เจมี่ วาร์ดี้ ในหัวของผมมีแต่อังกฤษเท่านั้น!

เจมี่ วาร์ดี้ ในหัวของผมมีแต่อังกฤษเท่านั้น!

เจมี่ วาร์ดี้ ในหัวของผมมีแต่อังกฤษเท่านั้น!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แสงหน้าจอโทรศัพท์สว่างวาบขึ้นมาครู่หนึ่ง

เจมี่ วาร์ดี้ ที่เพิ่งกลับมาสู่โรงแรมที่พักของทีมชาติอังกฤษในช็องติญี ทางพิคาร์ดี้ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะพบว่าข้อความดังกล่าวถูกส่งมาจากเจ้านายอีกคนของเขาในทีมระดับสโมสรเคลาดิโอ รานิเอรี่

ข้อความนั้นประกอบไปด้วยข้อความเพียง 2 คำที่เรียบง่ายแต่แสนหวาน ตามตัวตนของรานิเอรี “ขอแสดงความยินดีด้วย แชมป์”

หากเป็นคนไม่คิดมาก ข้อความจากรานิเอรี่ ไม่มีนัยอย่างอื่นแอบแฝง มันมีความหมายตามนั้น แต่หากมองอย่างคนคิดมาก ก็น่าคิดว่านี่คือความพยายามจากกุนซือชาวอิตาเลียนที่ไม่ต้องการจะเสียหัวหอกหมายเลขหนึ่งของทีมไปให้กับ อาร์เซนอล

หรือไม่ คิดอะไรก็คิดไป เพราะวาร์ดี้ ยืนยันชัดเจนว่าเขาไม่คิดกับเรื่องนี้ในระหว่างนี้อย่างแน่นอน

“สิ่งเดียวที่ผมต้องการจะทำที่นี่นั่นคือการเล่นฟุตบอลด้วยความสามารถที่ผมมี” เขาอธิบาย “”ถ้าผมปล่อยให้เรื่องพวกนี้บั่นทอนสมาธิของผม ผมจะไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เลย ดังนั้นในหัวผมตอนนี้ทุกอย่างว่างเปล่าหมด

มีเพียงแต่คำว่า อังกฤษ อังกฤษ และอังกฤษ เท่านั้น”

แต่เรื่องพวกนี้นั้นพูดง่ายกว่าทำ โดยเฉพาะสำหรับนักเตะที่กำลังเนื้อหอมที่สุดคนหนึ่งของอังกฤษในเวลานี้ ข้อเสนอจากทีมระดับท็อปของประเทศ ซึ่งมีทุกอย่างพร้อมสรรพขาดแค่นักเตะสักคนที่จะจุดประกายพาทีมกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

และอาร์แซน เวนเกอร์ ปราชญ์ลูกหนังของวงการ มองเห็นวาร์ดี้ ว่าเป็นคนนั้น

สำหรับนักฟุตบอลที่ผ่านช่วงชีวิตที่ยากลำบาก เคยถูกปฏิเสธจากเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ต้องเล่นฟุตบอลไปพลางรับจ็อบไปพลางที่ สต็อกบริดจ์ ปาร์ค สตีลส์ เคยถูกทัณฑ์บน ก่อนชีวิตจะก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว

ไปสู่ฮาลิแฟ็กซ์, ฟลีทวูด ทาวน์ และมาสู่ เลสเตอร์ ซิตี้ โอกาสได้ร่วมสโมสรในระดับ Elite แบบนี้เป็นสิ่งที่เหนือจินตนาการของเขาไม่น้อย


คำถามถูกยิงใส่อีกครั้งอย่างจงใจ หวังจะให้มีอะไรสักอย่างหลุดออกมาจากปากของเขาแต่ก็ไม่มีอะไรมากกว่า “ผมไม่ได้รับอนุญาตให้พูดเรื่องพวกนี้ได้”

อนาคตอาจไม่ใช่สิ่งที่ วาร์ดี้ สามารถพูดถึงได้ในเวลานี้ แต่เขาสามารถพูดเรื่อง “ปัจจุบัน” ที่เป็นยิ่งกว่าฝันได้

วาร์ดี้ ซึ่งกำลังจะมีหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองในชื่อ Nowhere, My Story กล่าวถึงช่วงชีวิตที่เหมือนฝันของเขาว่า “ทุกวันนี้ผมยังหยิกแขนตัวเองอยู่เลย ที่มาที่ไปของผมในวงการฟุตบอลนั้นไม่ใช่ความลับ

และผมไม่เคยลืมว่าผมมาจากไหน การได้ทำประตูให้ทีมชาติประเทศของตัวเองในรายการยูโร มันเป็นความรู้สึกที่ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร”

กองหน้าวัย 29 ปี อธิบายว่าเส้นทางชีวิตของเขาเหมือน “นักเดินทาง” ที่ทุกย่างก้าวและที่หมายของเขาแต่ละจุดนั้นใหญ่มาก “ทุกย่างก้าวของผมนั้นใหญ่มาก” เขากล่าว

“กับการเริ่มจากคอนเฟอเรนซ์ ลีก มาสู่แชมเปี้ยนชิพ (ฟลีทวูด มาเลสเตอร์) ก็ยิ่งใหญ่แล้วสำหรับผม ตอนที่เลสเตอร์ เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกก็เป็นอีกขั้น แล้วก็มาสู่เกมระดับชาติ ทุกย่างก้าวนั้นยิ่งใหญ่หมด”

สิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือ วาร์ดี้ มีปัญหาที่ข้อมือของเขาซึ่งมีกระดูกแตก แต่กระนั้นเขายังลงเล่นให้กับเลสเตอร์ ทำได้ 24 ประตูจนพาทีมเป็นแชมป์ และในเวลานี้อาการนั้นยังคงอยู่ “ผมมีรอยร้าวใหญ่ 2 แห่งที่ข้อมือของผม

ซึ่งจเป็นต้องได้รับการรักษา และนั่นทำให้ผมต้องใส่เฝือกอ่อนไว้ ผมจะเข้ารับการผ่าตัดหลังจบทัวร์นาเมนต์ และจะทำให้ผมต้องพักการเล่น 3 สัปดาห์ ผมเจ็บตั้งแต่เกมกับ แอสตัน วิลล่า

เมื่อช่วงต้นฤดูกาลที่แล้ว และมันก็มีรอยร้าวมาตั้งแต่นั้น”

ด้วยน้ำเสียงแล้ว ดูเหมือนวาร์ดี้ จะมุ่งมั่นกับการรับใช้ทีมชาติอังกฤษเท่านั้นในเวลานี้ และสำหรับเขาแล้ว ในความคิดการเล่นให้อังกฤษก็ไม่ต่างอะไรจากการเล่นให้เลสเตอร์

“เราต้องลงสนามด้วยความคิดว่า ไม่ว่าเราจะเจอใครก็ตาม เราสามารถเอาชนะได้ ทุกคนแพ้เป็น ไม่มีอะไมากกว่านั้น ดังนั้นขอแค่เปิดเกมบุก เดินหน้าลุย แล้วรอดูผลลัพธ์ นี่คือวิธีที่ดีที่สุด

ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรที่เราจำเป็นต้องกังวล ถ้าเราเริ่มกังวล ทุกอย่างมันจะเริ่มผิดพลาดไปเองหมด เรารู้ว่านักเตะในทีมเรามีความสามารถสูง ดังนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกลัวทีมอื่น”

กระแสเรียกร้องให้ รอย ฮอดจ์สัน เลือกใช้งานเขาในฐานะกองหน้าตัวจริงมีมาตั้งแต่ก่อนเริ่มรายการจนกระทั่งถึงวันที่เขาได้โอกาสลงเล่นในเกมกับเวลส์ และทำประตูสำคัญช่วยให้อังกฤษตีเสมอได้ แต่สำหรับ วาร์ดี้

เขาพอเข้าใจว่าเหตุใดกุนซือขรัวเฒ่าจึงเลือกจะเก็บ พลัง และความเร็วของเขาเอาไว้สำหรับการทำลายเกมรับคู่ต่อสู้ในฐานะ “ซูเปอร์ซับ"

“มันมีเหตุมีผลอยู่ในเรื่องนี้” วาร์ดี้ ชี้แจง “ถ้าผู้เล่นคู่ต่อสู้เริ่มที่จะอ่อนล้า การจะเจาะทะลวงก็เป็นเรื่องง่าย ซึ่งผมเองก็พร้อมจะลงสนามไม่ว่าจะในบทบาทไหน แต่มันก็ขึ้นอยู่กับผมเองเช่นกันในว่าจะทำได้ดีแค่ไหนในการฝึกซ้อมเพื่อให้ชนะใจเจ้านาย”

แต่เขายืนยันว่าถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากเป็นตัวจริง “ผมหวังว่าผมจะได้ลงเป็นตัวจริง ผมรู้สึกว่านี่เป็นช่วงเวลาของผม ผมมีความมั่นใจโดยเฉพาะจากผลงานตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา

ถ้าผมได้โอกาส ผมส่งบอลเข้าไปกองก้นตาข่ายได้แน่นอน” แฟนบอลทีมสิงโตคำรามเองก็หวังแบบนั้นเช่นกัน

by ลูกแม่กิ่ง (lookmaeking@hotmail.com)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook