตบอลได้ในตอนนี้ ผมพร้อม ผมไม่มีกำหนดเวลา ผมสามารถทำมันได้เลย ถ้าบางคนต้องการคนอย่างผม” เวกากล่าว

“ฟุตบอลยังคงอยู่ในใจผมเสมอ ผมคงจะไม่ใช่ผมในวันนี้ ถ้าไม่ได้เล่นฟุตบอลอาชีพ”  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook