ยังไม่มีแพลนแต่ง! "ลีซอ" ลั่นฟิตเปรี๊ยะขอโฟกัสเกมลูกหนังตั้งเป้าติดทีมชาติอีกครั้ง

ยังไม่มีแพลนแต่ง! "ลีซอ" ลั่นฟิตเปรี๊ยะขอโฟกัสเกมลูกหนังตั้งเป้าติดทีมชาติอีกครั้ง

ยังไม่มีแพลนแต่ง! "ลีซอ" ลั่นฟิตเปรี๊ยะขอโฟกัสเกมลูกหนังตั้งเป้าติดทีมชาติอีกครั้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไม่ว่าจะวงการไหนๆ ในช่วงนี้ก็ได้รับพิษของโควิด – 19 กันทั่วหน้า ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ วงการลูกหนังที่ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ ซึ่งวันนี้ ธีรเทพ วิโนทัย หัวหอกจอมเก๋าของ ชลบุรี เอฟซี ได้มาเปิดใจผ่านรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 กับสองพิธีกร ดร.อั๋น ภูวนาท และ ปุยฝ้าย  ณัฏฐพัชร์  

ถึงสนามปิดและต้องหยุดพักซ้อม และ แข่งที่สนามก็จริง แต่ตัวเองและทีมต้องฟิตซ้อมอยู่ที่บ้านเองเหมือนเดิมตามตารางที่โค้ชได้กำหนดมาให้ เรียกว่า ต้องรักษาวินัยให้กับตัวเองมากกว่าเดิม โดยเฉพาะตัวเองเพราะที่ยังซ้อมหนัก ฟิตอยู่เสมอเพราะยังหวังว่าจะได้มีโอกาสกลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง
 
leesasal33
ลีซอ : ด้วยสภาพร่างกายของเราที่ยังดีอยู่ มันยังไม่รู้สึกเบื่อหรืออยากจะเลิกเลยครับ มันยังมีความกระหายอยู่ ยังมีแรงบันดาลใจที่อยากจะทำยัง อยากกลับไปติดทีมชาติไทยอยู่ให้ได้อีกสักครั้งหนึ่ง เพื่ออยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นวว่า 35 ยังสามารถกลับไปติดทีมชาติไทยได้นะ มากที่สุดที่อยู่ในวงการฟุตบอล คือ 41 ครับ พี่เทิดศักดิ์ ใจมั่น ครับ จริงๆ ผมก็อยากทำให้เท่าพี่เขานะครับ ผมก็ยังมองภาพตัวเองไม่ออกเหมือนกันถ้าจะต้องเดินออกจากวงการนี้ไป เพราะเราเข้ามาตั้งแต่เด็ก แล้วชีวิตเราก็มีแต่ฟุตบอล ก็พยายามจะเล่นให้นานที่สุด ตอนนี้ยังไม่มีแพลนอะไรเลยครับ
 
ลีซอ : ตอนนี้อยู่ที่ชลบุรีเอฟซีครับ อายุ 35 แล้ว ถามว่าเยอะมั้ยสำหรับคนในวงการฟุตบอลก้ถือว่าเยอะครับ ส่วนใหญ่รุ่นๆผมก็เลิกกันไปหมดล่ะ ช่วงนี้ก็ยังซ้อมเหมือนเดิมครับ ไม่ได้หยุดเลยตอนนี้เอาโรงรถที่พอมีบริเวณอยู่บ้างเล็กครับไม่ใหญ่มากเป็นที่ซ้อม คือ เราซ้อมร่วมกันผ่านทางออนไลน์กับโค้ช กับทีมครับ คือยังซ้อมเหมือนปกติ
 
leesasal
ลีซอ : ตอนแรกผมไม่ได้ฝันเป็นนักฟุตบอลครับ ผมก็เห็นการทำงานของคุณพ่อผมก็ฝันว่าอยากเป็นนักข่าวสายกีเหมือนคุณพ่อ เพราะว่านักข่าวสายกีฬาคือต้องตามนักกีฬาไปทำข่าวทุกที่มันมีโอกาสได้เดินทางไปทำข่าวทั่วโลกเรามองว่าสนุกดีเลย อยากเป็นนักข่าวเหมือนคุณพ่อ
 
ลีซอ : แต่ว่าช่วงนั้นคือเริ่มเล่นกีฬาบ้างแล้ว คุณพ่อก็อยากให้ลูกเล่นกีคือ พาเราไปเรียนเทนนิสก่อน ก่อนที่จะเล่นฟุตบอลตอนนั้นประมาณสัก 6-7 ขวบ หลีกเลี่ยงการปะทะด้วย กีฬาที่เรียนรู้คนเดียวเล่นง่ายๆ ส่งไปเรียนกับพี่ชายของพี่ภราดรครับ ช่วงนั้นเรียนได้ 1 ปีเทนนิส คือ ตอนนั้นก็เข้า กรุงเทพคริสเตียนแล้ว คุณพ่อ ก็จะมารับหลังเลิกเรียนแล้วพาไปทำข่าวที่สนามฟุตบอลด้วย ผมเลยได้เห็นสนามฟุตบอลบ่อย ได้เห็นบรรยากาศที่มันสนุกกว่าเทนนิส คือสนามฟุตบอลมันเฮฮา ร้องเพลงเฮฮา ทำให้เราอยากเป็นหนึ่งใน นักฟุตบอล ของสนามให้คนเค้าตะโกนเรียกชื่อ แล้วร้องเพลงที่เชียร์เรา แล้วผมเป็นคนที่ชอบอะไรที่ท้าทายเลยคิดว่า ฟุตบอลน่าจะเหมาะกับผมมากกว่า แล้วคือ ตอนที่ผมเรียนเทนนิส คือเอาลูกเทนนิส ไปเตะมากกว่าพ่อเลยถามว่าชอบฟุตบอลมากกว่าใช่มั้ย เลยได้เข้าทีมฟุตบอลของกรุงเทพ คริสเตียน แล้วตอนนั้นทีมฟุตบอลชุดเล็กสุดคือ 12 ปี แต่ตอนนั้นคือผม 8 ขวบ พ่อของผมอยากให้เข้าทีมแบบได้เห็นการซ้อม การเล่น อาจจะยังไม่ติดแท็กก็ได้ ก็ได้เข้าไปวิ่งตามพี่ๆเค้าตั้งแต่ 8 ขวบ แต่พอ 10 ขวบ ก็ได้เข้าทีมเป็นตัวจริงครับ

leesasal444
คือบางคนคนเล่นบอลแบบเล่น แต่เราเล่นแบบมีเป้าหมาย
ลีซอ : มันเหมือนพอเราชอบ แล้วพอเราได้ทำมันก็เลยยาวไปเลย เราทำเองทั้งหมดคุณพ่อให้เราเลือกเองทุกอย่าง ถ้าอยากทำอะไรเค้าจะพาเราไปทำ ผมอยู่กับฟุตบอลมากจนผมไม่ทานข้าว ไม่กินข้าว จนผมต้องเข้าโรงพยาบาลเป็นโรคขาดสารอาหารครับ คือ เราเรียนที่กรุงเทพคริสเตียนใช่มั้ยครับเวลาที่ 3 ช่วงกลางวัน ช่วงเย็น เราก็ไม่ทานข้าว เราทานแค่ช่วงเช้าก่อนมาโรงเรียน ช่วงนั้นผอมมาก เข้าโรงพยาบาล คือ เราไปซ้อม ไปเล่นฟุตบอลตลอดเลยทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น เพราะมันสนุกมาก
 
มีคิดไว้มั้ยจะลุยต่อถึงเมื่อไหร่
ลีซอ : ด้วยสภาพร่างกายของเราที่ยังดีอยู่ มันยังไม่รู้สึกเบื่อหรืออยากจะเลิกเลยครับ มันยังมีความกระหายอยู่ ยังมีแรงบันดาลใจที่อยากจะทำยัง อยากกลับไปติดทีมชาติไทยอยู่ให้ได้อีกสักครั้งหนึ่ง เพื่ออยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นวว่า 35 ยังสามารถกลับไปติดทีมชาติไทยได้นะ  มากที่สุดที่อยู่ในวงการฟุตบอล คือ 41 ครับ พี่เทิดศักดิ์ ใจมั่น ครับ จริงๆผมก็อยากทำให้เท่าที่เค้านะครับ ผมก็ยังมองภาพตัวเองไม่ออกเหมือนกันถ้าจะต้องเดินออกจากวงการนี้ไป เพราะเราเข้ามาตั้งแต่เด็ก แล้วชีวิตเราก็มีแต่ฟุตบอล ก็พยายามจะเล่นให้นานที่สุด ตอนนี้ยังไม่มีแพลนอะไรเลยครับ
 
leesasal22
ต่อให้เราไปถึงจุดสู้สุดแต่นักกีฬาทุกคนก็มีระยะเวลา มีอายุที่จะมีจุดสูงสุด ต้องเผื่อเวลามั้ยครับก่อนจะถึงปลายทางเราจะไปต่ออะไร
ลีซอ : อย่างบางคนก็จะมองไว้ตั้งแต่ 30 ครับ ถ้าหมดในตอน 35 เลิกแล้วจะทำอะไรบ้าง เพื่อนๆบางคน อาจจะไปวางแผนไปอบรมลายเส้นเพื่อที่จะไปเป็นโค้ช เป็นอะไรต่อไปข้างหน้า ผมจะคิดไม่เหมือนคนอื่นๆเท่าไหร่ ถ้าจะทำทำด้านบริหารมากกว่า บริหารองค์กร หรือ บริหารทีมฟุต คือ ด้วยประสบการณ์ของเราอาจจะช่วยบริหารทีมใดทีมหนึ่งได้ เช่น สมาคมฟุตบอล อะไรประมาณนั้นครับ คิดๆไว้น่าจะเป็นทางด้านบริหารครับ
 
ถ้าอยากเป็นนักกีฬาฟุตบอล หรือ คุณพ่อคุณแม่ ที่อยากผลักดันให้ลูกเป็นต้องไปแนวทางไหนดี
ลีซอ : คือถ้าเค้าชอบให้เค้าทำ พยายามส่งเสริมเค้า เค้าจะพัฒนาในสิ่งที่เค้ารักเค้าชอบไปในระดับที่ตั้งใจ แต่อย่างเดียวเลยครับ อย่าไปบังคับ 100 เปอร์เซ็นต์เลยถ้งบังคับไม่มีทางเลยที่จะประสบความสำเร็จ ถ้าเค้าจะทำคือ สนับสนุนเค้า ส่วนกีฬาฟุตบอล มองว่าเป็นอาชีพตอนนี้ได้แล้ว ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จจริงๆ คุณต้องทุ่มเทมาก เสียสละเวลามาก คุณก็จะได้รับค่าตอบแทนมหาศาล อย่างน้องๆ ที่ไปญี่ปุ่นหลายๆ คนก็เงินเดือนหลักล้าน พรีเซนเตอร์เข้ามาก็อยู่ได้สบายแล้วครับ
 
leesasal55
และในช่วงที่โควิดจะหยุดทุกออย่างแบบนี้ แต่ไม่อาจจะหยุดน้ำใจขอ หนุ่มลีซอ ได้ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ลงมือเข้าครัวทำอาหารไป มอบให้กับแพทย์ และบุคลากร ณ โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน สู้โควิด -  19  
 
ลีซอ : ได้ทำกิจกรรมไปร่วมแจกอาหารกับทางหน่วยแพทย์ต่างๆ ตามโรงพยาบาลเวชศาสตร์เป็นอาหารที่ผมทำประจำๆ อยู่ที่บ้าน อกไก่ ไข่ต้ม คือ ง่ายมากที่สุดแล้วครับ ทุกอย่างคือ ต้มเอา ไก่ ไข่ ผักครับ รู้สึกดีที่ได้ทำเพื่อช่วยคุณหมอ คุณพยาบาล ในช่วงนี้ครับ
 
ส่วนใครที่ลุ้นว่าข่าวดีของ ลีซอ กับแฟนสาว "เฟี๊ยต" อภิสรารัชต์ จิรเดชพงศ์ แฟนสาวหน้าหวานเจ้าแม่ธุรกิจความงาม ที่คบกันมา 7 ปี จะมีเมื่อไหร่นั้น งานนี้ ลีซอ เคลียร์ว่ายังไม่ถึงเวลาเพราะ ตอนนี้ยังขอโฟกัสเรื่องงานไว้ก่อน ส่วนเรื่องแพลนแต่งตอนนี้เราทั้งคู่ยังไม่ได้โฟกัส ปล่อยให้มันเป็นไปตามเวลาก่อนครับ ชมคลิปรายการ ต้มยำอมรินทร์  ย้อนหลังได้ที่ https://youtu.be/7qYbkDgo0LE

อัลบั้มภาพ 38 ภาพ

อัลบั้มภาพ 38 ภาพ ของ ยังไม่มีแพลนแต่ง! "ลีซอ" ลั่นฟิตเปรี๊ยะขอโฟกัสเกมลูกหนังตั้งเป้าติดทีมชาติอีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook