ดวลโทษระทึก! "อินทรีเหล็ก" คว่ำ "อัซซูรี่" 6-5 ทะยานรอบรองฯ
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/sp/0/ud/49/249481/germamamamazx.jpgดวลโทษระทึก! "อินทรีเหล็ก" คว่ำ "อัซซูรี่" 6-5 ทะยานรอบรองฯ

    ดวลโทษระทึก! "อินทรีเหล็ก" คว่ำ "อัซซูรี่" 6-5 ทะยานรอบรองฯ

    2016-07-03T04:52:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    ฟุตบอลยูโร 2016 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
    วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม 2559
    เยอรมัน 1-1 อิตาลี
    (ต่อเวลาพิเศษ เสมอกัน 0-0, เยอรมัน ชนะจุดโทษ 6-5)
    สนาม : นูโว สต๊าด เดอ บอร์กโดซ์


    เริ่มเกมเพียงแค่ 15 นาที อินทรีเหล็กก็ต้องเปลี่ยนเอา บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ลงสนามมาแทน ซามี่ เคดิร่า ที่ได้รับบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว

    นาทีที่ 27 อินทรีเหล็ก ส่งบอลเข้าไปกองในก้นตาข่ายได้สำเร็จ จากจังหวะที่ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ วางบอลเข้าไปในเขตโทษ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ โหม่งตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ประตูเพราะมองว่าไปผลัก มัตเตีย เด ชีโย่ ก่อนที่จะขึ้นโหม่ง

    นาทีที่ 41 เยอรมัน ต่อเกมขึ้นมา โจชัว คิมมิช เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าไปในเขตโทษ มาริโอ โกเมซ ได้เทกตัวโหม่ง แต่บอลเหินข้ามคานออกไปไกล

    นาทีต่อมา โยนาส เฮคเตอร์ วางบอลเข้าไปให้ โทนี่ โครส ได้ยิงบอลติดบล็อกกระดอนไปเข้าทาง โจชัว คิมมิช ผ่านบอล โธมัส มุลเลอร์ ตวัดยิงแต่ไม่ดีพอบอลไปตรงตัว จานลุยจิ บุฟฟ่อน ล้มตัวรับไว้ได้

    นาทีที่ 44 อัซซูรี่ ได้โอกาสใกล้เคียงสุด เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ วางบอลยาวให้ เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ หลุดเดี่ยวเข้าไปที่เสาแรกก่อนหักกลับไปหน้าประตู สเตฟาโน่ สตูราโร่ วิ่งซัดเต็มๆแต่บอลแฉลบ เยโรม บัวเต็ง ออกหลังไป หมดครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเจาะประตูกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ 0-0

    กลับมาเตะกันต่อในครึ่งหลัง นาทีที่ 53 อินทรีเหล็ก เกือบได้ประตูออกนำ มาริโอ โกเมซ เก็บบอลได้ในเขตโทษก่อนดีดขึ้นหลังให้ โธมัส มุลเลอร์ แตะหลบแล้วซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเข้าหาประตูแต่ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ กระโดดเคลียร์ออกไปได้เหลือเชื่อ

    นาทีที่ 65 กองเชียร์อินทรีเหล็กได้เฮลั่น มาริโอ โกเมซ เก็บบอลได้ริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนไหลเข้าเขตโทษให้ โยนาส เฮคเตอร์ หลุดเข้าไปผ่านบอลไปหน้าประตู เมซุต โอซิล วิ่งเข้ามาแปด้วยซ้ายตุงตาข่าย เยอรมัน ขึ้นนำ 1-0

    สามนาทีต่อมา เยอรมัน เกือบได้ประตูนำห่าง เมซุต โอซิล วางบอลเข้าเขตโทษให้ มาริโอ โกเมซ หลุดเข้าไปพักอกก่อนตกส้นหมายทำประตู แต่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน พุ่งปัดเอาไว้ได้

    นาทีที่ 76 จากลูกเตะมุม อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ เปิดโด่งไปในเขตโทษ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ โหม่งไปโดนแขนของ เยโรม บัวเต็ง ผู้ตัดสินเป่าเป็นแฮนด์บอลและให้ชี้เป็นจุดโทษให้กับ อิตาลี

    นาทีที่ 78 เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปไม่พลาด อิตาลี ตามตีเสมอเป็น 1-1ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมพยายามจะทำประตูกัน แต่ก็ยังขาดๆเกินๆ ครบ 90 นาที เสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป 30 นาที

    แต่ก็ไม่มีฝ่ายใดทำประตูได้ ทำให้ต้องไปตัดสินชี้ขาดด้วยการยิงจุดโทษ และเป็น เยอรมัน ที่เป็นฝ่ายทำได้ดีกว่า เอาชนะไปได้ 6-5 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ

    รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
    เยอรมัน (4-4-2) : มานูเอล นอยเออร์ - โยนาส เฮคเตอร์, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, เยโรม บัวเต็ง, เบเนดิกท์ โฮเวเดส - โทนี่ โครส, ซามี่ เคดิร่า, โจชัว คิมมิช, เมซุต โอซิล - โธมัส มุลเลอร์, มาริโอ โกเมซ
    อิตาลี (3-5-2) : จานลุยจิ บุฟฟ่อน ; อันเดรีย บาร์ซายี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ;  มัตเตีย เด ชีโย่, มาร์โก ปาโรโล่, สเตฟาโน่ สตูราโร่, เอมานูเอเล่ จัคเครินี่, อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ ; เอแดร์, กราเซียโน่ เปลเล่
    ผู้ตัดสิน : วิคเตอร์ คาสไซ (ฮังการี)