หมดเวลาของมะกูดี

หมดเวลาของมะกูดี

หมดเวลาของมะกูดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : จัดหนักเมื่อสัปดาห์ก่อน ผมเขียนเรื่อง "อนาคตบอลไทย ใครเป็นผู้กำหนด?" ซึ่งในช่วงท้าย ผมได้หยิบยกบทความของ "เจสซี่ ฟิงค์" คอลัมนิสต์ชื่อดังจาก foxsportsasia.com ในชื่อเรื่อง Fink: FIFA's betrayal of Thai fans (ฟิงค์: การหักหลังแฟนฟุตบอลชาวไทยของฟีฟ่า) มานำเสนอในบางช่วงบางตอน

ฟิงค์ ได้จัดหนักถึงการทำงานของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า

การเลือกที่จะรับฟังทุกอย่างจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แต่เพียงผู้เดียว โดยไม่สนใจเสียงของแฟนฟุตบอล สโมสร และฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลไทยนั้น ถือเป็นการกระทำที่น่าละอายอย่างยิ่ง และตรงกันข้ามกับเป้าหมายที่ต้องการพัฒนาตัวเองเป็นองค์กรที่โปร่งใสตรวจสอบได้อย่างสิ้นเชิง

มาวันนี้กับบทความชิ้นล่าสุดของ "ฟิงค์" ในชื่อ Fink: Time for Makudi to go (ฟิงค์ : หมดเวลาของมะกูดี) ที่ทวีความเข้มข้นจนไม่อยากให้แฟนๆ ฮอตสกอร์พลาด แต่ต้องขออนุญาตตัดบางส่วนบางคำที่หนักเกินทิ้งไปเพื่อความเหมาะสม

"ฟิงค์" ชี้ว่าประเทศไทยมีหลายสิ่งหลายอย่างเป็นที่รู้จักของนานาประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อาหารที่ขึ้นชื่อ, ชายหาดมากมาย, ความอุดมของประชากรเพศที่ 3 รวมถึงการก่อรัฐประหารที่เกิดขึ้นถึง 18 ครั้งนับตั้งแต่ปี 1932 เป็นต้นมา


ล่าสุดก็คือ วรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ฟังดูอย่างกับพวกสายลับในสมัยสงครามเย็นจากภาพยนต์เรื่อง "เก็ท สมาร์ท" ที่ต้องคอยปกปิดตนเอง

พินิจ งามพริ้ง หนึ่งในผู้ท้าชิงตำแหน่ง ได้เอ่ยถามถึงความโปร่งใสของ วรวีร์ ทั้งในด้านการเงิน การตัดสินใจทางธุรกิจ และการแต่งตั้งบุคลากรในตำแหน่งต่างๆ

แน่นอนว่า สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยากที่จะทำให้ทุกอย่างโปร่งใสได้ทั้งหมด มีเพียงสิ่งเดียวที่ชัดเจนก็คือความปรารถนาของ วรวีร์ ที่หลงยึดติดกับอำนาจ

แม้ความเป็นจริงเขายังไม่ยอมจัดให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ ซึ่งเป็นการต่อต้านเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของ 108 สโมสร ซึ่งเกินกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมดที่ได้ลงนามเพื่อเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งในวันที่ 23 กรกฎาคม ซึ่งสอดคล้องกับข้อบังคับขององค์กรกีฬาท้องถิ่น (การกีฬาแห่งประเทศไทย)

แต่ คุณวรวีร์ ก็ยังพลิ้วต่อไปได้เรื่อยๆ

ผมรู้สึกอึ้งกับการกระทำเช่นนี้ เก้าอี้ของเขาขึ้นอยู่กับเหล่าสโมสร ซึ่งไม่ได้เลือกเขา ดังนั้นเขาจึงทำนิ่งเฉยและไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ

แฟนบอลทุกสนามฟุตบอลทั่วทั้งประเทศพากันถือป้ายหรือสัญลักษณ์ที่เขียนว่า "วีวี ออกไป" มีการนำรูปถ่ายมาเหยียบ และถูกเอาไปเขียนการ์ตูนล้อเลียน

วรวีร์ โด่งดังในฐานะผู้บริหารองค์กรกีฬาแบบเดียวกับ ฆวน อันโตนิโอ ซามารานช์ อดีตประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) แต่เขา (วรวีร์) ก็ไม่ได้สนใจอะไร

เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะมีทางออกจากข้อตกลงบางอย่างที่น่าสงสัยจากการประชุมกับฟีฟ่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนก่อให้เกิดการลดจำนวนสโมสรที่มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งจาก 184 ให้เหลือ 72 เสียง

ไม่มีคำอธิบายหรือเหตุผลใดๆ รองรับ ไม่เคยมีคำสั่งออกมา มันเป็นเพียงความคิดเห็นและข้อสรุปร่วมกันซึ่งมี วรวีร์ ร่วมอยู่ด้วยเท่านั้น

ฟีฟ่า ทำตัวไร้จุดยืนในการเป็นผู้รับผิดชอบอย่างแท้จริงสำหรับเรื่องราวที่เหลวไหลและคลุมเครือครั้งนี้ แม้มีหน้าที่โดยชอบธรรมที่จะต้องคอยตอบทุกคำถาม แต่พวกเขาลังเลและหลีกหนีปัญหา การทำสิ่งที่ถูกต้องให้กับวงการฟุตบอลไม่ใช่จุดแข็งของฟีฟ่าเลย

ดังนั้นหาก วรวีร์ ไม่ยอมจัดการเลือกตั้ง และไม่ยอมปลีกตัวเองไปอยู่เบื้องหลังในการคอยช่วยเหลือวงการฟุตบอลในชาติ แล้วอะไรล่ะ คือแนวทางที่จะกำจัดเขาออกไป

รถถังเคยถูกเอามาใช้ขับไล่เจ้าหน้าที่ฟุตบอลรึเปล่านะ?

เรื่องโดย "เอ็ม ฮอตสกอร์"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook